บริษัทยูนิโคด ผู้ผลิตและพัฒนา “อิโมจิ” ชุดภาพและสัญลักษณ์แสดงอารมณ์พิเศษบนมือถือและคอมพิวเตอร์ แถลง เตรียมพบกับอิโมจิที่มีสีผิวหลากหลายให้เลือกใช้ ในยูนิโคด รุ่น 8.0 ที่พร้อมให้บริการเดือนมิถุนายน พ.ศ.2558 โดยทางบริษัทระบุ จะมีระดับสีผิวให้เลือกใช้ 5 ระดับ ตั้งแต่ขาวไปจนถึงผิวสี อ้างอิงจากระบบ หกโทนสี ตาม “ตารางฟิทซ์แพทริก” อันเป็นมาตรฐานที่ได้ยอมรับในแวดวงวิชาการโรคผิวหนัง ซึ่งถูกพัฒนาโดย โทมัส ฟิตซ์แพทริก แพทย์ผิวหนังจากฮาร์วาร์ด ที่แบ่งสีผิวมนุษย์ตามการตอบสนองต่อแสงอัลตร้าไวโอเล็ต

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มีเหตุมาจากจากผู้คนทั่วโลกที่ต้องการอิโมจิที่สะท้อนถึงความหลากหลายของมนุษย์ ในขณะที่เริ่มแรกนั้น ผู้ผลิตอิโมจิต้องการเลือกใช้สีผิวที่มีความเป็นกลาง ซึ่งทั่วไปมักมีสีเหลือง ซึ่งเป็นสีผิวที่เลียนแบบตัวละครผิวขาวจากการ์ตูนชื่อดังในสหรัฐอย่าง The Simpsons

ทั้งนี้ อิโมจิเริ่มพัฒนาครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2542 โดยคำว่า "อิโมจิ" (絵文字-emoji) หรือที่ออกเสียงถูกต้องตามภาษาญี่ปุ่นคือ "เอะโมจิ" นั้น เป็นคำประสมที่แปลว่า "อักษรภาพ" ประกอบด้วยคำ 2 คำ คือ คำว่า e (絵) หมายถึง รูปภาพ และ moji (文字) หมายถึง ตัวอักษร แต่ปัจจุบันคำว่า "emoji" นั้น สามารถใช้ทับศัพท์เป็นภาษาอังกฤษและเป็นที่เข้าใจตรงกันได้ทั่วโลก

คล้ายกับคำว่า "อิโมติคอน-emoticons" ในภาษาอังกฤษที่มาจากคำว่า"emotion" ที่แปลว่า อารมณ์ และ "icon" ที่แปลว่า สัญลักษณ์ เมื่อรวมกันแล้วก็จะหมายถึงสัญลักษณ์หรือตัวอักษรที่แสดงอารมณ์ อาทิ :) หมายถึง ยิ้ม 

แต่ในทางเทคนิคแล้ว "อิโมติคอน" และ "อิโมจิ" นั้น ไม่ได้เหมือนกันเสียทีเดียว 

โดยผู้ที่คิดค้น "อิโมติคอน" นั้นคือ สกอตต์ ฟาห์ลแมน (Scott Fahlman) นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ชาวสหรัฐฯ ที่ได้ได้เสนอให้ใช้ สัญลักษณ์ :- ) เป็นครั้งแรก ในกระดานสนทนาของคณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2525

ที่มา  มติชนออนไลน์