คนร้ายก่อเหตุอุกอาจ กราดยิงเจ้าหน้าที่ในฐานทัพเรือสหรัฐฯ ในวอชิงตัน ดับ 13 ราย สืบสวนพบคนร้ายเป็นชาวอเมริกันที่พูดภาษาไทยได้ และนับถือพุทธ

              เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2556 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายบุกกราดยิงที่ฐานทัพเรือสหรัฐฯ ในวอชิงตัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 13 ศพ รวมถึงมือปืนด้วย เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนหาแรงจูงใจและตามล่าหาผู้สมรู้ร่วมคิด
             
              เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ของวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา มือปืนรายหนึ่ง ซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า นายแอรอน อเล็กซิส อดีตกำลังพลสำรองของกองทัพเรือวัย 34 ปี จากรัฐเทกซัส  ได้ขึ้นไปยืนบนระเบียงชั้น 4 ของตึกสำนักงานใหญ่หน่วยงานซ่อมบำรุงเรือของฐานทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากอาคารรัฐสภา แล้วเปิดฉากกราดยิงเจ้าหน้าที่ที่อยู่เบื้องล่าง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บอีก 12 ราย ก่อนที่อเล็กซิสจะหันมาดวลปืนต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเขาก็ถูกยิงเสียชีวิตไปอีกคน

              อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนหาแรงจูงใจที่ทำให้นายอเล็กซิสก่อเหตุอุกอาจเช่นนี้ โดยเบื้องต้นยังมองไม่เห็นแรงจูงใจที่น่าจะเป็นไปได้ แต่ไม่น่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้าย โดยจากการสืบสวนจากญาติ ๆ พบว่า อเล็กซิสนับถือพุทธและพูดภาษาไทยได้ (จากการเรียนรู้ภาษาไทยด้วยตนเอง) เขามักจะร่วมนั่งสมาธิและทำพิธีทางศาสนาร่วมกับชาวพุทธที่วัดไทยในเมืองฟอร์ทเวิร์ธ รัฐเทกซัส พร้อมกันนี้ เอฟบีไอยังได้แกะรอยตามล่าหาผู้สมรู้ร่วมคิด หลังจากสันนิษฐานว่า อาจมีคนสมรู้ร่วมคิดและวางแผนก่อเหตุฆาตกรรมหมู่ครั้งนี้ด้วย

              ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุได้ก่อให้เกิดคำถามตามมามากมายจากประชาชนชาวอเมริกัน โดยเฉพาะคำถามที่ว่า คนร้ายสามารถเล็ดลอดผ่านมาตรการรักษาความปลอดภัยของกองทัพเรือที่แน่นหนาเข้าไปได้อย่างไร ขณะที่ระหว่างเกิดเหตุ มีการพบเห็นผู้ต้องสงสัยสวมชุดเครื่องแบบทหารด้วย จึงทำให้เกิดคำถามอีกว่า การโจมตีครั้งนี้เชื่อมโยงกับคนในฐานทัพเรือหรือไม่

              ส่วนทางด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ก็ได้ออกแถลงการณ์ประณามผู้ก่อเหตุ และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งระบุว่าเจ้าหน้าที่ภายในกองทัพเรือไม่ควรเจออะไรเช่นนี้ และประกาศให้มีการลดธงชาติลงครึ่งเสาจนถึงวันที่ 20 กันยายน เพื่อไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิต

 

ภาพประกอบจาก MANDEL NGAN / AFP


ภาพประกอบจาก PAUL J. RICHARDS / AFP


ภาพประกอบจาก PAUL J. RICHARDS / AFP


ภาพประกอบจาก WIN MCNAMEE / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / AFP