สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการซาอุดิอาระเบียได้เปิดเผยโมเดลออกแบบอภิมหานครใหม่ ที่มีขนาดใหญ่กว่ากรุงวอชิงตัน ของสหรัฐ เล็กน้อย โดยใช้งบประมาณสร้างถึง 67,000 ล้านปอนด์ (ราว 3.1 ล้านล้านบาท) 

รายงานระบุว่า เมืองดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า เมืองเศรษฐกิจกษัตริย์อับดุลลาห์ (KAEC) จะอยู่ห่างจากเมืองหลวงเจดดาห์ ราว 60 ไมล์ ตั้งอยู่กลางทะเลทราย และใกล้ทะเลแดง ครอบคลุมพื้นที่ 70 ตร.ไมล์ ซึ่งคาดว่าจะมีประชากรอยู่อาศัยราว 2 ล้านคน ขณะที่สร้างไปแล้ว 15 เปอร์เซนต์ แต่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยจะมีการสร้างแหล่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ พื้นที่ชุมชนเมือง ท่าเรือ พื้นที่เขตอุตสาหกรรม เกาะการเงิน สิ่งอำนวยความสะดวกริมชายหาด และที่อยู่ของชุมชน โดยเมืองนี้ ถือเป็น 1 ใน 4 ของเมืองที่จะถูกสร้างเพื่อสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจของซาอุดิอาระเบียซึ่งที่ผ่านมาต้องพึ่งพาแต่เฉพาะน้ำมัน 

ขณะที่บริษัท "อีมาร์ อีโคโนมิค ซิตี้" ผู้รับเหมาก่อสร้างเมืองนี้ แถลงว่า โปรเจ็คท์นี้คาดว่าจะสร้างโดยจำนวนนี้ ประชากรอายุต่ำกว่า 30 ปี ที่คิดเป็น 65 เปอร์เซนต์ของทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันซาอุมีนักศึกษาต่างชาติเกือบ 2 แสนคนที่ศึกษาในต่างชาติ ซึ่งทางการต้องการให้คนเหล่านี้จะนำความรู้ความสามารถมาพัฒนาเมืองนี้

ขณะที่อนาคตของเมืองนี้จะผูกพันกับปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งสาธารณสุข การศึกษา การเคหะ การจ้างงาน และระบบสาธารณูปโภค  รวมทั้งยังเปิดช่องทางให้เชื่อมต่อการขนส่งไปทั่วประเทศและระดับนานาชาติ โดยจะมีการสร้างท่าเรือใหญ่ที่สุดของโลกในเมืองนี้ด้วย เพื่อแทนที่ท่าเรือในเมืองเจดดาห์ เนื่องจากท่าเรือเมืองนี้จะสามารถขนส่งได้เร็วกว่า อัตโนมัติกว่า และเป็นระบบกว่า 

นอกจากนี้ ทางการซาอุฯยังวางแผนจะให้เมืองนี้เป็นแหล่งแวะพักสำคัญสำหรับนักแสวงบุญ ที่จะต้องเดินทางไปยังนครเมกกะและเมดิน่า โดยเมืองนี้จะมีเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมโยงกับสองเมืองดังกล่าว โดยสถานีรถไฟดังกล่าวจะเปิดตัวในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวอังกฤษ ที่เคยออกแบบตึกระฟ้า "เกอร์กิน" ในกรุงลอนดอน และอาคารตึกสูง "เฮอร์ส" ในกรุงนิวยอร์กด้วย

ขอขอบคุณที่มา  มติชนออนไลน์