เลิกเสียที! เรื่องผิดพลาดบ่อนทำลายความสวย (Lisa)

พวกเราต่างรู้กับดีว่าการบีบสิวนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ เลย สาว ๆ หลายคนจึงสามารถหยุดยั้งตัวเองได้จากพฤติกรรมดังกล่าว แต่คุณแน่ใจหรือเปล่าว่าพฤติกรรมในการดูแลความงามอื่น ๆ ของคุณนั้น จะไม่เป็นตัวการร้ายที่ทำลายความงามของคุณในภายหลัง

เพื่อให้คุณสามารถทำกิจวัตรในการดูแลความงามของคุณได้อย่างถูกทาง เราได้รวบรวมข้อผิดพลาดในการดูแลความงามที่สาว ๆ มักทำโดยไม่รู้ตัวมาบอกคุณแล้ว ลองอ่านดูแล้วปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณซะใหม่

1. ทามอยสเจอไรเซอร์มากเกินไป

สาว ๆ หลายคนอาจคิดว่าการทามอยสเจอไรเซอร์เยอะ ๆ จะช่วยให้ผิวหน้าดูเปล่งปลั่งสดใสได้อย่างรวดเร็ว แต่จริง ๆ แล้วการทาเยอะเกินไปอาจจะส่งผลให้ผิวหน้าคุณดูเป็นมันเยิ้ม มีเหงื่อออกมาก และทำให้เครื่องสำอางบนใบหน้าเลอะเลือนง่าย

ปรับเปลี่ยนใหม่ : ไม่มีกฎความงามข้อไหนที่บอกคุณว่าคุณต้องทามอยสเจอไรเซอร์ให้ทั่วใบหน้า ตรวจดูความต้องการของผิวคุณให้ดี ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการความชุ่มชื้นจากมอยสเจอไรเซอร์ในบริเวณทีโซน ซึ่งเป็นบริเวณที่มันดูเนมันเยิ้มได้ง่าย ฉะนั้น ทาในบริเวณอื่นที่แห้งและต้องการความชุ่มชื้นมากกว่า วิธีนี้ยังช่วยประหยัดเงินให้คุณด้วย เพราะคุณสามารถใช้ครีมกระปุกนั้นได้นานขึ้น

2. ทาคอนดิชันเนอร์เยอะเกิน

การชโลมคอนดิชันเนอร์ลงไปเยอะ ๆ ไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีกับเส้นผมเลย เพราะแทนที่เส้นผมจะดูเงางามเป็นพิเศษ กลับทำให้เส้นผมลีบแบนและดูไม่มีชีวิตชีวา

ปรับเปลี่ยนใหม่ : การทาคอนดิชันเนอร์ในบริเวณโคนผมนั้น เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะในบริเวณนั้นจะมีน้ำมันบนศีรษะตามธรรมชาติให้ความชุ่มชื้นอยู่แล้ว การเติมคอนดิชันเนอร์ลงไปก็เท่ากับเป็นการเติมความมันเยิ้มลงไป ฉะนั้น ทาคอนดิชันเนอร์ในบริเวณกึ่งกลางความยาวของเส้นผมและบริเวณปลายผมก็พอ แล้วอย่าลืม ล้างออกให้หมดด้วยล่ะ

3. คิดว่ายิ่งเยอะก็ยิ่งดี

เราเชื่อแน่ว่ามีสาว ๆ หลายคนที่คิดว่าการพอกหน้าทิ้งไว้นานกว่าที่ควร หรือการใช้สครับขัดผิวแรง ๆ จะยิ่งส่งผลดี แต่จริง ๆ แล้วการทำแบบนั้นอาจส่งผลในทางตรงกันข้ามก็ได้ คำแนะนำข้างกล่องนั้นไม่ได้เขียนขึ้นมาเฉย ๆ นะ ฉะนั้น การสร้างกฏเกณฑ์ขึ้นมาเองก็อาจทำให้ผิวเกิดความเสียหาย หรือทำให้ผิวเกิดอาการแพ้จนมีผื่นหรือสิวขึ้นได้

ปรับเปลี่ยนใหม่ : ถ้าคุณมีผื่นแดงหรืออาการระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ความงาม ก็เยียวยาผิวในบริเวณนั้นด้วยเจลทาผิวที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ หรือจะใช้ว่านหางจระเข้จริง ๆ เลยก็ได้ โดยผ่าใบต้นหางจระเข้ แล้วนำวุ้นใส ๆ ข้างในมาทาลงบนผิวที่เกิดอาการระคายเคือง แล้วคราวหน้าก็อย่าขัดผิวแรงหรือมาส์กหน้าไว้นานเกินไปล่ะ

4. ปัดมาสคาร่าในเวลาเร่งรีบ

เวลาที่รีบ ๆ นั้น สาว ๆ ส่วนใหญ่จะปัดมาสคาร่าแบบมั่ว ๆ แทนที่จะค่อย ๆ ปัดตั้งแต่โคนจนถึงปลาย จึงทำให้ขนตาไม่ได้ดูงอนยาวหรือสวยขึ้น แต่กลับจะทำให้มาสคาร่าจับตัวเป็นก้อนอยู่บนเส้นขนตา

ปรับเปลี่ยนใหม่ : ในการปัดมาสคาร่านั้น คุณต้องแน่ใจว่าปัดมาสคาร่าเข้าไปถึงโคนขนตา โดยการเงยหน้าขึ้น เปิดเปลือกตา แล้วปัดมาสคาร่าแบบซิกแซ็ก (เลื่อนแปรงไปทางขวาทีซ้ายทีสลับกัน) ในบริเวณโคนขนตา แล้วจึงใช้แปรงค่อย ๆ สางจากโคนขึ้นไปจนถึงปลาย

5. หมดเงินมากมายไปกับครีมรองพื้น

ผลการศึกษาวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่า ผู้หญิงโดยเฉลี่ยจะหมดเงินไปกับครีมรองพื้นมากมาย หรือเลือกเฉดสีมาผิด ชนิดต้องซื้อแล้วซื้ออีกถึงเจ็ดครั้ง กว่าจะได้เฉดสีที่ลงตัว

ปรับเปลี่ยนใหม่ : การเลือกทาครีมรองพื้นเฉดสีเหมาะ ๆ ก็เหมือนกับการเลือกซื้อกางเกงยีนส์นั่นแหละ เสียเวลาแค่ครั้งเดียวก็ได้ผลคุ้มค่า กฎข้อแรกคือ ซื้อครีมรองพื้นเฉพาะที่คุณลองสีสันบนใบหน้า...ไม่ใช่ลองแค่บริเวณหลังมือ ลองเลือกมาซักสามเฉดสีที่คุณคิดว่าเหมาะกับคุณ แล้วทาครีมรองพื้น แต่ละสีนั้นตามแนวขากรรไกร เฉดสีที่เหมาะที่สุดคือเฉดสีที่กลืนหายไปกับสีผิวของคุณ นอกจากวิธีนี้แล้วคุณยังสามารถไปขอของตัวอย่างตามเคาน์เตอร์ต่าง ๆ เพื่อนำไปลองทาทั้งหน้าที่บ้านได้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นสีสันจริง ๆ ภายใต้แสงธรรมชาติและจะทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

6. ผูกแต่หางม้าทุกวัน

การรวบผมไปผูกเป็นหางม้านั้น เป็นวิธีการที่ดีและประหยัดเวลา ในยามที่คุณไม่อยากทำอะไรวุ่นวายกับเส้นผม แต่การผูกหางม้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวันจนกลายเป็นนิสัย อาจทำให้เส้นผมหักขาดในบริเวณแนวเส้นผมตรงกรอบหน้า และในบริเวณที่ถูกยางรัดผมมัดเอาไว้ได้

ปรับเปลี่ยนใหม่ : เกล้าผมทรงโน้นทรงนี้สลับกัน โดยอาจจะเกล้าเป็นหางม้าต่ำ ๆ หลวม ๆ สลับกับการบิดผมขึ้นเป็นทรงกล้วยหอม แล้วใช้กิ๊บติดตรึงเอาไว้แทนที่จะมัดด้วยยางรัดผม

7. เข้านอนโดยไม่ล้างเครื่องสำอางออกก่อน

นี่เป็นเรื่องที่สาว ๆ ในสมัยนี้คงเคยเจอกันบ่อย ๆ แต่การไม่ล้างเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกก่อนเข้านอนก็อาจส่งผลให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน จนนำไปสู่สิวอักเสบหรือสิวหัวดำได้ นอกจากนี้ ยังทำให้การทามอยสเจอไรเซอร์ในวันรุ่งขึ้นไม่ส่งผลเท่าที่ควรด้วย และ 80 เปอร์เซ็นต์ ของปัญหาผิวต่าง ๆ นั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับผิวหน้าที่สกปรก

ปรับเปลี่ยนใหม่ : ถ้าคุณไม่มีแรงล้างหน้าตามปกติจริงๆ การใช้แผ่นทำความสะอาดสำเร็จรูปเช็ดหน้าก่อนเข้านอนก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เตรียมแผ่นสำลีทำความสะอาดนั้นวางไว้แถว ๆ หัวเตียง เพื่อให้ง่ายต่อการหยิบมาใช้ และถ้าคุณหาแบบที่ใช้เช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตาได้ด้วยก็จะเยี่ยมมาก

8. ใช้คีมรีดผมไฟฟ้าผิดวิธี

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เส้นผมแห้งได้อย่างมาก คือการใช้คีมรีดผมไฟฟ้าในขณะที่เส้นผมยังเปียกหรือขึ้น ๆ อยู่ เพราะน้ำจะขยายตัวและดันให้เกล็ดผมเปิดออก และอาจทำให้เส้นผมไหม้จนหลุดออกมาทั้งเส้นได้

ปรับเปลี่ยนใหม่ : ใช้คีมรีดผมไฟฟ้าในขณะที่เส้นผมแห้งสนิทเท่านั้น และควรจะทาผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อนก่อนเสมอ อย่าลืมถือคีมรีดผมไฟฟ้าให้อยู่ห่างจากโคนผมหนึ่งนิ้วเป็นอย่างน้อย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้หนังศีรษะโคนความร้อนจนไหม้


3 ตัวร้าย อันตรายต่อผิว

นอกจากพฤติกรรมผิด ๆ ที่ว่ามาแล้ว คุณก็ควรอยู่ให้ห่างไกลจากตัวการร้ายที่ทำผิวเสียสวยนี้ด้วย

การสูบบุหรี่ : การสูบบุหรี่จะทำให้คอลลาเจนในผิวหนังลดลง ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ส่วนนิโคตินจะทำให้เส้นเลือดหดตัว สารอาหารในเลือดจึงไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวหนังได้ยาก ส่งผลให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยและดูหมองคล้ำ

นอนไม่พอ : การนอนหลับพักผ่อนคือวิธีที่ดีที่สุดวีธีหนึ่ง ในการเติมความงามแบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย และมีการพิสูจน์แล้วว่าช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น แต่ถ้าคุณอดนอนผิวหนังจะขจัดของเสียออกไปได้น้อยลง ส่งผลให้ผิวหน้า ดูไม่สดใส ใต้ตาคล้ำ และน้ำหนักขึ้น

ความเครียด : เมื่อใดก็ตามที่คุณเครียด ร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนคอร์ติชอลออกมา ซึ่งส่งผลต่อผิวมากมาย ทั้งการผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จนอาจนำไปสู่สิวอักเสบ และสิวหัวดำ ความเครียดยังทำให้ผิวอ่อนแอและเกิดอาการแพ้ง่าย รวมทั้งทำให้เส้นผมหลุดร่วงง่าย และเล็บเปราะขึ้นด้วย

ข้อมูลจากกระปุกดอดคอม