เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- ผู้บริหารใหญ่ไมโครซอฟต์ กุมบังเหียนสายงานวิจัยและพัฒนาฯ รับผิดชอบทั่วเอเชียแปซิฟิค แปรพักตร์เตรียมย้ายซบไป่ตู้ เสิร์ชเอ็นจิ้น ชื่อดังของจีน

จาง ย่าฉิน ผู้บริหารใหญ่ของไมโครซอฟต์ เตรียมย้ายรังซบไป่ตู้

เสิร์ชเอ็นจิ้นใหญ่ที่สุดของจีน (ภาพ: เอเจนซี)

       วงการไอทีจีนคึกคัก หลังมีข่าวหลุดออกมาว่า จาง ย่าฉิน หนึ่งในบุคคลระดับตำนาน ผู้ดูแลการทำงานด้านการวิจัยทางเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของไมโครซอฟต์นอกอเมริกา กำลังเตรียมย้ายไปซบ “ไป่ตู้” (百度) เสิร์ชเอ็นจิ้นอันดับหนึ่งของประเทศจีน
       
       แหล่งข่าวใกล้ชิดกับไป่ตู้ ระบุว่า นายจาง จะได้นั่งเก้าอี้ประธาน คุมธุรกิจใหม่ของไป่ตู้ และเข้าเติมเต็มการบริหารในระดับอาวุโสของบริษัทฯ โดยเขาจะทำงานขึ้นตรงกับร็อบบิน หลี่ เยี่ยนหง ผู้ร่วมก่อตั้ง ประธาน และหัวหน้าฝ่ายบริหารของไป่ตู้
       
       ปัจจุบัน จาง ย่าฉิน ดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัทไมโครซอฟต์ และประธานฝ่ายการวิจัยและพัฒนาไมโครซอฟต์ ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในปักกิ่ง ดูแลวิศวกรและนักวิจัยมากกว่า 3,000 คน เพื่อทำการวิจัย คิดค้นเทคโนโลยี พัฒนาผลิตภัณฑ์ และวางแผนงานร่วมกับพันธมิตรของไมโครซอฟต์
       
       ทั้งนี้ คาดกันว่า ไมโครซอฟต์จะประกาศการลาออกของนายจาง ย่าฉิน ในภายในสัปดาห์นี้
       
       อนึ่ง สัปดาห์ก่อน คณะกำกับดูแลภาคอุตสาหกรรมและการพาณิชย์จีน ประกาศให้เวลาไมโครซอฟต์ 20 วัน เพื่ออธิบายรายละเอียดธุรกิจของบริษัทฯ ที่ดำเนินการในแผ่นดินใหญ่ และชี้แจงเรื่องระบบปฏิบัติการวินโดวส์และโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิซตามที่บริษัทต่างๆ ในจีน ร้องเรียนไป
       
       ดังนั้น แหล่งข่าวจึงระบุว่า แม้การตัดสินใจลาออกของนายจาง จะเกิดขึ้นก่อนที่ทางการจีน ประกาศสอบสวนเรื่องการผูกขาดตลาดของไมโครซอฟต์ แต่ในอีกแง่หนึ่ง การลาออกของเขาก็ยังคงเป็นพายุคลื่นใหญ่ที่เคลื่อนตัวเข้ากระหน่ำการทำงานของไมโครซอฟต์ในแผ่นดินใหญ่อยู่ดี เพราะนายจางถือเป็นผู้บริหารผู้ทรงคุณวุฒิที่สุดของไมโครซอฟต์ในภาคพื้นฯ และตอนนี้บริษัทฯ กำลังเผชิญกับการสอบสวนดังกล่าวอยู่
       
       “แม้ว่างานหลักของนายจาง จะรับผิดชอบเรื่องการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี แต่ทางไมโครซอฟต์ก็เรียกหาเขาเสมอ เมื่อเกิดวิกฤตขึ้น” แหล่งข่าวในไมโครซอฟต์ ระบุ
       
