ฮีชอล ขอบคุณยูแจซอกที่พูดถึงคูฮารา และ ซอลลี่ พร้อมยืนยันว่าเขารับเลี้ยงแมวของซอลลี่และเหตุผลที่ไม่ยอมบอกใครก่อนหน้านี้
2019-12-30 16:00:29
Advertisement
คลิก!!!

 

คิมฮีชอล (Kim Heechul) วง Super Junior ได้เปิดใจคุยหลังจากจบงาน 2019 SBS Entertainment Awards

ฮีชอล ได้ไลฟ์สดทาง YouTube เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม โดยใช้ชื่อคลิปว่า “หลังจากงานประกาศรางวัลของ SBS…”

ระหว่างการออกอากาศ ฮีชอลได้พูดถึงคำกล่าวรับรางวัลแดซังของ ยูแจซอก (Yoo Jae Suk) ที่พูดถึง คูฮารา (Goo Hara) และ ซอลลี่ (Sulli) “หลังจากได้ฟังแจซอกฮยองกล่าวรับรางวัล และพูดถึง รุ่นน้องของเราทั้ง 2 คน มันทำให้ผมอยากออกมาพูดอะไรบางอย่าง ผมรู้สึกขอบคุณ เพราะตัวผมเองนั้นพยายามอย่างหนักที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมไม่รู้ว่าผมควรจะพูดหรือไม่พูดเรื่องนี้ ผมรู้แค่ว่าผมแค่ไม่อยากพูดถึง”

เขาพูดต่อ “คิดว่าหลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าผมเอาแมวของซอลลี่มาเลี้ยง การที่แจซอกฮยองพูดถึงรุ่นน้องของเราเมื่อวานนี้ มันทำให้ผมรู้สึกของคุณ และคิดว่าเขายอดเยี่ยมมาก เหตุผลที่ผมไม่คุยเรื่องนี้และพยายามปิดบังว่า [เลี้ยงแมวของซอลลี่] เพราะผมไม่อยากให้คนอื่นนำเรื่องนี้ไปแต่งเรื่อง สร้างเรื่องในแบบที่พวกเขาคิดไปเอง ทั้งที่น้องของผมทั้ง 2 คนไม่มีโอกาสได้ออกมาพูดอีกแล้ว ก็อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้าครับ ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ เพราะผมคิดว่าการที่ผมโชว์แมวของซอลลี่ จะทำให้คนเอาไปคิดเองเออเองต่างๆนานา แล้วก็สร้างข่าวลือในแบบที่พวกเขาต้องการกันเอง”

จากนั้นฮีชอลได้ขอบคุณทีมงานของรายการ My Ugly Duckling ที่เคารพความต้องการของเขาในการตัดต่อวิดีโอส่วนที่มีแมวออก เขาเปิดเผยว่าตอนรายการมาถ่ายทำที่บ้าน เขาก็พยายามซ่อนแมวเอาไว้ 

คิมฮีชอลอธิบาย “ผมบอกทีมงานว่า ‘ได้โปรดตัดต่อมันออกให้หมด ตัดต่อออกให้หมดเลยนะครับ’ ผมรู้สึกดีนะที่คนยังจดจำ [ซอลลี่ และ คูฮารา] ได้ แต่ก็ยังมีบางคนออกมาโทษกันไปมา ‘มันคือความผิดของคุณ’ ‘ไม่ใช่ มันคือความผิดของคุณต่างหาก’ ‘เพราะพวกคุณทำแบบนี้ยังไงล่ะ’ บางคนก็เปลี่ยนเรื่องนี้ให้กลายเป็นสงครามความขัดแย้งระหว่างเพศ ผมรู้สึกว่าทุกการกระทำเหล่านั้นมันน่ารังเกียจ และผมไม่อยากเห็นมัน ผมเลยขอให้ทีมงานลบมันออกให้หมด”

เขาพูดต่อ “แต่ตอนนี้ หลายคนคงเห็นแมวแล้ว เพราะตอนที่ผมกำลังคุยกับพวกคุณเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน แมวดันกระโดดเข้ากล้องพอดี อยู่ๆเขาก็กระโดดเข้ามา ผมเลยคิดว่าหลายคนคงรู้แล้ว แต่ผมก็ยังคงบอกทีมงาน My Ugly Duckling ให้ตัดต่อมันออกอยู่ดี แล้วก็ไม่ให้ใส่คำบรรยายประมาณว่า ‘แมวตัวใหม่ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน’ ‘แมวตัวใหม่’ ‘แมวอีกตัวหนึ่ง’ ผมขอให้พวกเขาไม่ซูมเข้าไปที่แมว และเขาก็ไม่ทำ ทำให้ผมรู้สึกขอบคุณทีมงาน My Ugly Duckling สำหรับเรื่องนี้มาก รวมถึงการดูแลคุณแม่ของผมเป็นอย่างดีด้วย ทีมงานบอกกับผมว่า ‘ฮีชอล เราเข้าใจสิ่งที่คุณจะสื่อนะ’ นักเขียนบท และ หัวหน้าโปรดิวเซอร์ เป็นคนที่ผมรู้จักมาเป็นเวลายาวนาน”

จากนั้น ฮีชอล ได้จับเจ้า ก๊อบลิน แมวของซอลลี่ขึ้นมาวางบนตัก ต่อหน้ากล้องเพื่อแนะนำตัวต่อผู้ชม เขาบอกว่า “ถึงทุกคนที่รักและยังคิดถึงซอลลี่ [ก๊อบลิน] ยังอยู่ดีนะ ตอนที่เขามาที่บ้านนี้ครั้งแรก มันสุขภาพแย่มาก เขามีแผลขนาดใหญ่อยู่ที่หลังตรงนี้ ผมเลยพามันไปหาสัตวแพทย์ และรับการผ่าตัด”

หลังจากบอกแฟนคลับไม่ให้กังวลถึงสุขภาพของก๊อบลินแล้ว คิมฮีชอลยังเล่าถึงเรื่องของเจ้าแมว ที่ทำให้รู้ว่าเขาน่ารักกับเจ้าเหมียวมากแค่ไหน เขาเล่าว่าเขาเรียกแมวตัวนี้ว่า ‘อึก๊อบลิน’ เพราะกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของแมวพันธุ์สฟิงซ์ หลังจากนั้นเขาปล่อยก๊อบลินไป และพูดกับแฟนคลับต่อเกี่ยวกับความกังวลที่รับแมวของซอลลี่มาเลี้ยง และการรับมือหลังจากที่ทุกคนรู้เรื่องนี้แล้ว

ฮีชอลเล่าเรื่องตั้งแต่รับเจ้าเหมียวมาเลี้ยงว่า “ตอนที่ผมเอามันมาที่บ้ายครั้งแรก ผมร้องไห้ตลอดเวลาที่เห็นมัน มันยากมาก เพราะเห็นมันทีไร ผมก็เอาแต่ร้องไห้ทุกที ตอนแรกผมไม่ได้บอกเพื่อนๆหรือต้นสังกัดด้วยซ้ำ ผมร้องไห้อยู่หลายวันเลย”

เขาเล่าต่อพร้อมหัวเราะเล็กน้อย “ความตลกก็คือ เวลาผมร้องไห้ ก๊อบลินจะเดินมาหาผม แล้วก็หันก้นของมันมาทั้งจมูกผม บางทีผมอยากจะร้องไห้เพราะเรื่องนี้ก็ได้ มันเป็นแมวตลก แต่มีคนบอกว่าแมวสฟิงซ์จะเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว กลิ่นที่ก้นของมันแรงมาก คุณต้องเช็ดก้นและทำความสะอาดหูอยู่บ่อยๆ”

คิมฮีชอลทิ้งท้ายว่า “เราทุกคนต้องแข็งแรงนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็ต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง” 

 

ที่มา  https://www.soompi.com

แปลโดย http://popcornfor2.com

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X