กรณ์ จวกรัฐล้มเหลว เอาผิดคนทำผิดไม่ได้ โยงคดี กิตติรัตน์
2014-10-31 05:05:51
Advertisement
คลิก!!!

 

     กรณ์ จาติกวณิช จวกรัฐบริหารงานล้มเหลว ฝ่ายนิติบัญญัติออกกฎหมายผ่านสภา แต่ฝ่ายบริหารไม่ทำตาม แต่สุดท้ายไม่สามารถเอาผิดใครได้

          วันที่ 30 ตุลาคม 2557 มีรายงานว่า นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว ผ่านเฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij โดยเฉพาะกรณี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ไม่ยอมดำเนินการจัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ผ่านสภาออกมาแล้ว ทว่า กลับไม่สามารถเอาผิดนายกิตติรัตน์ได้ เนื่องจาก ป.ป.ช. ยกคำร้องในเรื่องนี้ โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีเจตนาทำผิดทางอาญา และไม่ส่อไปในทางทุจริต หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งถือเป็นการทำงานของรัฐที่ล้มเหลว พร้อมฝากถึง คสช. ว่า หากมาตรา 157 ใช้กับกรณีนี้ไม่ได้ ก็ควรมีการแก้ไขให้ใช้ได้เสีย

          ทั้งนี้ นายกรณ์ จาติกวณิช ได้โพสต์ข้อความว่า...

          ระบบรัฐล้มเหลว
 
          นิติบัญญัติออกกฎหมาย - ฝ่ายบริหารไม่ทำตาม - องค์กรอิสระไม่มีทางไป
 
          เรื่องนี่ยาวนิดนึง แต่มีผลต่อเราทุกคนครับ
 
1. ข้อเท็จจริง
 
            “รัฐสภา” สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ได้ออกกฎหมาย “กองทุนการออมแห่งชาติ” (กอช.) เพื่อเป็นเครื่องมือของรัฐในการส่งเสริมการออมให้กับประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญประมาณ 25 ล้านคน กฎหมายมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปี 2554 โดยผู้รักษาการกฎหมายคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
 
            กลางปี 2554 เปลี่ยนรัฐบาลเป็นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีคุณธีระชัยและคุณกิตติรัตน์ มาเป็นรัฐมนตรีคลังตามลำดับ คุณธีระชัยอยู่ในตำแหน่งไม่นาน พอคุณกิตติรัตน์เข้ามาสานต่อก็ปฏิเสธที่จะดำเนินการจัดตั้ง กอช. ตามที่กฎหมายกำหนด การละเว้นโดยเจตนานี้พิสูจน์ได้จากบทสัมภาษณ์ จากการรายงานโดยข้าราชการ และจากการที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่ได้จัดสรรงบประมาณตามกำหนดเพื่อจัดตั้งกองทุนตามบทบัญญัติของกฎหมาย กองทุนเพื่อส่งเสริมเงินออมของคนไทย 25 ล้านคนจึงเกิดไม่ได้
 
            ทั้งหมดนี้คือความจงใจของฝ่ายบริหาร ที่จะไม่ทำตามกฎหมายของบ้านเมือง กฎหมายที่มาจากการลงคะแนนสนับสนุนโดยนักการเมืองจากทุกพรรค รวมไปถึงวุฒิสภา
 
2. คำถามสามข้อ
 
            คำถามข้อที่หนึ่ง ผมขอถามว่า ฝ่ายบริหารควรมีสิทธิ์หรือไม่ ในการที่จะเลือกว่าจะไม่ปฏิบัติตามกฎหมายฉบับที่ผ่านสภามาแล้ว
 
          ผมมั่นใจว่าทุก ๆ คนก็ต้องตอบว่า "ไม่มีสิทธิ์ !” รัฐบาลรวมถึงรัฐมนตรีทุกคนมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายทุกฉบับ มิเช่นนั้นยุ่งแน่ครับ หากละเลยก็จะกลายเป็นว่าฝ่ายบริหารเปรียบเป็นพระเจ้า นิติบัญญัติร่างกฎหมายไป ก็โดนปฏิเสธง่าย ๆ ด้วยการนิ่งเฉย กฎหมายไม่สามารถคุ้มครองสิทธิให้ใคร
 
