'เดอะ โชว์ มัส โก ออน'' วิน ดีเซล พระเอกนักบู๊กล้ามโต สุดเศร้าเสียใจกับการจากไปของ พอล วอล์คเกอร์ เพื่อนนักแสดงหนังแอ็กชั่นรถซิ่ง ''Fast & Furious'' ที่ลาโลกจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในวัย 40 ปี เมื่อตอนสิ้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ท่ามกลางข่าวลือว่า ความจริงแล้วทั้งสองคนไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไหร่ในกองถ่าย ทำให้ พระเอกหัวโล้น อยากชดใช้ด้วยการเดินหน้าทำหนังให้ดีที่สุด รวมถึงหวังกล่อม โคดี้ น้องชายของ พอล ให้มาร่วมแสดงด้วย 

 

ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของ พอล วอล์คเกอร์ กลับมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า ดีเซล ไม่ถูกกับวอล์คเกอร์ แต่หลังจากเห็นเพื่อนลาโลกไปอย่างเจ็บปวดกะทันหัน ทำให้ ดีเซล วัย 46 ปี ถึงกับช็อก ''วิน ช็อกกับการจากไปของ พอล เขาร้องไห้หนักมาก และบ่อยครั้งด้วย เขาบอกว่าอยากลืมตามาเห็น พอล เดินเข้ามา แล้วบอกเขาว่า ทั้งหมดเป็นฝันร้าย และโยกโทษให้เขา''

 

''วิน บอกเพื่อนๆ ว่า เขาเกลียดตัวเองจริงๆ ที่ไปมีเรื่องมีราวกับ พอล เขารู้สึกผิดอย่างแรงเวลานึกถึงสิ่งที่เขาทำกับ พอล ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่'' แหล่งข่าวกล่าว โดยฉากหน้าที่ดูเข้ากันดีถูกเผยว่า ทั้งคู่แทบจะเหม็นขี้หน้ากันในกองถ่าย ''พอล กับ วิน ไม่ถูกกัน พอล บอกว่า วิน พยายามข่มเขาเวลาอยู่ในกอง พยายามขโมยซีนหาทางเด่นกว่าเขา ไปจนถึงประจบโปรดิวเซอร์ให้เขาดูดี และ พอล ดูแย่''

 

ต้นตอของเรื่องว่ากันว่าเกิดขึ้นปี 2009 ตอนที่พวกเขากำลังเจรจากลับมาเล่น ''Fast & Furious'' ภาค 4 แหล่งข่าวเล่าว่า ''ดีเซลเป็นโปรดิวเซอร์ และความเป็นเพื่อนของพวกเขาจบลงอย่างสิ้นเชิง เพราะ วิน รับเละอยู่คนเดียว พอล บอกว่า วิน เอาเปรียบ และพยายามสู้กับ วิน ในทุกรายละเอียดของสัญญา มันลุกลามเลวร้ายถึงขั้นที่ พอล จะพาทีมกฎหมายและธุรกิจมาคุยด้วยทุกครั้ง ระหว่างการเจรจา พอล จะบ่น วิน ทุกเรื่อง''

 

ตอนที่วอล์คเกอร์เสียชีวิต วันที่ 30 พฤศจิกายน นั้น วิน บอกว่าเขากับ พอล สนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง แต่ความจริงมันคนละเรื่อง ''พอล สนิทกับหลายๆ คนในกองถ่าย แต่ถ้าจะให้เจาะจงก็คือเขาสนิทกับพวกตากล้อง, สตั๊นต์แมน และทีมงานส่วนอื่นๆ เขาพยายามปกปิดความบาดหมางกับ วิน เพื่อประโยชน์ของภาพยนตร์ แต่พอปิดกองเท่านั้นแหละ พอล จะเลี่ยงเจอเขาราวกับเป็นเชื้อโรค'' 

 

ด้วยเหตุนี้ ดีเซลเลยตกเป็นข่าวว่าเศร้าเสียใจ และอยากแก้ไขทั้งหมด เพื่อเป็นเกียรติให้กับเพื่อนที่จากไป ''เขาต้องการทำทุกอย่างเพื่อเป็นการชดเชย เขายินดีทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อครอบครัวของ พอล และเพื่อความเป็นตำนานของ พอล แต่ท่าทีของ วิน ก็ทำให้เพื่อนๆ ของ พอล งงงวย เพราะพวกเขารู้ว่าเขา (วิน) ทำกับ พอล เอาไว้มากขนาดไหนตอนที่ พอล ยังมีชีวิตอยู่''    

 

ขณะเดียวกัน จากความสำเร็จของแฟรนไชส์หนัง 6 ภาคที่ฟันรายได้กว่า 2.4 พันล้านดอลลาร์ทั่วโลก ทำให้โอกาสที่สตูดิโอจะยุติการถ่ายทำภาค 7 เพื่อเป็นเกียรติ ยากที่จะเกิดขึ้นได้ นำมาสู่กระแสข่าวว่า มีการทาบทาม โคดี้ น้องชายวัย 25 ปี ของ พอล วอล์คเกอร์ และมีอาชีพเป็นสตั๊นต์แมน ทั้งยังหน้าตาละม้ายคล้ายพี่ชาย ให้มาช่วยแสดงแทน แต่ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือ การปรับบทภาพยนตร์ให้ พอล ออกจากหนังอย่างสมเกียรติที่สุด 

 

''มือเขียนบทกำลังหัวหมุนกับการหาทางให้เขายุติบทบาทในหนังอย่างมีสไตล์ที่สุด ดูแล้วคงจะเขียนให้เขาตายในภาค 7 และมีการพูดคุยว่าอาจให้ โคดี้ มาร่วมแสดงกับบทน้องชายของ พอล ในภาคต่อไป แต่ก็มีเสียงคัดค้านจากหลายๆ ฝ่ายว่าไม่ควรให้ โคดี้ มาสวมบทของพี่ชาย มันฟังพิลึกๆ แต่ วิน เห็นด้วย เขามองว่าการให้ โคดี้ มาเล่น เป็นการแสดงความเคารพต่อความทรงจำที่มีต่อ พอล ทั้งยังจะทำให้ วิน รับทรัพย์จากแฟรนไชส์หนังต่อไป''  

 

 

http://www.siamdara.com