เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 19 มี.ค. กองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส เผยแพร่คลิปเสียงที่ประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายสังหารหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติในตูนิเซีย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 21 ราย เป็นชาวต่างชาติ 20 ราย
ในคลิปเสียงออนไลน์ดังกล่าว ไอเอสสดุดีนักรบของตนเองที่ติดอาวุธหนัก ทั้งปืนกลและระเบิด พร้อมข่มขู่อีกว่า
"สิ่งที่พวกท่านเห็น มันเป็นแค่การเริ่มต้น"
เหตุก่อการร้ายที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบาร์โด กลางกรุงตูนิส เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มี.ค. นายฮาบิบ เอสซิด นายกรัฐมนตรีตูนิเซียกล่าวเปิดเผยรายชื่อมือปืน 2 รายที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม ได้แก่ นายยาสซีน ลา-อะบิดี และนายฮาเท็ม คาชเนาวี ตำรวจตรวจอยู่ว่าสังกัดกลุ่มใด แต่นายอะบิดีเป็นคนที่ตำรวจรู้จักดี แต่ไม่เคยรู้ว่าจะไปร่วมกลุ่มก่อการร้าย นอกจากนี้ ตำรวจยังสามารถจับกุมผู้มีความเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุดังกล่าวได้ 9 คน
สำหรับนักท่องเที่ยวหลายชาติที่เสียชีวิต ได้แก่ อิตาลี โคลัมเบีย ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย โปแลนด์ สเปน และรวมถึงรายล่าสุดที่พบเป็นหญิงเบลเยียม และหญิงอังกฤษ ส่วนชาวตูนิเซียเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 40 คน
เหตุยิงเกิดขึ้นขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งหมดกำลังเดินลงจากรถบัสเพื่อเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ โดยมือปืนใส่ชุดลายพรางทหาร ก่อนวิ่งตามเข้าไปยิงใส่เหยื่อที่วิ่งหนีเข้าไปในพิพิธภัณฑ์
น.ส.โนริโกะ ยูกิ อายุ 35 ปี ผู้รอดชีวิตระบุว่า ตนทรุดลงกับพื้นและใช้มือกุมศีรษะตัวเองไว้ ก่อนถูกยิงที่ใบหู มือ และลำคอ ขณะที่แม่ของตนถูกยิงที่ลำคอและเคลื่อนไหวไม่ได้ ก่อนตำรวจจะมาถึงที่เกิดเหตุและวิสามัญฯ คนร้ายเสียชีวิต
ประธานาธิบดีเอล บาจี คาลิด เอสเซบซี แห่งตูนิเซีย ประกาศว่าชาวตูนิเซียจะต่อสู้กับการก่อการร้ายอย่างไร้ความปรานีจนลมหายใจสุดท้าย ขณะที่ชาวตูนิเซียพากันออกมาเดินขบวนต่อต้านการก่อการร้ายในกรุงตูนิส และจุดเทียนไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตด้วย
นายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวประณามเหตุดังกล่าวว่า ชั่วร้าย ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงฯ (ยูเอ็นเอสซี) ระบุว่าไม่มีการก่อร้ายใดจะหยุดประชาธิปไตยในตูนิเซียได้
ขอขอบคุณที่มา ข่าวสดออนไลน์