The Red Sleeve เป็นซีรีส์ที่มาแรงที่สุดในเวลานี้ ด้วยเรตติ้งที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกตอน และทะลุ 10% ไปได้เป็นที่สำเร็จ เรื่องนี้ อีเซยอง (Lee Se Young) สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมในบทของ ซองด็อกอิม นางเอกของเรื่องที่ทั้งฉลาดและมีเสน่ห์ 

อีเซยอง เกิดเมื่อปี 1992 และเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของผู้ชมเกาหลีเป็นอย่างดี เพราะเธอเริ่มต้นจากการเป็นนักแสดงเด็ก และอยู่ในวงการมาอย่างยาวนาน คุณแม่ของอีเซยอง อยากให้อีเซยองเป็นนักแสดง คนจะได้จำหน้าเธอได้ และช่วยป้องกันเรื่องราวเลวร้ายอย่างเช่นการลักพาตัว ในปี 1997 ตอนที่อีเซยองมีอายุ 5 ขวบ เธอได้เดบิวต์ในฐานะนักแสดงเด็กในละครทางโทรทัศน์

ด้วยหน้าตาที่น่ารัก ทำให้อีเซยองได้เข้าวงการอย่างที่แม่ของเธอหวังไว้ เธอเคยร่วมงานกับซีรีส์เรื่อง แดจังกึม ในบทของ ชเวกึมยอง ในวัยเด็ก และได้โชว์ทักษะด้านการแสดงให้ผู้ชมประทับใจตั้งแต่ในตอนนั้น

อีเซยองมีผลงานมาตลอดในช่วงอายุ 5-16 ปี แต่เธอพักงานแสดงไป 3 ปีเพื่อโฟกัสเรื่องการเรียน และในปี 2011 เธอกลับมารับงานแสดงอีกครั้ง ในบทที่เติบโตมากขึ้น อย่างไรก็ตามอีเซยองเจอการแข่งขันที่ดุเดือด มีนักแสดงหญิงหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย ทำให้เธอต้องเริ่มต้นจากบทเล็กๆหรือบทสมทบในโปรเจคที่ไม่เป็นที่จับตามองนัก

อีเซยองรับบทสมทบหลายครั้ง จนกระทั่งในปี 2017 เธอได้รับบทที่โดดเด่นขึ้นในซีรีส์เรื่อง A Korean Odyssey ถึงแม้จะไม่ใช่บทนำ แต่ในเรื่องนั้นเธอเป็นที่จดจำมากขึ้น และในปี 2019 เธอก็ได้ก้าวขึ้นมารับบทนำในซีรีส์เรื่อง The Crowned Clown ซึ่งร่วมงานกับ ยอจินกู (Yeo Jin Goo) 

ตลอดเวลา 24 ปีในวงการบันเทิง ทำให้อีเซยองพร้อมที่จะท้าทายทุกบทบาทตัวละคร เธอเคยแสดงมาแล้วทั้งแนวอาชญากรรม, โรแมนติก ไปจนถึงย้อนยุค แสดงเป็นทั้งตัวร้าย, หมอ, ตำรวจ หรือนางใน เธอมีประสบการณ์มาแล้วแทบจะทุกบทบาท

การเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ไปตามตัวละครไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับนักแสดง อย่างไรก็ตามด้วยประสบการณ์ด้านการแสดง, การทำการบ้านอย่างหนัก และทุ่มเทให้กับงาน อีเซยองทำหน้าที่ในทุกบทบาทได้ดี แต่ก็ใช้เวลาพอสมควรถึงจะเจอบทตัวละครที่เป็นจุดเปลี่ยนของเธอ

อีเซยองได้รับคำชื่นชมในการแสดง โดยเฉพาะฉากร้องไห้ ผู้ชมให้ฉายาเธอว่า ‘เจ้าแม่ของฉากร้องไห้’

The Red Sleeve ผลงานเรื่องล่าสุดของอีเซยอง ถือเป็นเรื่องที่นำความสำเร็จหลายอย่างมาให้กับอีเซยอง ถึงแม้ในตอนแรกเรื่องนี้จะไม่ได้รับการจับตามองมากนัก แต่ทว่าเรตติ้งกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นม้ามืดของซีรีส์ที่ออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกันในช่วงนี้เลยก็ว่าได้ 

นอกจากนี้หลายคนยังชื่นชมลุคของอีเซยองในชุดฮันบก ที่ได้เห็นเธอในบทย้อนยุคแบบนี้ในรอบ 3 ปี และครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่แล้วที่เธอรับบทเป็นพระมเหสี แต่ครั้งนี้เธอรับบทเป็นนางใน ทำให้เธอดูสวยใส สบายตาและมีเสน่ห์ของหญิงสาวที่น่าทะนุถนอม แทนที่จะเป็นพระมเหสีผู้ทรงอำนาจ

นอกจากความสามารถด้านการแสดงแล้ว อีเซยองยังมีความสามารถด้านการร้องเพลงด้วย เธอเคยเข้าร่วมรายการ The King Of Masked Singer เมื่อปี 2017 

หวังว่าจะได้เห็นผลงานที่ประสบความสำเร็จของอีเซยองเรื่อยๆในอนาคต