แท็กซี่สุดแสบ ฟอร์มรถเสีย ให้นักธุรกิจอิหร่านและภรรยาลงไปเข็น ก่อนที่จะซิ่งรถชิ่งหนี เอาสัมภาระมีค่าประมาณ 3 แสนบาทไปด้วย เผยข้อมูลลงทุนซื้อยาง-ข้าวไทย เพียบ !

         วันที่ 13 กันยายน 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งความจาก นายฟาร์ฮัด อายุ 52 ปี นักธุรกิจชาวอิหร่าน พร้อมด้วยภรรยาคือ นางพิมพ์ปวีณ์ คำเพ็ง อายุ 50 ปี อาศัยอยู่เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ โดยนางพิมพ์ปวีณ์ เล่าว่า เมื่อช่วงเวลา 11.00 น. ตนกับสามีเดินทางกลับประเทศไทย ลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ และ ขณะที่กำลังเดินผ่านประตูทางออกชั้น 4 ก็มีโชเฟอร์แท็กซี่ โตโยต้า สีเหลือง ทะเบียน ทษ-8484 กรุงเทพมหานคร ของบริษัทสหกรณ์แท็กซี่สามัคคีธรรม ได้มาตื๊อพูดจาหว่านล้อมให้ตนขึ้นแท็กซี่

          นางพิมพ์ปวีณ์ เล่าต่อว่า ตนกับสามีก็ขึ้นแท็กซี่ของโชเฟอร์ดังกล่าว พร้อมกับขนสัมภาระคือกระเป๋าขนาดใหญ่และเล็กรวม 4 ใบ ซึ่งกระเป๋าใบเล็กนั้นบรรจุทรัพย์สินของมีค่า ทั้งสร้อยคอทองคำ, แหวนทอง, จี้เพชร, เงิน 500 ดอลลาร์, มือถือ 2 เครื่อง และแท็บเล็ตจำนวน 1 เครื่องเอาไว้ ส่วนภายในกระเป๋าสะพายของตนมีเงินประมาณ 300 ดอลลาร์ รวมเงินทั้งสิ้นประมาณ 3 แสนบาท

          ต่อมาหลังจากที่ตนขึ้นไปบนรถแท็กซี่แล้ว ก็ได้บอกคนขับให้ไปส่งที่บ้านย่านพระราม 2 โดยตนคิดในราคาเหมาแบบไม่กดมิเตอร์ ซึ่งตกลงกันไว้ที่ 500 บาท และขณะที่โชเฟอร์ขับรถก็มีพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจเท่าไร จนกระทั่งรถลงสะพานแขวนบนด่วนกาญจนา โชเฟอร์ก็บอกว่ารถเสียให้สามีตนลงไป ช่วยเข็น และเมื่อสามีตนลงไปเข็นโชเฟอร์ก็ทำท่าสตาร์ทรถออก ตนตกใจและบอกว่าให้รอสามีตนก่อน ต่อมาเมื่อสามีตนขึ้นรถและขับไปได้สักระยะ โชเฟอร์ก็บอกว่ารถเสียอีก แล้วคราวนี้ให้ตนกับสามีไปช่วยเข็นเพราะบอกว่าสามีตนเข็นคนเดียวแรงไม่พอ ตนกับสามีเลยลงไปช่วยเข็น แต่สุดท้ายโชเฟอร์กับเร่งเครื่องขับรถหนีหายไปเสียอย่างนั้น พร้อมกับข้าวของมีค่าของตนด้วย

          อย่างไรก็ดี ขณะนั้นเป็นช่วงที่จราจรติดขัดทำให้รถแท็กซี่ไม่สามารถวิ่งไปไหนได้ไกล ประกอบกับมีเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถจักรยานยนต์มาพอดีจึงแจ้งบอกให้ช่วยจับ แท็กซี่คันดังกล่าวให้หน่อย แต่ตนก็ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้ยินหรือไม่อย่างไร เพราะขับผ่านไปและบอกว่าให้ตนหารถคันอื่น ตนจึงต้องมาโบกรถปิกอัพให้มาส่งที่ สภ.พระประแดงเพื่อแจ้งความดังกล่าว

         พร้อมกันนี้ นางพิมพ์ปวีณ์ ยังบอกว่า ในแท็บเล็ตดังกล่าวมีข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับธุรกิจของสามีซึ่งต้องการเดินทางมาประเทศไทยเพื่อมาซื้อยางและข้าว ไปขายที่ประเทศอิหร่านแต่ก็มาถูกขโมยไปเสียก่อน

          อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้พบแท็กซี่คันก่อเหตุแล้วได้นำมาจอดทิ้งไว้ที่ ซ.สแกงาม ย่านแสมดำ เมื่อตรวจสอบพบว่าของมีค่าหายไป ด้านเจ้าหน้าที่จึงเร่งตามจับกุมอย่างกระชั้นชิดแล้ว

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม