เกิดเหตุรุนแรง ที่สนามบินใกล้เมืองนิวออร์ลีนส์ ของสหรัฐฯ ชายสูงอายุบุกฉีดสเปรย์ฆ่าแมลง และใช้มีดเดินป่าฟันใส่เจ้าหน้าที่ บริเวณด่านตรวจผู้โดยสาร ในอาคารสนามบิน ก่อนจะโดนตำรวจเข้าขัดขวาง สาดกระสุนใส่ 3 นัด บาดเจ็บสาหัสขั้นโคม่า

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกิดเหตุการณ์ชายชาวอเมริกันวัย 63 ปี ก่อเหตุรุนแรง บุกใช้มีดเดินป่าฟันใส่เจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความปลอดภัยการขนส่งของสหรัฐฯ (TSA) และยังใช้สเปรย์ฆ่าแมลงฉีดใส่เจ้าหน้าที่ 2 ราย บริเวณด่านตรวจผู้โดยสาร ในท่าอากาศยานระหว่างประเทศ หลุยส์ อาร์มสตรอง ใกล้เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐฯ เมื่อคืนวันที่ 20 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนชายผู้ก่อเหตุรายนี้ จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสาดกระสุนใส่ 3 นัด ทำให้บาดเจ็บสาหัสขั้นโคม่า

ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุรุนแรงรายนี้ ชื่อ นายริชาร์ด ไวท์ อายุ 63 ปี มีอาชีพขับรถแท็กซี่ ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และมีอาการบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ โดยเบื้องต้น ยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจที่ทำให้นายไวท์ลงมือก่อเหตุรุนแรง อีกทั้งยังไม่รู้แน่ชัดว่าทำไมเขาจึงขับรถเข้ามาที่สนามบิน แม้จะมีอาชีพเป็นคนขับรถแท็กซี่ก็ตาม

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ

ผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานหลุยส์ อาร์มสตรอง ต้องตื่นตระหนก

ข่าวแจ้งว่า เหตุรุนแรงที่ท่าอากาศยานหลุยส์ อาร์มสตรอง เริ่มจากนายไวท์ได้บุกใช้สเปรย์ฆ่าแมลงฉีดใส่เจ้าหน้าที่ TSA ที่กำลังตรวจเช็กบอร์ดดิ้งพาสอยู่ เป็นคนแรก จากนั้นก็หันไปฉีดสเปรย์ฆ่าแมลงใส่เจ้าหน้าที่รายที่ 2 และหยิบมีดเดินป่ามาฟันใส่เจ้าหน้าที่เป็นรายที่ 3 จนสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้แก่ผู้คนในบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก ต่างรีบพากันหลบหนีจ้าละหวั่น จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยหลายคน โดยไม่นานจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าขัดขวาง ด้วยการสาดกระสุน ยิงใส่นายไวท์ 3 นัด กระสุนเข้าที่ใบหน้า อก และบริเวณโคนขา อาการสาหัส

ส่วนเจ้าหน้าที่ TSA ซึ่งโดนนายไวท์ใช้มีดฟันนั้น เดชะบุญที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก แต่ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยเหตุการณ์ระทึกที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องมีการสั่งปิดท่าอากาศยานหลุยส์ อาร์มสตรอง เป็นการชั่วคราวด้วย. 

ตำรวจตั้งด่านตรวจด้านนอกอาคารผู้โดยสาร ในสนามบิน

ขอขอบคุณที่มา  ไทยรัฐออนไลน์