เปิด 10 เส้นทาง จอดขวางโดนยกรถแน่ ! ย้ำนโยบายรถ 10 ปี ยังไม่ใช้
2013-10-09 08:10:29
Advertisement
คลิก!!!

 

   ตำรวจนครบาลเล็งยกเลิกมาตรการล็อกล้อรถยนต์จอดในที่ห้ามจอด หลังพบว่าทำให้การจราจรติดขัด โดยจะเปลี่ยนเป็นยกรถแทน นำร่อง 10 เส้นทาง พร้อมย้ำนโยบายรถ 10 ปี ยังไม่ใช้จริง

            วันที่ 8 ตุลาคม 2556 พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบด้านการจราจร เปิดเผยว่า เตรียมยกเลิกมาตรการล็อกล้อกรณีที่ผู้ขับขี่รถยนต์ฝ่าฝืนจอดรถในที่ห้ามจอด เนื่องจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว ทำให้การจราจรติดขัด จากการที่เจ้าของรถจะไม่จ่ายค่าปรับและเคลื่อนย้ายรถออกไปในทันที โดยวิธีใหม่ที่ใช้คือ จะลงโทษปรับไม่เกิน 500 บาท พร้อมกับเสียค่าเคลื่อนย้าย 500 บาท และค่าดูแลรถวันละ 200 บาท บังคับใช้อย่างหนักในชั่วโมงเร่งด่วนทุกพื้นที่

 
            โดยมีถนน 10 สายที่ต้องดำเนินการเร่งด่วนก่อนเปิดเทอม คือ
 
             1. ถนนลาดพร้าว
 
             2. ถนนพระราม 4
 
             3. ถนนสุขุมวิท
 
             4. ถนนรัชดาภิเษก
 
             5. ถนนพหลโยธิน
 
             6. ถนนสาทรเหนือ-ใต้
 
             7. ถนนเพชรบุรีและถนนเพชรบุรีตัดใหม่
 
             8. ถนนรามคำแหง
 
             9. ถนนราชดำเนินกลาง
 
             10. ถนนวิภาวดีรังสิตเชื่อมกับถนนเกษตร-นวมินทร์
 

            และจะมีการบังคับใช้กฎหมาย 100% ซึ่งการดำเนินการแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะแรก ตั้งแต่วันที่ 9-15 ตุลาคม 2556 เป็นขั้นเตรียมการอุปกรณ์ต่าง ๆ รถยก และป้าย เป็นต้น ระยะที่ 2 วันที่ 15-20 ตุลาคม 2556 ระยะปฏิบัติการโดยการเตือน และระยะสุดท้าย ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2556 เป็นต้นไป จะเริ่มจับจริง โดยมีบริษัทเอกชนมืออาชีพ ที่มีความรวดเร็วเป็นผู้ดำเนินการยกรถ
 
            ขณะที่นโยบายรถ 10 ปี ห้ามวิ่งใน กทม. นั้น ยังไม่ได้มีการบังคับใช้จริง และยังไม่ได้อยู่ในโครงการนำร่องเร่งด่วน แต่เป็นนโยบายที่ต้องนำมาพิจารณา โดยจะมีการเชิญผู้เกี่ยวข้องต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคขนส่ง และสื่อมวล มาร่วมพูดคุยกันเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร ซึ่งทุกโครงการที่วางไว้นั้น บช.น. ต้องการแก้ไขปัญหาจราจรให้พี่น้องประชาชนไม่ใช่สร้างปัญหา
 
 
 
 
ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X