เมีย “ยอดรัก” เป็นเจ้าภาพงานสวดอภิธรรมศพ “สายัณห์” วันที่ 3 ร่วมกับ “นายองอาจ คล้ามไพบูลย์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเปิดใจที่ผ่านมาเป็นการเข้าใจผิด ตนไม่เคยติดใจอะไร ขณะที่ ผจก.ส่วนตัวสายัณห์บอกเตรียมไปกราบขอโทษวัดป่าเลไลยก์กรณีเปลี่ยนแปลงกำหนดการย้ายศพ เผยจ.สุพรรณฯเตรียมปั้นหุ่นขี้ผึ้งสายัณห์
       
       วันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา เป็นวันที่ 3 ของพิธีสวดอภิธรรมศพ “สายัณห์ สัญญา” ที่วัดไร่ขิง จ.นครปฐม ซึ่งบรรยากาศยังคงแน่นขนัดไปด้วยแฟนคลับ และเพื่อนในวงการลูกทุ่งที่เดินทางมาร่วมไว้อาลัย อาทิ สัญญา พรนารายณ์, สมบัติ เมืองอุบล, นกน้อย อุไรพร, และ สุริโย สุริยา โดยเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน “น้องบิ๊ก เวสารัช” ลูกชายของสายัณห์ได้เข้าพิธีบวชที่วัดธรรมกาย เพื่ออุทิศบุญให้ผู้เป็นพ่อ
       
       โดยในวันนี้มี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์, นางลัดดา ไพรวัลย์ ภรรยานักร้องลูกทุ่งชื่อดังผู้ล่วงลับ “แอ๊ว ยอดรัก สลักใจ” และครอบครัว บริษัทเอกชนต่างๆ ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพในการสวดพระอภิธรรม ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการสวดพระอภิธรรมแล้ว ได้มีการจัดคอนเสิร์ตลูกทุ่ง โดยมีค่ายเพลงโฟร์เอสฯ และค่ายชัวร์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ เป็นหัวเรือใหญ่ในการจัด ซึ่งนายมานิตย์ อังกินันท์ ผู้จัดการส่วนตัวของสายัณห์ ได้ออกมาเผยรายละเอียดว่า...
       
        "บรรยากาศอบอุ่นดี คนมาร่วมงานจำนวนมาก ได้เห็นพระบิ๊กปลงผม พี่ๆ น้องก็ๆ ยิ้ม ส่วนคุณแม่ของน้องก็ร้องไห้ เพราะตื้นตันใจ ซึ่งการบวชครั้งนี้พระบิ๊กตั้งใจอุทิศส่วนกุศลให้พ่อแม่พี่น้อง ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดสึกเลย เพราะอยากให้เขาสบายใจ เลยตั้งใจบวชไปเรื่อยๆ ก่อน โดยการบวชครั้งนี้ไม่ได้กระทบกับการเรียน ตอนนี้พระบิ๊กกำลังใจดีมาก เพราะเขาตั้งใจบวชให้พ่อเขาจริงๆ ส่วนน้องเบสท์ สวามินี ก็หายดีแล้ว ก็บอกให้เขาเริ่มทำใจได้แล้ว เพราะถึงอย่างไรพี่เป้าไม่มีทางได้ฟื้นมาแน่ ตอนนี้กำลังใจริ่มดีขึ้น ยิ่งวันนี้ได้เห็นน้องชายเขาบวช ก็ยิ่งสบายใจขึ้น เราเองก็พยายามปลอบเขาอยู่เรื่อยๆ”
       
       “จริงๆ สาเหตุที่ต้องเลื่อนงานศพนี้ให้เป็น100 วัน ก็เพราะลูกสาวคนโตเขา เขายังเครียด ลูกสาวคนโตเป็นคนที่เฝ้าพ่อเขานานที่สุด ทำยังทำใจไม่ได้ สำหรับคิวการเป็นเจ้าภาพ ตอนนี้ก็มีคนขอคิวเป็นเยอะ แต่ที่เรายืดระยะเวลาสวด เพราะลูกสาวคนโตเขา รอให้ทำใจให้อีกหน่อย ไม่ใช่เรื่องเจ้าภาพ เพราะยังไงก็เผาที่วัดป่าเลไลยก์แน่นอน สำหรับช่วงที่เก็บ 100 วัน วันไหนเป็นวันพระ เราก็จะสวดอภิธรรมให้พี่เป้า"
       
       "สำหรับเรื่องยอดขายซีดีและของที่ระลึก อยู่ที่ลูกเมียของสายัณห์ทั้งหมด ผมไม่ได้เข้าไปยุ่งใดๆ ซึ่งในวันอังคารที่17 ก.ย. นี้ ที่วัดไร่ขิง ก็จะมีการแถลงข่าวเรื่องยอดขายซีดีและของที่ระลึกว่าได้เท่าไหร่ รวมทั้งยอดบริจาคทั้งหมด รวมทั้งบอกวันที่จะเอาศพพี่เป้าไปวัดป่าเลไลยก์เมื่อไหร่ และเผาวันไหนด้วย ส่วนคอนเสิร์ตในวันที่ 17 ก.ย. ที่จะถึงนี้ ซึ่งผมเป็นเจ้าภาพหลัก โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้แฟนเพลงเก่าๆ ที่เคยชมพี่เป้า ได้มาร่วมรำลึกอีกครั้ง ทุกคนต้องไม่พลาดเลย เพราะเป็นคอนเสิร์ต ย้อนยุค ขวัญใจคนเดิม คือการแสดงที่เดอะมอลล์ บางกะปิ เราก็จะยกมาไว้ในวันที่ 17 ก.ย. นี้ทั้งหมด รวมทั้งเข้าชมฟรีด้วย”
       
       “ซึ่งศิลปินที่จะมาร่วมงานก็ได้แก่ 7 พลังหนุ่ม และศิลปินของแกรมมี่ ส่วนเรื่องการขายเก้าอี้เพื่อหารายได้ช่วยครอบครัวพี่เป้า ส่วนตัวผมไม่รู้ เพราะไม่ได้คาดหวังอะไร ผมคิดแค่เรื่องพิธีกรรมและงานให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องข้างนอกผมไม่ได้ยุ่ง ก็แล้วแต่ศรัทธา ซึ่งการเตรียมตัวของคอนเสิร์ตก็เสร็จหมดแล้ว เหลือแต่ไปเล่นที่วันนั้นอย่างเดียว ซึ่งความอลังจะมากกว่าครั้งแน่นอน นอกจากนี้ยังมีการรีวิวละครเพลง นักดนตรีก็เป็นนักดนตรีสายัณห์ทั้งหมด สแตนต่างๆ เราก็ทำแบบย้อนยุค เหมือนได้ดูสายัณห์สมัยก่อน ส่วนที่หลายคนบอกว่าการทำย้อนยุคจะทำได้ยาก ผมเราสามารถทำเต็มที่ได้ 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าเครื่องดนตรี เวทีต่างๆ เราก็ต้องเปลี่ยนเป็นสมัยใหม่ ที่เราก็ต้องยอมรับในจุดนี้ แต่เราก็จะคงความเป็นสายัณห์ สัญญา"
       
       ส่วนที่ทางวัดป่าเลไลยก์ ยังคงสับสนเรื่องการย้ายศพ “สายัณห์” เจ้าตัวก็บอกว่าสัปดาห์หน้าจะไปกราบขอโทษด้วยตนเอง 
       "อาทิตย์หน้า ผมจะไปที่วัดป่าเลไลยก์ ไปกราบขอโทษเจ้าคณะจังหวัด และหลวงพ่อวัดป่าเลไลยก์ แต่ก็ยังยืนยันว่าเผาที่วัดป่าเลไลยก์แน่นอน เพราะจะเอาพี่เป้ากลับบ้านเกิด อย่างเมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่พี่เป้าไม่ได้ไปคอนเสิร์ต แกก็เสียความรู้สึกตัวเองมาก อีกอย่างเป็นความตั้งใจของแกด้วย ที่อยากกลับบ้านเกิด จ.สุพรรณฯ”
       
       “ตอนนี้ที่ จ.สุพรรณฯ ก็เตรียมทำหุ่นขี้ผึ้งเหมือนของพี่เป้า ก็จะจัดตั้งที่วัดวรจันทร์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นลานวัฒนธรรมของ จ.สุพรรณฯ ตรงนี้ทางจังหวัดจะเป็นเจ้าภาพ ซึ่งการทำหุ่นขี้ผึ้งครั้งนี้ได้ปรึกษาและขออนุญาตครอบครัวของพี่เป้าเรียบร้อยแล้ว เพราะการทำหุ่นนี้เราคุยกันตั้งแต่ตอนที่พี่เป้ารักษาตัวอยู่ที่ รพ.พระราม9 แล้ว พี่เป้าเองก็อนุญาต บอกว่าทำไปเลย เพราะพี่เป้าอยากทำอะไรให้กับบ้านเกิดบ้างอยู่แล้ว ส่วนกำหนดการเสร็จในการสร้าง ต้องประชุมกับทางจังหวัดอีกครั้ง"
        