       นายจาง ถือเป็นคีย์แมนให้คำปรึกษา หากมีการเปลี่ยนแปลงการบริหารในระดับอาวุโสของไมโครซอฟต์จีน รวมไปถึงฮ่องกงและไต้หวัน
       
       จาง ย่าฉิน: การปฏิวัติของไป่ตู้
       
       สำหรับไป่ตู้ การจ้างนายจาง ย่าฉิน นักวิทยาศาสตร์ผู้โดดเด่น ถือเป็นการเสริมทัพของบริษัทฯด้านการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่เพื่อแข่งขันในตลาดที่ต่อสู้กันอย่างรุนแรง ทั้งอาลีบาบา ผู้ให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซใหญ่ที่สุดของโลก และเท็นเซ็นต์ บริษัทด้านอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต ใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ของเอเชีย
       
       ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา ไป่ตู้ ก็จ้างแอนดรูว์ วาย หงอ (Andrew Y. Ng) ศาสตราจารย์จากแสตนฟอร์ด หัวกระทิเบื้องหลังความสำเร็จของกูเกิ้ล เบรนด์ (Google Brain) เข้าเสริมทัพ
       
       ริกกี้ ไหล นักวิเคราะห์ จากกั๋วไถ จูหนัน อินเตอร์เนชั่นแนล (Guotai Junan International) กล่าวว่า “ดูเหมือนว่า การตัดสินใจจ้างประธานเพื่อดูแลธุรกิจใหม่ของไป่ตู้ จะเป็นไปเพื่อเสริมทีมการบริหารงานระดับอาวุโสของบริษัท ในส่วนตลาดที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ รวมทั้งขยายงานเดิมที่มีอยู่”
       
       นอกจากนี้ ยังอาจเป็นการเตรียมความพร้อมของ IQiyi งานบริการวีดีโอบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งไป่ตู้เตรียมเข็นลงตลาดในปีหน้า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ไป่ตู้ ซื้อธุรกิจวีดีโอออนไลน์มาจาก พีพีเอสตรีม (PPStream) ของเซี่ยงไฮ้ มาในราคา 370 ล้าน เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 11,470 ล้านบาท เพื่อขยายงานของ IQiyi
       
       ด้านหนึ่งหลายคนก็มองว่า การจ้างจาง ย่าฉิน ครั้งนี้ อาจเป็นกลยุทธ์ดึงดูดนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำอีกหลายคน เพราะนายจาง ถือเป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำที่หลายต่อหลายคนหวังอยากทำงานร่วมกับเขา
       
       จาง ย่าฉิน เกิดเดือนม.ค. ปี 2509 บิดาของเขาเป็นอาจารย์คณะวิศวกรรมไฟฟ้า ส่วนมารดาเป็นครูโรงเรียนประถมในเมืองไท่หยวน มณฑลซานซี
       
       ด้วยความเป็นเด็กอัจริยะ จางเรียนจบชั้นม.ปลายก่อนเกณฑ์ และเป็นผู้มีอายุน้อยที่สุดในจีน ที่ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจีน ใน อานฮุย ตั้งแต่อายุ 12 ปี เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้กับ เดอะ ซีแอตเติ้ล ไทส์ม (The Seattle Times) ว่า “ตั้งแต่เด็กก็อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์” และมีไอแซค นิวตันเป็นไอดอล ต้นแบบ
       
