แค่โปรเจ็กต์ส่งคนไปดาวอังคารก็เรียกเสียงฮือฮาแล้ว แต่ที่อึ้งยิ่งกว่าคือดันมีคนสมัครเพียบ

นับแล้วไม่ต่ำกว่า 2 แสนราย แถมบางคนยังมุ่งมั่นจะไปใช้ชีวิตนอกโลกให้ได้



เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศเผยแพร่เรื่องราวน.ส.แม็กกี เลียวชาวอังกฤษ วัย 24 ปี ผู้เข้ารอบ 100 คนสุดท้ายโครงการสำรวจดาวอังคาร "มารส์-วัน" ของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งค้นหาผู้กล้าชิงตั๋วไปดาวอังคารเป็นครั้งแรก

ย้ำว่าเป็นแค่ตั๋วไป ไม่มีกลับ

ตอบโจทย์ขีดความสามารถของเทคโนโลยีบนโลก ที่ส่งยานอวกาศไปดาวอังคารได้แค่เที่ยวเดียว เอากลับโลกมนุษย์ไม่ได้ ทำให้นักสำรวจที่เข้าโครงการต้องอยู่ที่นั่นจนแก่ตาย หลังเสร็จภารกิจสร้างอาณานิคมต่างดาวแล้ว

แม็กกี ยืนยันว่า ตัดสินใจเอง และได้รับเสียงเชียร์จากเพื่อนฝูงและครอบครัวอย่างท่วมท้น

"ครอบครัวและเพื่อนๆต่างสนับสนุนทั้งนั้น แต่ละวันดิฉันได้รับข้อความให้กำลังใจมากมาย พวกเขาบอกว่าภูมิใจในตัวดิฉันที่สุด"

สาวเมืองผู้ดี บอกด้วยว่า ตอนแรกแม่ของเธอไม่ค่อยเชื่อ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจเมื่อเห็นว่า โครงการ "มารส์-วัน" เริ่มจะเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ

"ฉันรับได้นะ ถ้าจะมีลูกบนดาวอังคาร ต้องตื่นเต้นแน่ๆ ที่จะเป็นแม่คนแรกที่มีลูกบนดาวอังคาร”

แม็กกี ระบุและว่า

“ถึงแม้ยังไม่มีใครทำวิจัยการคลอดลูกในสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำ ซึ่งมันอาจเสี่ยง แต่การสืบพันธุ์เป็นเรื่องจำเป็นถ้าจะสร้างอาณานิคมบนดาวอังคาร และฉันก็อยากรู้ว่าถ้าตั้งท้องบนดาวอังคารแล้วจะมีผลอย่างไร"



โครงการมารส์-วันจะส่งชาวโลก2คนไปดาวอังคารเพื่อตั้งถิ่นฐานในปี 2024 และจะส่งไปเรื่อยๆทุกปี เท่ากับว่าแม็กกียังมีเวลาเกือบ 10 ปีในการเตรียมตัว

"ฉันจะได้ฝึกอีก 10 ปี" เธอว่า

"การฝึกจะทำให้เราคุ้นเคย เรียนรู้เทคนิคการเอาตัวรอด หากต้องไปอยู่บนดาวอังคารตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการรักษาพยาบาล ทันตกรรม การเกษตรฯลฯ รวมถึงการมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์"