       พร้อมฝากไปยังแฟนคลับของ “สายัณห์” ว่า... 
       "อยากบอกว่าให้มากันเถอะครับ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ตรงนี้กี่วัน อยากให้ศิลปินมาร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ให้รู้ว่าคนจริงอย่างพี่เป้า น่านับถือและน่าศรัทธาแค่ไหน ที่แล้วๆ มาพี่แกเป็นจำเลยสังคม3-4ปี เป็นจำเลยสังคมโดยที่ไม่ได้มีเจตนาที่จะว่าพี่แอ๊ว(ยอดรัก) ทุกคนก็เห็นว่าความเป็นอยู่ของแกเป็นยังไง อยู่ห้องเล็กๆ ค่าเช่าเดือนละ 4,500 บาท แล้วนักร้องระดับดาราลูกทุ่งขวัญใจคนเดิม แต่อยู่ห้องเช่าราคา4,500 บาท รถก็ไม่มีขับ"
        
       อย่างวันนี้ที่แฟนเพลงเดินทางมาร่วมงานเรียกว่าเป็นการการันตีเลยว่าเขาเป็นคนที่ประชาชนรัก?
        "ใช่ครับ เป็นการการันตีว่ายังไง สายัณห์ สัญญา ก็ยังเป็นขวัญใจคนเดิมอยู่ แฟนๆ ก็ยังให้ความรักความศรัทธาอยู่ ผมเชื่อว่ายังไงก็ตาม ก็จะเป็นอย่างนี้ตลอดไป ผมเชื่อมั่น"
       
        "ตอนนี้ใครเข้ามาบริจาค ผมก็จะให้บริจาคกับทางซ้อ และลูกเมียเขา เราจะไม่ผ่านคนหนึ่งคนใดเลย ผ่านแต่ครอบครัวเขา และเงินตรงนี้ห้ามใครแตะต้องเลย ใครจะใช้อะไรห้ามแตะต้องเงินตรงนี้ เพราะเงินตรงนี้เป็นเงินที่พี่เป้าสั่งไว้ เพราะเราต้องเข้าใจนะว่าการที่แกยอมตายในครั้งนี้ ก็เพื่อให้ลูกเมียสบายแบบที่คนรู้ อย่างที่ผมบอกไปว่าแกกลั้นใจตายนะ อันนี้ยืนยันว่าแกกลั้นใจตาย เพราะแกชอบเปรยอยู่เรื่อยๆ ว่า ถ้าให้แกมาอยู่ในสภาพนี้แกรับไม่ได้ รับสภาพตัวเองไม่ได้ อีกอย่างคือแกเครียดเรื่องที่ลูกกับเมียยังต้องทำงาน อย่างซ้อเวลาที่ขายก๋วยเตี๋ยวแล้วฝนตกก็ต้องเก็บ และก็ขาดทุน เพราะเขาขายก๋วยเตี๋ยวลุยสวน แกก็เลยเครียด แกเคยสั่งเอาไว้แล้วว่าถ้าฉันเป็นอะไรลงไปครอบครัวฉันคงสบายแน่ ผมรู้ว่าคราวนี้ที่แกสิ้นใจตาย เพราะแกรู้ว่ายังไงก็ไม่รอดอยู่แล้ว ถ้ายื้อไปครอบครัวก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ"
        
       บอกเพราะสาเหตุนี้ที่ทำให้ “น้องเบสท์” ลูกสาวคนโตเครียดถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล
        "ใช่ครับ น้องเบสท์เขาจะรู้ดี เพราะเขาเฝ้าพ่อเขาตลอด วันที่พี่เป้าจากไปน้องเบสท์เขาไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ แต่ไม่ได้บอกพี่เป้า บอกว่าไปทำงานที่เมืองไทย แต่ไม่ได้บอกว่าไปสิงค์โปร์ เขาไม่กล้าพ่อเพราะบอกกลัวพี่เป้ารับไม่ได้ เลยบอกไปว่าทำงานที่เมืองไทย อย่างวันไหนที่น้องเบสท์ไม่อยู่เขาก็จะถามหาน้องเบสท์ตลอด เขาจะชี้เลข1 นั้นหมายความว่าคนโต เพราะเขาพูดไม่ได้ แต่ภาษามือกับผมคือเขาจะรู้กัน ผมจะรู้ว่าสายตาแกคิดยังไง ที่ชี้มือแบบนี้คือใคร อย่างวันนี้น้องเบสท์ก็จะมาร่วมงานเป็นคืนแรกด้วย หลังจากที่เริ่มทำใจได้แล้ว เมื่อเช้าเขาเพิ่งไปบวชน้องชายเขามาที่วัด ธรรมกาย จ.ปทุมธานี ผมเองก็เพิ่งกลับมาจากวัดธรรมกาย ตอนนี้ทางครอบครัวก็เริ่มทำใจได้แล้ว ผมก็บอกว่าให้เริ่มทำใจได้แล้ว เพราะยังไงก็เอาพ่อกลับมาไม่ได้แล้ว ต้องทำใจ"
        