            คำถามที่สอง ผมขอถามต่อว่า “เอาผิดเขาได้ไหม”
 
          เดิมทีผมก็คิดว่าน่าจะได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ”
 
            คำถามที่สาม สรุปว่าเอาผิดอดีตรัฐมนตรีกิตติรัตน์ได้ไหม
 
          ไม่ได้ครับ เพราะ ป.ป.ช. ได้พิจารณาเรื่องนี้และมีมติ “ยกคำร้อง” โดยให้เหตุผลว่าคุณกิตติรัตน์ "ไม่มีเจตนาทำผิดทางอาญา และไม่ส่อไปในทางทุจริต หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่" (จากคำแถลงผลการประชุมกรรมการ ป.ป.ช. วันที่ 21 ตุลาคม)
 
3. ทางออก
 
          ที่ผมและพวกยื่นฟ้องคุณกิตติรัตน์ ไม่ใช่เพราะเราหวังร้ายต่อท่าน เราเพียงหวังว่าเราจะสามารถกระตุ้นให้ผู้เป็นรัฐมนตรีทำตามหน้าที่เท่านั้น
 
          ผมขอไม่เถียงกับ ป.ป.ช. ที่สำคัญคือข้อเท็จจริงที่วันนี้ประชาชน 25 ล้านคนเสียโอกาสที่จะได้รับจากการสมทบเงินออมของเขาจากรัฐบาล คนหาเช้ากินคํ่านับสิบล้านคนมีแต่หนี้ ไม่มีเงินออม ไม่มีหลักประกันชีวิตในวัยชรา ส.ส. จากทุกพรรคได้ช่วยกันออกกฎหมายนี้เพื่อช่วยแก้ปัญหา ประเด็นสำคัญคือเราจะทำอย่างไรให้กองทุนตามกฎหมายนี้กลับมาเดินหน้าได้ และเราจะทำอย่างไรไม่ให้ฝ่ายบริหารเลือกใช้อำนาจตามใจชอบแบบนี้อีก
 
          ผมไม่ขอพูดถึงเหตุผลของคุณกิตติรัตน์ที่ไม่ยอมทำตามหน้าที่ แต่ขอพูดเพียงว่า “กฎหมายคือกฎหมาย” ถ้าฝ่ายบริหารคิดว่ากฎหมายไม่ดี ก็ควรเสนอแก้กฎหมายในสภา ตอนนั้นคุณก็มีเสียงข้างมากอยู่แล้ว
 
          แต่เมื่อ ป.ป.ช. บอกว่าเราไม่สามารถเอาผิดฝ่ายบริหารที่มีพฤติกรรมแบบนี้ได้ ผมว่านี่คือความล้มเหลวของระบบการบริหารบ้านเมือง และถ้าเป็นเช่นนี้ผมก็ไม่รู้ว่าเราจะมานั่งเสียเวลาออกกฎหมายใหม่กันทำไม ถ้ารัฐบาลในอนาคตไม่ต้องทำตาม และ ป.ป.ช. ก็ยืนยันว่าเอาผิดเขาไม่ได้ 
 
          ดังนั้นเมื่อ ป.ป.ช. ตีความกฎหมายอย่างนี้ เราจึงต้องขอฝากให้ คสช. และสภาปฏิรูปช่วยพิจารณาปัญหานี้ด้วยครับ ถ้ามาตรา 157 ใช้กับกรณีนี้ไม่ได้ ก็ควรแก้ให้ใช้ได้เสีย เพราะหากกฎหมายที่ผ่านสภาไร้ความหมาย หากอำนาจเท่านั้นที่จะเป็นตัวกำหนดว่าประชาชนมีสิทธิอะไรบ้าง
 
          เมื่อนั้น... ประเทศไทยคงไม่ใช่สังคมที่น่าอยู่
 

กรณ์ จวกรัฐล้มเหลว เอาผิดคนทำผิดไม่ได้ โยงคดี กิตติรัตน์
กรณ์ จวกรัฐล้มเหลว เอาผิดคนทำผิดไม่ได้ โยงคดี กิตติรัตน์
กรณ์ จวกรัฐล้มเหลว เอาผิดคนทำผิดไม่ได้ โยงคดี กิตติรัตน์



 
 
 
 
 
 
ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X