เด็ก9ขวบป่วยมะเร็งต้องควักลูกตาทิ้ง 2 ข้าง ปั่นจักรยานไปไหนมาไหนได้ - อาศัยคนคอยบอกทาง
2015-04-08 13:38:07
Advertisement
คลิก!!!

 

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 เมษายน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้าน 15 หมู่ 15 บ้านโนนสมบูรณ์ ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี หลังทราบว่าที่นี่มีเด็กที่พิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง แต่มีความสามารถขับขี่รถจักรยานได้เหมือนคนตาดี ๆ โดยมีคนตาดีเป็นคนบอกทางแทน
 
ถึงบ้านดังกล่าวเป็นบ้านชั้นเดียว มี นางพงษ์รัตน์ ราชาทัต อายุ 42 ปี เจ้าของบ้านอยู่พร้อมกับญาติพี่น้องและเด็กอายุประมาณ 7- 10 ปี อีก 3-4 คน พบว่าเด็กคนที่พิการตาบอดทั้ง 2 ข้างคือด.ช.อานนท์ หรือน้องนนท์ เว้นบาป อายุ 9 ปี เป็นลูกชายของนางพงษ์รัตน์ โดยเด็กตาบอดทั้ง 2 ข้าง มาจากเป็นโรคมะเร็งใต้ตา หลังจากคลอดออกมาได้เพียง สามเดือน แพทย์ต้องใช้วิธีควักลูกตาออกทิ้งทั้ง 2 ข้าง หมอเคยบอกว่าจะมีชีวิตอยู่เพียง 3 ปี แต่ก็อยู่มาถึงปัจจุบันนี้  และมีความสามารถพิเศษขี่รถจักรยานได้เหมือนคนตาดีๆ เนื่องจากมองไม่เห็นแม่จึงนำเอาหลานมาเลี้ยงคู่กัน ให้เป็นสายตาแทนลูก
 
นางพงษ์รัตน์ เปิดเผยว่า สามีทำงานรับจ้างก่อสร้าง ได้รับค่าจ้างวันละ 300 บาท ครอบครัวตนมีลูก 3 คน คนโต 2 คน มีครอบครัวไปหมดแล้ว  ส่วนน้องนนท์ เป็นลูกคนสุดท้อง ตอนคลอดต้องใช้วิธีการผ่าออกทางหน้าท้องที่ ร.พ.อำเภอเพ็ญ จ.อุดรธานี พอน้องนนท์  อายุได้ 3  เดือน พอลืมตาได้ก็ร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งตนก็เข้าใจผิดตามประสาชาวบ้านว่า แม่ซื้อ-แม่เก่า ชาติที่แล้ว มาหยอก จึงนำไปให้ผู้เฒ่า ผู้แก่ และพระทำพิธีผูกแขนให้ แต่ก็ไม่หยุดร้อง จึงพาลูกเดินกลับไปให้แพทย์ที่ ร.พ.เพ็ญ ตรวจดูให้ใหม่ โดยแพทย์ได้ส่งตัวไปให้ ร.พ.ศูนย์อุดร ทำการตรวจ ซึ่งแพทย์ก็สันนิษฐานว่า ลูกชายตนอาจจะเป็นโรคมะเร็งใต้ตา จึงทำเรื่องส่งตัวไป ร.พ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ทำการตรวจวินิจฉัยอีกครั้งหนึ่ง แล้วแพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยอยู่ประมาณ 1 เดือน ก็แจ้งให้ทราบว่า น้องนนท์ เป็นโรคมะเร็งใต้ตา จะต้องควักลูกตาออกทิ้ง
 
นางพงษ์รัตน์ กล่าวต่อไปว่า พอน้องนนท์ อายุได้ 7 เดือน แพทย์ ร.พ.ศรีนครินทร์ ได้ทำการควักลูกตาด้านซ้ายทิ้ง แล้วก็กลับมาอยู่บ้านและเมื่ออายุถึงวัยเรียนได้ก็ไปโรงเรียนตามปกติ จนอายุ 5 ขวบ ตาขวา เริ่มมีอาการอาการผิดปกติขึ้นมาอีก จึงได้ไปให้หมอที่ ร.พ.ศรีนครินทร์ตรวจดูอาการอีก ซึ่งหมอก็ลงความเห็นว่าเป็นโรคมะเร็งใต้ตาเหมือนกับตาซ้าย และต้องควักออกทิ้งเหมือนกัน ตอนแรกตนเองก็ตัดสินใจไม่ได้ เพราะหมอบอกว่า น้องนนท์ จะมีอายุต่อไปได้อีก 3 ปี หลังจากนั้นก็พาลูกเดินทางกลับมาบ้าน  ซึ่งอาการของน้องนนท์ ไม่ดีขึ้น มีอาการปวดตา ร่างกายก็ผอมลง  ประกอบกับน้องนนท์ฯมีอายุยาวมาจน 9 ปี เกินกว่าที่หมอบอก ในที่สุดก็ตัดสินใจให้หมอควักลูกตาของน้องนนท์ อีกข้างหนึ่งออก เมื่อปี 2557 ซึ่งหมอ ร.พ.ศรีนครินทร์ได้ใส่ลูกตาปลอมพลาสติกให้
 
นางพงษ์รัตน์ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้การใช้ชีวิตของน้องนนท์ จะต้องเดินทางไป ร.พ.ศรีนครินทร์ เดือนละ 2 ครั้ง เพื่อทำการตรวจและทำคีโมหรือฉายรังสี ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางและระยะที่อยู่ที่ ร.พ.หลายวันครั้งละไม่น้อยกว่าครั้งละ 5,000 บาท ก็ต้องอาศัยรายได้จากค่าก่อสร้างของสามีที่ได้วันละ 300 บาท และอีกส่วนจากเงินที่ทาง อบต.บ้านธาตุ จ่ายให้แก่คนพิการเดือนละ 800 บาท โชคดีที่ค่ารักษาพยาบาลและค่าการฉายรังสีนั้น ได้รับความกรุณาจาก น.พ.วิชัย ชัยจิตวนิชกุล ผอ.ร.พ.เพ็ญฯ ทำหนังสือส่งตัวไปทาง ร.พ.ศรีนครินทร์ ซึ่งทาง ร.พ. ก็จะยกเว้นค่ารักษาพยาบาลให้ โดยเฉพาะค่าฉายรังษี ซึ่งเป็นจำนวนเงิน 6-7 หมื่นบาท ปัจจุบันนี้ตนจึงจะไปหาใบหญ้านาง มาคั้นเป็นน้ำ ให้น้องนนท์ ดื่ม เป็นสมุนไพรไทย แก้โรคมะเร็ง โดยได้รับคำแนะนำ ผู้เฒ่า ผู้แก่  ทำให้น้องนนท์ มีอาการเริ่มดีแข็งแรง ผิวพรรณดีขึ้นแต่ก่อนผิวคล้ำดำ ส่วนอาหารการกินของน้องนนท์ ก็กินได้เฉพาะปลากับผักเท่านั้นเอง           
         
นางพงษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนน้องนนท์ฯมีความสามารถพิเศษหลายอย่าง อาทิเช่น การเดินไปไหนในระยะใกล้ๆได้ สามารถทำได้เหมือนคนตาดีทั่วไป สามารถเคาะภาชนะต่างๆให้เป็นเสียงดนตรี และร้องเพลงเพราะมาก โดยเฉพาะการขับขี่รถจักรยานที่น้องนนท์ อยากได้ แม่ก็ซื้อผ่อนให้ในราคา 3,500 บาท โดยผ่อนให้เดือนละ 500 บาท ซึ่งน้องนนท์ ได้ขี่รถจักรยานไปซื้อน้ำปั่นที่ร้านค้าที่อยู่ห่างบ้านไปประมาณ 50 เมตร
 
ทั้งนี้ ลูกชายตาบอดทั้งสองข้าง ตนจึงไปรับด.ช.ธีรพัฒน์ หรือ แบงก์ อายุยืน อายุ 8 ขวบ หลานชายซึ่งเป็นลูกของลูกสาวคนโตมาเลี้ยงคู่กัน โดย ด.ช.แบงก์ ทำหน้าที่เป็นเหมือนสายตาให้กับน้องนนท์  เวลาที่จะต้องเดินไปเล่นในระยะไกลๆ 

ส่วนตัว อยากให้ลูกได้มีโอกาสเรียนหนังสือของคนพิการ หรือเรียนอักษรเบลล์ เมื่อตนเองตายไป ลูกก็จะได้มีความรู้ติดตัวไป วิงวอนขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญได้โปรดช่วยเหลือให้การศึกษากับน้องนนท์ และขอช่วยเหลือในการเดินทางไปทำการตรวจรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ทั้งนี้ผู้มีจิตเมตตาสามารถบริจาคได้โดยผ่านทางธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซีหัวหมาก ชื่อเจ้าของบัญชี เป็นพี่สาวของน้องนนท์ คือ นางวรรณเจต เว้นบาป เลขบัญชี  1692209066 

 
 
ขอขอบคุณที่มา  ข่าวสดออนไลน์
 
 
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X