       พร้อมบอกการที่วันนี้ “ลัดดา ไพรวัลย์” ภรรยา “ยอดรัก สลักใจ” มาร่วมงานและเป็นเจ้าภาพในวันนี้ เป็นการยืนยันว่านักร้องลูกทุ่งระดับตำนานทั้ง 2 คน รักกันดี หลังจากเคยมีปัญหาบาดหมางกัน เมื่อครั้งที่ “ยอดรัก” ป่วยเป็นมะเร็งที่ตับ แล้ว “สายัณห์” เคยออกมาพูดในทำนองว่ายอดรักแหกตา จนกลายเป็นข่าวครึกโครมเมื่อหลายปีก่อน
        "ดีครับ ผมบอกแล้วว่า สายัณห์ สัญญา กับ ยอดรัก ไม่ได้มีอะไรกัน เขารักกันจะตาย ดูรูปผ่านๆ มาไม่ว่าจะเป็นวันเกิดพี่แอ๊ว พี่เป้าไม่เคยขาด เขารักกันจะตาย แต่คำพูดนิดเดียวเอาไปพลิกกันแบบนั้น ซึ่งจริงๆ แล้วพี่เป้าไม่มีเจตนาจะว่าร้าย เชื่อผมสิ แต่แกก็ตกเป็นจำเลยสังคม อันนี้น่าสงสาร เพราะผมรู้ดีว่าคนอย่างพี่เป้าถ้าผิดเขาจะขอโทษแล้วกราบเลยนะ ขนาดทะเลาะกับผม เขาบอกว่าถ้าพี่ผิดพี่ขอโทษ จะให้พี่กราบเลยไหม ผมก็ยังบอกไปว่าพี่ไม่ต้องหรอก ให้รู้ว่าพี่ผิดก็เท่านั้น เรื่องนี้มันพิสูจน์ให้รู้ว่าสายัณห์เป็นคนจริง ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก"
       
       ด้าน “นางลัดดา ไพรวัลย์” ภรรยา “แอ๊ว ยอดรัก สลักใจ” ได้เผยถึการมาร่วมงานและร่วมเป็นเจ้าภาพด้วยว่า...
       "ที่มาเพราะว่ารู้จักกันมานาน ครอบครัวเรากับของพี่เป้ารักกันและเคารพนับถือกันมานานแล้ว ส่วนเรื่องที่พี่เป้า เคยมีปัญหากับพี่แอ๊ว ยอดรัก นั้น เป็นการเข้าใจผิด ทางครอบครัวไม่เคยติดใจอะไร เรายังรักกันเหมือนเดิม เมื่อพี่เป้าจากไปแล้ว ก็ขอแสดงความเสียใจด้วย เข้าใจดีถึงความสูญเสียเป็นอย่างไร เพราะว่าเราเคยผ่านมาแล้ว ส่วนที่เอ็กซ์(เกรียงศักดิ์ ไพรวัลย์ ลูกชายที่เคยไม่พอใจสายัณห์เมือ่ครั้งมีปัญหากัน) ที่ไม่ได้มาด้วยเพราะว่าติดงานจริงๆ ไม่ได้มีอะไรที่ติดใจกันกับพี่เป้า เพราะขนาดที่พี่เป้าป่วยยังไปเยี่ยมที่ รพ.พระราม 9 และได้พูดคุยกับพี่เป้าว่า ลุงผมเป็นหลานลุงนะ เรื่องที่ผ่านมา ผมขอจบ และจะนับถือครอบครัวพี่เป้าตลอดไป ในวันที่ 15 ก.ย.จะมาสวดพระอภิธรรมศพด้วย”

http://www.manager.co.th