เชื่อว่าตอนนี้สาวกแอปเปิลหลายล้านคนทั่วโลกคงฟินกันถ้วนหน้ากับ iPhone รุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ มาพร้อมกันถึง 2 รุ่น 2 ขนาดหน้าจอ และเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของ iPhone จากหน้าจอเล็ก ๆ ที่ก้าวเข้าสู่เทรนด์หน้าจอใหญ่เพื่อให้เทียบเท่าคู่แข่งรายอื่น ๆ ในตลาดมือถือ สำหรับiPhone 6 ที่เปิดตัวมี 2 รุ่นด้วยกัน คือ iPhone 6 รุ่นหน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว แล้วทั้ง 2 รุ่น มีอะไรแตกต่างกัน 

        วันนี้ได้รวบรวมข้อมูล iPhone 6 และ iPhone 6 Plus นำมาเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างและเพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเลือกซื้อให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด ถ้าพร้อมมาดูกันเลยว่ามีอะไรตรงไหนต่างกันบ้าง

ขนาดหน้าจอ 
 

          ขนาดหน้าเป็นสิ่งที่ทำให้ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus แตกต่างกันชัดเจน โดย iPhone 6 มีขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล (326PPI) เทียบเท่าความละเอียดแบบ HD ส่วน iPhone 6 Plus มีขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (401PPI) เทียบเท่าความละเอียดแบบ Full HD และเรียกหน้าจอแบบใหม่นี้ว่า Retina HD display นอกจากนี้อัตราคอนทราสต์ของหน้าจอมีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดย iPhone 6 มีอัตราคอนทราสต์ 1400:1 สูงกว่า iPhone 6 Plus ที่ 1300:1 

ขนาดตัวเครื่องและน้ำหนัก
 

         เมื่อดีไซน์เปลี่ยนมาอยู่ในรูปแบบโค้งมนแทนขอบเหลี่ยม ๆ เหมือน iPhone 4/4s/5s และขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นส่งผลให้ขนาดตัวเครื่องและน้ำหนักมีความเปลี่ยนแปลงพอสมควร โดย iPhone 6 มีความบาง 6.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 129 กรัม ส่วน iPhone 6 Plus มีความบาง 7.1 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 172 กรัม ทำให้ iPhone 6 ทั้ง 2 รุ่นมีความบางกว่า iPhone รุ่นอื่น ๆ 

กล้องถ่ายภาพ
 

        กล้องถ่ายภาพของ iPhone 6 ทั้ง 2 รุ่น มีความละเอียดเท่ากันที่ 8 ล้านพิกเซล และใช้เซ็นเซอร์ใหม่ที่เรียกว่า Focus Pixels ที่ทำให้ออโต้โฟกัสที่รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม, ระบบตรวจจับใบหน้าที่แม่นยำกว่าเดิม และการควบคุมค่าแสงที่ดียิ่งขึ้น แต่จุดที่ทำให้แตกต่างอยู่ที่ระบบกันสั่น (stabilization) โดยiPhone 6 รุ่นจอ 4.7 นิ้ว จะไม่มีฮาร์ดแวร์กันสั่น แต่จะใช้ซอฟต์แวร์เข้ามาเป็นตัวช่วย ส่วน iPhone 6 Plus จะมีฮาร์ดแวร์กันสั่น Optical Image Stabilization (OIS) เหมือนกับมือถือรุ่นท็อปดัง ๆ หลายรุ่น ส่วนคุณภาพของกล้อง iPhone 6 ทั้ง 2 รุ่น ต้องรอผลการทดสอบอีกครั้งว่าจะแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน

แบตเตอรี่
 

       แบตเตอรี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาของ iPhone ทุกรุ่น เพราะแอปเปิลให้ความจุแบตเตอรี่มาค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ผู้ใช้งานหลายคนต้องประสบปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็วกว่าปกติ ใช้งานได้เพียงพอ แต่สำหรับบน iPhone 6 แบตเตอรี่ถูกปรับให้มีความจุมากขึ้นเนื่องจากหน้าจอใหญ่ขึ้น แต่ก็ยังมีจุดแตกต่างของ iPhone 6 ทั้ง 2 รุ่นในเรื่องแบตเตอรี่ ยกตัวอย่างเช่น

 iPhone 6 สามารถเล่นเน็ตผ่าน 3G ได้นาน 10 ชั่วโมง, Wi-Fi นาน 11 ชั่วโมง, เล่นวิดีโอต่อเนื่องนาน 11 ชั่วโมง และสแตนด์บายได้ 10 วัน

 iPhone 6 Plus สามารถเล่นเน็ตผ่าน 3G ได้นาน 12 ชั่วโมง, Wi-Fi นาน 12 ชั่วโมง, เล่นวิดีโอต่อเนื่องนาน 14 ชั่วโมง และสแตนด์บายได้ 16 วัน 

โหมดแนวนอน (Landscape mode)
 

        สำหรับใครที่ใช้งาน iPad คงคุ้นเคยกับโหมดแนวนอนกันเป็นอย่างดีแน่นอน และจุดที่ทำให้iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus แตกต่างอีกจุดก็คือ iPhone 6 Plus จะรองรับการใช้งานในโหมดแนวนอนเหมือนกับ iPad ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์หน้าจอขนาดใหญ่ของ iPhone ได้อย่างคุ้มค่าควบคู่กับแอพพลิเคชั่นบางตัวที่จะปรับหน้าตาให้เข้ากับโหมดแนวนอน น่าเสียดายที่ iPhone 6 รุ่น 4.7 นิ้ว ไม่สามารถใช้งานโหมดนี้ได้
 

http://www.youtube.com/watch?v=_U_2UrohEfg

ราคา 
 

        ถึงแม้ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จะมีความจุเหมือนกัน คือ 16GB, 64GB และ 128GB แต่เรื่องราคาแตกต่างกันเหมือนกับ iPhone 5s/5c โดย iPhone 6 Plus จะมีราคาแพงกว่า iPhone 6 อยู่ 100 ดอลลาร์ โดยราคา iPhone 6 เริ่มต้นที่ 649 ดอลลาร์ และ iPhone 6 Plus ราคาเริ่มต้นที่ 749 ดอลลาร์ เป็นราคาเครื่องแบบไม่ติดสัญญา อ้างอิงตาม Apple Store Online ของอเมริกา

       สรุปแล้วความแตกต่างระหว่าง iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus มีจุดที่แตกต่างกันเพียงไม่กี่จุด ในส่วนของสเปคด้านอื่น ๆ เช่น ซีพียู, การเชื่อมต่อ, เซ็นเซอร์ต่าง ๆ ก็เหมือนกันทั้งหมด หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้น่าจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจในการเลือก iPhone รุ่นใหม่ ว่าจะเอารุ่นจอ 4.7 นิ้ว หรือ 5.5 นิ้ว 

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม