10 เนื้อเพลงความหมายดี ๆ จากอัลบั้มสุดฮิตอย่าง “Indigo” ของ RM BTS
2022-12-21 13:29:14
Advertisement
คลิก!!!

สมาชิกวง BTS ได้มอบความสุขให้แฟน ๆ ด้วยผลงานเดี่ยวของแต่ละคน จนเมื่อถึงคราวอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกของ RM ที่เกี่ยวข้องกับ solo mixtapes ก่อนหน้านี้อย่าง “RM” และ “Mono” ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก “Indigo” ทำให้แฟน ๆ รู้สึกทึ่งไปกับความลึกซึ้ง, ความสัมพันธ์, ศิลปินมากมายที่มาร่วมร้องด้วย คิมนัมจุนทั้งเขียนเพลง, ร้อง, แร๊ป รวมไปถึงลงมือในขั้นตอนการผลิตด้วยตนเองราวกับนักกวีท่านหนึ่งจนได้ผลงานชิ้นเอกอย่าง “Indigo” ขึ้นมา จากที่ RM หนุ่มแร๊ปกล่าวไว้ว่าอัลบั้มนี้รวบรวมเรื่องราวของเขาใน 20 ปีและบรรยายถึงการเติบโตทั้งในฐานะคนธรรมดาและศิลปิน

 

เมื่อวิเคราะห์ให้ลึกลงไปในเนื้อเพลงที่สละสลวยทำให้เส้นทางทางดนตรีของ RM เป็นที่น่าจดจำ นี่คือ 10 เนื้อเพลงที่สวยงามจากอัลบั้ม “Indigo” ของ RM BTS ที่กลายเป็นเนื้อเพลงยอดฮิต 

 

*แปลเนื้อเพลงภาษาอังกฤษจาก Genius

 

“Yun” (with Erykah Badu)

“I wanna be a human

‘Fore I do some art

It’s a cruel world

But there’s gon’ be my part

‘Cause true beauty is a true sadness

Now you could feel my madness”

 

เพลงแรกที่แต่งเพลงอุทิศให้กับยุนฮยองกึนศิลปินร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงของเกาหลีใต้ RM เน้นความปรารถนาของเขาที่เชื่อมโยงกับมนุษยชาติเพื่อสร้างศิลปะที่เป็นตัวแทนของตนที่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ในฐานะผู้บริโภคงานศิลปะทุกรูปแบบจึงง่ายที่จะเชื่อมโยงกับดนตรีที่สื่อถึงมนุษย์ ทำให้รู้สึกถึงมนุษยธรรม และแบ่งปันมุมมองของผู้คนในหัวข้อต่าง ๆ

 

“Still Life” (with Anderson .Paak)

“Gimme no name ’cause I’m untitled (Oh, yeah)

My life is on display, still life, still life

The past is gone, and the future is unclear (Oh-oh)

I catch my breath at a fork in the road

I want to escape the frame of this canvas (Oh-oh)

The shadow cast over me by yesterday and tomorrow”

 

RM ยังคงยึดมั่นในธีมของอัลบั้มด้วยการแสดงตนเป็นภาพวาด เนื้อหาของเพลงมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตั้งแต่อดีต อนาคตจนถึงจุดที่เขาปฏิเสธที่จะตั้งชื่อตัวเอง ชีวิตคนเราบางครั้งก็รู้สึกเหมือนติดอยู่ในกรอบ เฝ้าดูเหตุการณ์ในอดีตและอนาคตที่เกิดขึ้น และรู้สึกว่าเราไม่สามารถระบุตัวตนของตัวเองได้อย่างถูกต้องท่ามกลางความวุ่นวายในชีวิต

 

“All Day” (with Tablo)

“There are more bodies outside

It just became a habit, I don’t care

You know, those guys do care more

In fact, the body is nothing, the mind is more of the problem

Uh, yeah, I myself, don’t know, huh

F*** the AI, f*** the algorithm

I need to think, f*** all the rhythm

My biorhythm gives me no time to think”

 

Biorhythm นิยามได้ว่าเป็นวงจรที่ควบคุมสภาพทางกาย อารมณ์ หรือจิตใจของมนุษย์ RM พูดอย่างกล้าหาญว่าเขารู้สึกติดกับดักแบบไหน และในขณะที่จิตใจของเขาถูกท้าทายจากความคิดขวางโลกของคนอื่น ฟังดูคุ้น ๆ ไหม? มันคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ผู้คนได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่พวกเขาเห็นบน sns เป็นอย่างมาก บางคนติดอยู่ในวัฏจักรอันเลวร้าย คนอื่น ๆ กำลังต่อสู้เพื่อรักษาเอกลักษณ์ของตนไว้เหนือพวกเลียนแบบ, แนวโน้มโง่ ๆ, และกระแสที่ไม่จำเป็น

 

“Forg_tful” (with Kim Sawol)

“I keep forgetting about yesterday

I don’t know what today is either

I keep forgetting the me of yesterday

I’m only twenty-six, yeah, yeah

Why can’t I remember?

My friends are sad

I’m sorry, I have so many thoughts

I don’t have enough memory”

 

การหลงลืมในตอนที่เราเป็นผู้ใหญ่อาจเป็นความรู้สึกที่น่ากลัว โดยเฉพาะเมื่อคนรอบข้างเริ่มสังเกตเห็น RM อธิบายสถานการณ์ได้อย่างชัดเจนและอธิบายเพิ่มเติมด้วยความรู้สึกผิดจากใจจริงที่ว่าจิตใจของเขาเต็มไปด้วยความคิดจนขาดพื้นที่ความจำ ลึก ๆ แล้วทุกคนมี "Forg_tful" ระหว่างความเครียด การคิดมากเกินไป และผลกระทบที่มากเกินจนส่งต่อสุขภาพจิตในชีวิตประจำวัน คนเราสามารถมีความสุขได้หากเราไม่ลืมชื่อของตนเองในทุก ๆ วัน

 

“Closer” (with Paul Blanco, Mahalia), produced by HONNE

“Mm, I feel it most in the nighttime, yeah

Me never on your timeline, yeah

See you always in the limelight

Keep me rollin’ in the deep, yeah

Not a tease, no joke, I do mеan it

Don’t cease, baby don’t, why you floatin’?

Wanna lock you up in my sight

But you run away like fish, yеah”

 

RM แสดงให้เห็นด้านที่อ่อนแอของเขาเกี่ยวกับความรัก เขาแบ่งปันความเจ็บปวดของความสัมพันธ์เมื่อใครคนหนึ่งพยายามที่จะใกล้ชิดกับอีกฝ่าย แต่เห็นฝ่ายตรงข้ามกลับห่างไปอย่างสิ้นหวังทุกครั้ง หลายคนเคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้ในชีวิตรักบางครั้ง โดยเฉพาะการไล่ตามสิ่งที่เราไม่มีวันสมหวังได้

 

“Change pt. 2”

“Things change, people change,

everything change

Love change, friends change,

everyone change

It is no strange

That’s the world’s shape”

พูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างที่ RM พูดง่าย ๆ ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตและอาจเกิดขึ้นได้ในความสัมพันธ์, มิตรภาพ, หรือแม้แต่ชีวิตส่วนตัว เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้คนในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ ผู้คนต่างยินดียอมรับและให้กำลังใจกับความเปลี่ยนแปลง เพราะมันเป็นการก้าวปสู่ความสำเร็จในทุกแง่มุมของชีวิต

 

“Lonely”

“In a moment of eternity

It’s neatly packed here

I hate this hotel room

I’m floating alone

This loud horn

As wide as the narrowed room

I’m trapped in myself”

 

RM กล่าวว่าขารู้สึกเหงามากที่สุดตอนที่เขาอยู่แต่ในห้องพักของโรงแรมซึ่งดูเหมือนเป็นการขังเขาไว้และทำให้เขาคิดถึงบ้าน แน่นอนว่าความเหงาของแต่ละคนไม่เหมือนกันแต่ก็ทำให้เนื้อเพลงนี้กลายเป็นเพลงฮิต

 

“Hectic” (with Colde)

“Yesterday was a hectic

There was nothin’ romantic

If I can just find a reason

To keep this endless chasin’ (Chasin’, chasin’)”

 

RM สรุปชีวิตของเขาในฐานะศิลปินผ่านเนื้อพลงอย่างตรงไปตรงมา ถึงจะยุ่งและดังแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้ทำให้เขามีเวลาว่างที่จะค้นหาตัวเองในด้านความรัก ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จทั่วโลก หลายคนจึงให้ความสำคัญทั้งหมดไปกับอาชีพเพราะไม่มีเวลาที่จะมีความรัก บางทีเพลงนี้อาจเป็นเพลงปลอบใจผู้คนก็ได้

 

“Wild Flower” (with Cho Youjeen)

“Even before the start, I imagined

An end where I could applaud and smile

That’s what I wishеd for

When everything I bеlieved in grew distant

When all this fame turned into shackles

Please take my desire away from me

No matter what it takes

Oh, let me be myself”

 

บางครั้งสิ่งที่เรารักมากที่สุดก็สามารถพรากตัวตนและอิสระของเราได้ RM รู้สึกได้ถึงสิ่งเหล่านั้นจริง ๆ ในเพลงนี้เขาเน้นว่าสิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปจากที่เคยเป็น และตอนนี้เขาก็เต็มใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อหวังว่าจะพบตัวเองอีกครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสิ่งนี้อาจเกิดขึ้นได้กับเรื่องงาน, ความสัมพันธ์, มิตรภาพ, หรือแม้แต่ภายในครอบครัว

 

“No.2” (with Park Ji Yoon)

“I smile

That I ain’t gotta prove myself

That I ain’t the one, that I ain’t the shit

A child who was hungry for recognition

Older people that are suited mind

My balloon filled with myself, explode

After it exploded, I knew it was empty inside

I asked endlessly, can it just flow?

Can I belong where I don’t want to?”

 

โดยปกติแล้วเนื้อเพลงของ RM จะมาจากมุมมองที่มั่นใจในตัวเอง แต่ครั้งนี้เขาถ่อมตัวและปฏิเสธการเป็นที่ยอมรับทุกรูปแบบ เขาถึงกับเน้นว่าอีโก้ของเขาถูกปลดปล่อยออกมาขณะที่เขากำลังมองตัวเองเวอร์ชั่น 2 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม กี่ครั้งแล้วที่คนเรามักพูดกับตัวเองว่า “ฉันจะเป็นคนใหม่” อย่างน้อยก็ทุก ๆ คืนก่อนปีใหม่ การยกระดับตัวเองของคน ๆ หนึ่งเป็นลักษณะนิสัยของมนุษย์และเป็นนิสัยที่น่ายกย่อง

ที่มา soompi

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X