ปลอดประสพ ลั่น ไม่ได้สับปลับ แจงโมเดลเขื่อนแม่วงก์ปี 42 เป็นของกรมชลประทาน ซึ่งทำเพื่อการชลประทานเท่านั้น แต่ไม่ได้ป้องกันน้ำท่วม

            กลายเป็นเรื่องเป็นราวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างใหญ่โตเลยทีเดียว เมื่อชาวเน็ตแห่แชร์บทสัมภาษณ์ของ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ขณะที่เป็นอธิบดีกรมป่าไม้ เมื่อปี 2542 ซึ่งเจ้าตัวระบุว่าขอคัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ โดยให้เหตุผลว่าต้องการรักษาผืนป่าไว้ ถ้าปล่อยให้ใช้ฟุ่มเฟือยไปเรื่อย ๆ ป่าคงไม่เหลือ แต่ในขณะนี้ ปี 2556 นายปลอดประสพกลับสนับสนุนในมีการสร้างเขื่อนแม่วงก์อย่างเต็มที่ งานนี้ หลายคนจึงมองว่านายปลอดประสพพลิกลิ้นและกลืนน้ำลายตัวเองเสียอย่างนั้น

            อย่างไรก็ดี ช่วงเย็นวันที่ 24 กันยายน 2556 เรื่องดังกล่าวก็ถูกนำมาพูดถึงในการอภิปรายผลงานในรอบ 1 ของรัฐบาล ซึ่งนายปลอดประสพขอชี้แจงให้ทราบโดยทั่วกัน โดยยอมรับว่าสมัยที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ เคยค้านสร้างเขื่อนแม่วงก์จริง เพราะแบบที่กรมชลประทานเขียนให้ในขณะนั้น เป็นการสร้างเขื่อนเพื่อชลประทานในพื้นที่ จ.อุทัยธานี อีก 3 แสนไร่ ซึ่งเมื่อสำรวจแล้วไม่มีพื้นที่ทำการเกษตรได้มากถึงจำนวนดังกล่าว และการลงทุนสร้างเขื่อนในสมัยนั้น จะใช้พื้นที่ป่าประมาณ 1 หมื่นไร่ถึงจะคุ้มค่า

            นายปลอดประสพ ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้สับปลับ และอยากจะบอกว่าที่มีการประท้วง EHIA ในขณะนี้ ก็เป็น EHIA ที่กรมชลประทานจ้างมาวิเคราะห์สร้างแบบเขื่อนเอง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ กบอ. หรือเงินจำนวน 3.5 แสนล้านบาทเลย ในส่วนของการสร้างเขื่อนแม่วงก์จะมีการออกแบบเพื่อป้องกันน้ำท่วม ไม่ใช่เพื่อการชลประทาน แต่หากมีน้ำเหลือไปเพื่อการชลประทาน ก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้

            นอกจากนี้ นายปลอดประสพ ยังได้อธิบายถึงหลักของการสร้างเขื่อนแม่วงก์ว่า เพื่อป้องกันน้ำท่วม เพราะแม่น้ำสะแกกรังที่ออกมาจากแม่วงก์ไม่มีการควบคุม ทำให้ปีหนึ่งนั้นมีน้ำหลากเต็มที่ 3 เดือน พีคอยู่ที่ 800 คิวเซก และน้ำในส่วนดังกล่าวจะไหลลงมาที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งเมื่อปี 2554 น้ำมาประมาณ 4,000 คิวเซก และเมื่อรวมกับจำนวน 800 คิวเซก ก็ทำให้เขื่อนชัยนาทไม่สามารถบริหารจัดการน้ำได้ ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างเครื่องมือต้นน้ำเพื่อระงับความเสียหาย

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม