เมื่อวันที่ 1 กันยายน Super Junior ได้ให้สัมภาษณ์ออนไลน์กับสำนักข่าว Star News ระหว่างการสัมภาษณ์ ผู้สัมภาษณ์ได้พูดถึงวันครบรอบเดบิวต์ 17 ปีของวงที่จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือน ชินดง (ShinDong) บอกว่า

“เพราะว่าผมเป็นพวกที่มองไปข้างหน้าตลอด ผมเลยไม่ทันรู้ตัวเลยว่าเรามาไกลกันขนาดนี้ แต่พอมองย้อนกลับไป ก็นานจริงแหละครับตั้งแต่พวกเราเดบิวต์ มันทำให้ผมรู้สึกว่า เราก็ต้องไปต่อจากตรงนี้อีก”

ชินดงพูดต่อ “ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่เลยนะครับสำหรับการครบรอบ 17 ปี แต่ผมรู้สึกว่าเราไม่ควรทำให้มันยิ่งใหญ่ขนาดนั้น เพราะว่าถ้าเป็นแบบนั้น ผมจะได้ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าได้”
 

อีทึก (LeeTeuk) ลีดเดอร์ของวงบอกว่า “เรามาที่นี่เพราะว่ามาทำงานและทำงานเลยครับ ผมคิดว่าเราปรับตัวเข้ากับยุคสมัยและเปลี่ยนไปตามโลกนี้ได้ดี และเราสามารถรับความรักและกำลังใจมาได้นานขนาดนี้คงเพราะเราสนุกไปกับงานที่เราทำ เราทำให้ดีที่สุดตลอดเวลาและพอใจกับทุกช่วงเวลาที่มอบให้กับพวกเรา”

เยซอง (YeSung) บอกว่า “ใช่แล้วครับ เราไม่เคยคุยกันเรื่องช่วงเวลาที่น่ายินดีที่สุดเลย เพราะแต่ละปีมีค่าสำหรับพวกเรา”

รยออุค (RyeoWook) แสดงความคิดเห็นของเขาว่า “ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือปี 2022 แล้ว เราแค่พยายามทำเพลงที่ดีไปสู่สาธารณะชนและแฟนคลับของเรามาจนถึงตอนนี้ และแต่ละปีก็ผ่านไป เราคงไม่สามารถมาไกลขนาดนี้ได้หากสมาชิกของเราไม่ทุ่มเทสม่ำเสมอ และผมอยากขอบคุณเอลฟ์ (E.L.F.) ที่เดินข้างกันมาตลอด”

รยออุคพูดต่อ “อีกแค่ 3 ปีเราก็จะเดบิวต์ครบ 20 ปีแล้ว มันทำให้ผมรู้สึกขอบคุณครับ และรู้สึกว่ามีอะไรต้องรับผิดชอบมากขึ้นด้วย สำหรับผม Super Junior เหมือนเป็นชื่อของผม Super Junior คือความภูมิใจและความรักของผม”

อึนฮยอก (EunHyuk) บอกว่า “ผมอยากจะขอบคุณสมาชิกของวง, แฟนคลับ และทีมงานที่ทำให้เรามาไกลกันขนาดนี้ ผมไม่เคยคิดว่าจะอยู่ในวงการมา 18 ปีแล้ว ดูเหมือนว่าผมจะทำงานได้ดีนะครับ”

“ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา เราผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย ไม่ใช่แค่เรื่องงาน แต่ไปถึงเรื่องส่วนตัว เพราะฉะนั้นตอนนี้ ผมรู้สึกว่าสมาชิกวง Super Junior คือครอบครัวของผมมากกว่าเพื่อนแล้วครับ”

เมื่อถามถึงเคล็ดลับในการแข่งขันให้อยู่ในวงการเคป็อปมาได้ตลอดหลายปี รยออุค บอกว่า “เรื่องสำคัญคือต้องรักษาสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว เราทุกคนพยายามเต็มที่เพื่อจัดการเรื่องนี้ และเคารพการใช้ชีวิตของกันและกัน”

ชินดงบอกว่า “เราพยายามอย่างหนักเพื่อจะเคารพและเข้าใจกันและกัน และสิ่งสำคัญที่สุดคือเรามีต้นสังกัด SM Entertainment ที่สนับสนุนเราเต็มที่” อีทึกและอึนฮยอกหัวเราะ พร้อมบอกว่า “คือพวกเราไม่คิดว่ามีเคล็ดลับอะไรหรอกครับ เราแค่อดทนเก่งไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรครับ”