มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาว่าลัทธิ "ไซแอนโทโลจี" นั่นเอง คือผู้มีหน้าที่คอยคัดเลือกหญิงสาว ให้มาเป็นภรรยาของ "ทอม ครูซ" โดยเรื่องดังกล่าวอ้างอิงข้อมูลของดาราสาวคนหนึ่ง ที่เคยคบหากับเขาอยู่ระยะสั้น ๆ ซึ่งเธอบอกว่าตัวเองได้สานสัมพันธ์กับซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูดด้วยขั้นตอนดังกล่าวเช่นเดียวกัน

ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นจากข้อมูลของดาราสาว นาซานิน บอเนียดี อดีตแฟนสาวที่คบหากับ ทอม ครูซ อยู่ช่วงสั้น ๆ ที่เธออ้างว่าตัวเองต้องขนข้าวของออกมาจากบ้านของพระเอกคนดัง ก็เพราะไม่เป็นที่พอใจของทั้งเขา และ เดวิด มิสคาวิจ ผู้นำ ลัทธิไซเอนโทโลจี นั่นเอง

Vanity Fair ได้รายงานถึงเรื่องนี้ในนิตยสารฉบับเดือน ต.ค. ที่เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่พิเศษของลิทธิที่ชื่อว่า มัวรีน ออร์ธ และ เซลลี มิสคาวิจ ภรรยาของผู้นำลัทธิ คือคนที่มีหน้าที่ในการคัดเลือกหญิงสาวที่เหมาะสมที่จะมาเป็นภรรยาของ ทอม ครูซ สมาชิกคนสำคัญของลัทธิ เมื่อครั้งที่พระเอกคนดังเลิกรากับ นิโคล คิดแมน ก่อนทีเขาจะแต่งงานกับ เคที โฮล์มส์ ในเวลาต่อมา

โดยขั้นตอนการสรรหาภรรยาของ ครูซ จะทำโดยใช้รูปแบบของการออดิชั่น และคัดเลือกนักแสดงสำหรับหนังเรื่องใหม่มาเป็นเครื่องบังหน้า ซึ่ง บอเนียดี สาวเชื้อสายอิหร่านที่ใช้ชีวิตเติบโตขึ้นมาในกรุงลอนดอน ก็คืออีกคนที่ผ่านการคัดเลือกเบื้องต้นมาได้ และต้องผ่านขั้นตอนที่จะต้องใช้เวลาร่วมเดือน ทั้งการปรับโฉมเปลี่ยนแปลงตัวเอง และเซ็นสัญญาข้อตกลงพิเศษ ก่อนที่เธอจะถูกส่งไปให้ ทอม ลองออกเดทคบหาเพื่อการดูตัว โดยที่หญิงสาวจะทราบเพียงว่าเธอมาคัดเลือกบทหนังเท่านั้น

บอเนียดี ถูกส่งตัวไปหา ทอม ครูซ ในเดือน พ.ย. 2004 จนเริ่มสงสัยว่าตัวเองอาจจะไม่ได้เดินทางมาเพื่องานในหนังใหม่ แต่ถูกส่งมาเพื่อเหตุผลอื่น จนกระทั่งมาแน่ใจเมื่อต้องเซ็นเอกสารลับเฉพาะ ก่อนจะได้ออกเดทกับพระเอกซูเปอร์สตาร์

ระหว่างความสัมพันธ์เธอยังต้องถูกประเมิน นอกจากนั้นยังต้องใช้เวลา 2 - 3 ชั่วโมงเพื่อขั้นตอนของการ "กำจัด" ความคิดในแง่ลบที่เธอมีต่อ ทอม ออกให้หมดด้วย

แต่สุดท้ายความสัมพันธ์ครั้งนี้ก็ยืนยาวอยู่ได้เพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น เมื่อฝ่ายพระเอกดังเริ่มมีเรื่องไม่พอใจตัวเธอในหลาย ๆ ประเด็น ทั้งเรื่องที่เธอเคยพูดเป็นเชิงดูแคลนว่า ครูซ มีวัยวุฒิ และความเป็นผู้ใหญ่ที่น้อยกว่าตนเอง นอกจากนั้นก็ยังถูกวิจารณ์ที่แสดงท่าทีที่ไม่เคารพต่อเจ้าลัทธิ เดวิด มิสคาวิจ ระหว่างการพูดคุยสนทนากัน ที่เธอพูดโต้ตอบเจ้าลัทธิด้วยคำว่า "ขอประทานโทษนะคะ?" ซ้ำซากไปมาหลายครั้ง

บอเนียดี ได้ย้ายไปพักที่บ้านของ ทอม ครูซ อยู่ช่วงหนึ่ง จนโดนเฉดหัวออกมาใน 3 สัปดาห์หลังจากนั้น และตรงกับช่วงเดือน ม.ค. ซึ่งเธอยังพยายามร้องขอถามหาเหตุผล แต่ก็ไม่มีคำอธิบายใด ๆ ดาราสาวบอกว่าเธอรัก ทอม ครูซ และเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงกับร้องไห้แทบจะทุกวัน หลังจากต้องย้ายไปพักอาศัยในสถานที่ซึ่งไซแอนโทโลจีจัดให้ ที่อยู่ในฟลอริดา

หลังจากนั้น บอเนียดี เล่าว่าเธอได้เล่าเรื่องที่เพิ่งจะเลิกกับ ทอม ครูซ ให้เพื่อนที่เป็นสมาชิกของลัทธิฟัง แต่แล้วเพื่อนคนนี้กลับไปรายงานพฤติกรรมของเธอให้กับเจ้าหน้าที่ของไซแอนโทโลจี ซึ่งทำให้เธอถึงขั้นโดนลงโทษที่ไปเปิดเผยความลับของลัทธิ ทั้งให้ขัดส้วมด้วยแปรงสีฟัน, ทำความสะอาดกระเบื้องห้องน้ำ, ลอกท่อในช่วงกลางคืน และยังต้องไปเดินแร่ขายหนังสือ Dianetics: The Modern Science of Mental Health or Dianetics: The Evolution of a Science ที่ว่าด้วยแนวคิดความสัมพันธ์ระหว่างจิตและร่างผลงานของ แอล. รอน ฮับบาร์ด เจ้าของแนวคิด และผู้ก่อตั้งไซเอนโทโลจี ตามริมถนนด้วย

ซึ่งมีคำยืนยันว่าตอนนี้ บอเนียดี และมารดาของเธอได้ออกจากลัทธิไซเอนโทโลจีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กระทั่งล่าสุดตัวแทนของของลัทธิได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นแล้ว ยืนยันว่าท่านเจ้าลัทธิ ไม่เคยจำได้ว่าถูกแฟนสาวของใครมาดูแคลน จนทำให้เขาไม่พอใจ นอกจากนั้นสมาชิกของลัทธิอีกคนก็ยืนยันว่า ไซแอนโทโลจี ไม่มีทางลงโทษใครด้วยวิธีแบบนั้นอย่างแน่นอน

http://www.manager.co.th