       จาง ย่าฉิน จึงเดินตามรอยบิดา เข้าเรียนวิศวกรรมไฟฟ้า และจบปริญญาตรีอย่างรวดเร็วในปี 2526 จากนั้นอีกสองปี ก็ได้ปริญญาโท และได้รับการตอบรับให้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ในวอชิงตัน ดีซี เมื่อตอนอายุ 18 ปี
       นายจางเลือกเรียนที่นี่ แทนที่จะเป็นพรินซตันหรือเอ็มไอที เพราะอยากเรียนกับศาสตราจารย์เรย์มอนด์ พิคโฮล์ทซ์ (Raymond Pickholtz) ผู้มีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีสื่อสารไร้สาย (wireless communications technology) จากนั้นจาง ย่าฉิน ก็เรียนจบปริญญาเอกด้วยวัย 23 ปี พร้อมกับคะแนนเต็มเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย
       
       หลังเรียนจบ นายจางก็ได้เข้าทำงานด้านการวิจัย การสื่อสารโทรคมนาคม กับคอนเทล (Contel) และจีทีอี(GTE) ในปี 2534 ก่อนจะย้ายไปประจำห้องทดลองของซาร์นอฟ( Sarnoff) ผู้นำด้านงานวิจัยและพัฒนาซึ่งมีชื่อเสียงด้านโทรทัศน์สีในปี 2537 ที่ซาร์นอฟ นี้เอง จาง ย่าฉิน ได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการงานวิจัยเทคโนโลยีด้านมัลติมีเดีย ดูแลทีมนักวิจัยมากกว่า 50 คน และกลายเป็น 1 ใน 50 ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีวีดีโอและการสื่อสารแบบไร้สาย ถือสิทธิบัตร ด้านวีดีโอดิจิตอล อินเทอร์เนต มัลติมีเดีย และการสื่อสารดาวเทียม กว่า 50 ผลงาน
       
       ในปี 2541 นายจาง ได้รับการทาบทามจากนายลี ไค ฟู (Lee Kai-fu) ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟต์ในแผ่นดินใหญ่ให้เข้าทำงานในไมโครซอฟ และนายจางก็ทำผลงานได้ดี จนสามารถไต่ขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูงของไมโครซอฟต์ได้ในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งเขายังดึงนักวิทยาศาสตร์ผู้มากพรสวรรค์อีกหลายคนเข้าเสริมทีมไมโครซอทต์ ทั้งลี จิน จากห้องทดลองของบริษัทชาร์ป และลี ชิเผิง จากซาร์นอฟ
       
       ในเดือนส.ค. ปี 2543 จาง ย่าฉิน ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าทีมวิจัยไมโครซอฟต์ในจีนแทนนายลี ไค ฟู และได้รับการแต่งตั้งจากบิล เกตส์ เจ้าของและผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟให้ขึ้นสร้างหน่วยวิจัยและพัฒนาขึ้นในภูมิภาค ดูแลงานวิจัยระดับโลกที่ทำในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น ฮ่องกง ไต้หวัน โซล ซิดนีย์ และกรุงเทพฯ
       
       จาง ย่าฉินเป็นผู้ร่วมพัฒนาการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (cloud computing) ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก อีกทั้ง ยังสร้างนักวิจัยชั้นนำขึ้นมาอีกหลายคน หนึ่งในนั้นก็คือจาง หง เจียง ที่ย้ายจากไมโครซอฟต์ไปนั่งเก้าอี้หัวหน้าผู้บริหาร คิงซอฟ (Kingsoft) ส่วนอีกหลายคนก็แยกย้ายกันไปทำงานให้กับอาลีบาบาบ้าง เท็นเซ็นต์ และเสี่ยวหมี่บ้าง
       
       อนึ่ง งานวิจัยของไมโครซอฟต์จากหน่วยวิจัยระดับภูมิภาคที่จาง ย่าฉิน นั่งกุมบังเหียน ปรากฏอยู่ในผลิตภัณฑ์หลักของไมโครซอฟต์ทุกประเภท ทั้งระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โปรแกรมออฟฟิต เสิร์ชเอ็นจิ้นอย่างบิง (Bing) และเครื่องวีดีโอเกมส์เอ็กซ์บ็อกซ์ (Xbox)
 

ที่มาhttp://manager.co.th