นักลงทุนชาวจีนแสดงความผิดหวังในการสัมมนาที่กรุงปักกิ่งเมื่อเดือนมี.ค. 2557

กรณีแคนาดายกเลิกโครงการย้ายถิ่นฐานสำหรับนักลงทุน – เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์

       เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - โควต้ารับนักลงทุนชาวจีนเข้ามาตั้งถิ่นฐานในสหรัฐฯ เต็มก่อนสิ้นปีงบประมาณปัจจุบัน สะท้อนถึงจำนวนนักลงทุนชาวจีนต้องการย้ายไปอาศัยในแดนมะกัน ที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้น 
       
       ตามโครงการย้ายถิ่นฐานสำหรับนักลงทุน  (Immigrant Investor Programme) ของสหรัฐฯ นั้น ได้แบ่งสรรให้ในส่วนของจีนจำนวนทัังสิ้น 10,000 คนในแต่ละปี และปีนี้นับเป็นครั้งแรก ที่จำนวนผู้สมัครเข้าโครงการเต็มก่อนกำหนด โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ชาวจีนที่ต้องการสมัครในโครงการต้องรอไปจนกว่าจะเริ่มปีงบประมาณใหม่ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ วันที่ 1 ต.ค. นี้ 
       
       โครงการมีการกำหนดคุณสมบัติของชาวต่างชาติ ที่ต้องการอพยพเข้าไปตั้งรกรากในสหรัฐฯ ว่า ต้องมีการลงทุนในธุรกิจการค้าเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 5 แสนดอลลาร์ และสร้างงานประจำให้แก่พลเมืองอเมริกันอย่างน้อย 10 ตำแหน่ง โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯได้ออกวีซ่าให้ผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน ซึ่งเป็นนักลงทุนจากประเทศต่าง ๆ รวมทั้งหมดเกือบ 140,000 รายในแต่ละปี 
       
       หญิงแซ่หวัง ซึ่งมีอาชีพให้คำปรึกษาในกรุงปักกิ่งระบุว่า ชาวจีนฐานะร่ำรวยส่วนใหญ่ชอบไปอยู่ที่สหรัฐฯ มากกว่า เพราะเห็นว่า มีความเจริญก้าวหน้ามากกว่าจีน โดยบางคนต้องการไปศึกษาเล่าเรียน บางคนเป็นห่วงความปลอดภัยของทรัพย์สมบัติ ตลอดจนความปลอดภัยด้านอาหารและสภาพแวดล้อม 
       
       นอกจากนั้น การยกเลิกโครงการย้ายถิ่นฐานสำหรับนักลงทุนของแคนนาดาเมื่อต้นปี ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้โควต้าของชาวจีนที่สมัครในโครงการของสหรัฐฯ เต็มก่อนกำหนด
       
       หวังกล่าวเสริมอีกว่า แม้ต้องรอคอยนาน 3-4 ปีกว่าจะได้กรีนการ์ด หรือบัตรประจำตัวผู้มีถิ่นถาวรในสหรัฐฯ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ก็ชอบย้ายไปตั้งถิ่นฐานในสหรัฐฯ มากกว่าชาติอื่น ๆ ในยุโรป เช่น โปรตุเกส ซึ่งมีการออกกรีนการ์ดให้ภายในเวลาเพียง 1 ปี

ที่มาhttp://www.manager.co.th