พ.ต.อ.สรรักษ์ จูสนิท อดีต ผกก.สบเมย ขึ้นศาลสืบพยาน ยันไม่เกี่ยวข้อง อุ้มฆ่า อัลรูไวลี่ เผยไม่รู้จักจะไปอุ้มฆ่าได้อย่างไร ย้ำชัดถูก พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก ใส่ร้าย
 
            วันที่ 13 กันยายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญาได้นัดสืบพยานจำเลย ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจ, พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือสมชาย จูสนิท อดีต ผกก.สภ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน, พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล อดีต ผกก.สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี, พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และ จ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง เป็นจำเลย 1-5 ในคดีร่วมกันอุ้มฆ่า นายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2533

            โดยในการสืบพยานครั้งนี้ ทนายจำเลยของ พ.ต.อ.สรรักษ์ เบิกความสรุปยืนยันว่า พ.ต.อ.สรรักษ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอุ้มฆ่าอัลรูไวลี่แต่อย่างใด และขณะที่เกิดเหตุ พ.ต.อ.สรรักษ์ ก็ดำรงตำแหน่งรองสารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาลใต้ โดยอยู่ในแผนกที่ 2 ซึ่งสมัยก่อนได้เคยมีการระดมกำลังที่โรงแรมฉิมพลีบ้าง 1-2 ครั้ง ก่อนที่จะออกปฏิบัติการ แต่ก็ไม่เคยใช้โรงแรมและสถานที่อื่น ๆ เป็นเซฟเฮ้าส์ นอกจากนี้ ยังไม่เคยรู้จักอัลรูไวลี่มาก่อน จึงไม่มีทางที่จะนำตัวอัลรูไวลี่ไปกักขังเพื่ออุ้มฆ่าแต่อย่างใด

            ใน ส่วนของ พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก พยานโจทก์ ได้กลับคำให้การเมื่อปี 2552 โดยระบุว่าตนและจำเลยคนอื่น ๆ ร่วมกระทำผิดด้วย สำหรับคำให้การที่อ้างว่าตนได้รับแหวนทองของอัลรูไวลี่ จาก พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี จำเลยที่ 4  เพื่อนำมามอบให้กับญาติของอัลรูไวลี่ แต่กลับนำมามอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากขณะนั้น พ.ต.ท.สุวิชชัย ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำมีนบุรีในคดีฆ่าผู้อื่น และตนก็ไม่เคยเห็นแหวนมาก่อน เพิ่งจะมาเห็นครั้งแรกที่ศาลในวันสืบพยานโจทก์เท่านั้น

            นอกจากนี้ พ.ต.อ.สรรักษ์ ยังเบิกความต่ออีกว่า ส่วนในบันทึกคำให้การของ พ.ต.ท.สุวิชชัย ที่ส่งประเด็นไปสืบยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมกับกล่าวหาว่าตนพร้อมพวกได้นำตัวอัลรูไวลี่มาที่โรงแรมฉิมพลีก็ไม่เป็น ความจริง และตนกับพวกความจริงแล้วก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอะไรของอัลรูไวลี่ เลย ซึ่งตลอดระยะเวลา 21 ปี ที่รับราชการมา ตนก็มีความประพฤติดีมาโดยตลอด ไม่เคยโดยโทษทางวินัยหรืออาญา

            พล.ต.ท. สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจ กล่าวว่า เหตุผลที่ พ.ต.ท.สุวิชชัย กล่าวเท็จตนและพวก น่าจะเนื่องมากจากตนเป็นลูกน้องเก่าและเคยได้รับความช่วยเหลือจาก พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ที่มาช่วยสืบสวนในคดีนี้้ด้วย

            อย่างไรก็ดี ภายหลังเบิกความเสร็จสิ้น ศาลได้นัดสืบพยานจำเลยครั้งต่อไป ในวันที่ 26 กันยายน เวลา 09.30 น.

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม