|
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (8 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ สน.บึงกุ่ม นายวิวัฒน์ อายุ 40 ปี เซียนพระเครื่องชื่อดัง เข้าแจ้งความและยื่นรายชื่อพระเครื่องที่ถูกขโมยไป หลังถูกนางสุธาทิพย์ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นน้องสาว กับนายวุฒิชัย น้องเขย ได้นำเอกสารสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และบัญชีธนาคารไปแอบอ้างหลอกลวง
โดย นายวิวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2557 ที่ผ่านมา ตนและนายสมเกียรติ ซึ่งเป็นคนขับรถ ได้ขับรถแท็กซี่ เพื่อไปกราบพระหลวงปู่บู่ ที่วัดสุมังคลาราม จ.สกลนคร แต่ประสบอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกับรถเครนระหว่างการเดินทาง หลังใช้เวลาในการพักรักษาตัวเป็นเวลานานกว่า 6 เดือน เมื่อออกจากรพ.แล้ว น้องสาวหลอกว่ามีคนหมายจะเอาชีวิต ตนจึงหลบหนีไปอยู่ที่อื่น จนกระทั่งวันที่ 19 มี.ค. 2558 ตนได้กลับมาที่ห้องพักเลขที่ 256 ชั้น 3 คอนโด ซ.เสรีไทย 19 แขวงบึงกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. พบว่าพระเครื่องกว่า 1,000 รายการ รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ได้หายไป จึงได้เข้าแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา
นายวิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่า น้องสาวและน้องเขยนำพระไปขาย จากการสอบถามจากเพื่อนในวงการพระที่ตลาดท่าพระจันทร์ พบว่ามีการนำพระเครื่องของตน ไปปล่อยขายลงในเว็บไซต์ของตนเอง โดยแอบอ้างชื่อของตนเอง และบอกกับกลุ่มลูกค้าว่าตนป่วยเป็นอัมพาต และมอบอำนาจการซื้อขายเป็นของตัวเองแล้ว ซึ่งราคาพระที่ขายจะถูกกว่าความเป็นจริงหลายเท่า หากเป็นการซื้อขายแบบโอนเงิน ลูกค้าจะทำการโอนเงินเข้าบัญชีของตน แต่น้องสาวเป็นคนถอนออกไป โดยใช้หลักฐานเอกสารจากสำเนาบัตรประชาชน และสมุดบัญชีธนาคารของตนสร้างความน่าเชื่อถือ
นอกจากนี้ ยังไปหลอกลวงนายสมเกียรติ ซึ่งเป็นคนขับรถที่พาตนไปประสบอุบัติเหตุ ว่าตนจะเอาเรื่อง และเรียกเงินจากนายสมเกียรติจำนวน 90,000 บาท ตนจึงต้องเดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อป้องกันการนำชื่อของตนเองไปแอบอ้างหลอกลวงผู้อื่นอีก
เบื้องต้น จากการตรวจสอบชื่อ นางสุธาทิพย์ พบว่ามีประวัติอาชญากร และหมายจับคดีฉ้อโกงต่างๆ อยู่ แต่กรณีดังกล่าวทั้งสองเป็นเครือญาติกัน จึงจะทำการออกหมายเรียกนางสุธาทิพย์ กับนายวุฒิชัย มาสอบปากคำก่อน 2 ครั้ง หากยังไม่มาเข้าพบจะทำการออกหมายจับต่อไป
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก มติชนออนไลน์