ผู้กำกับ เจมส์ วาน กล่าวถึงตอนจบแบบดั้งเดิมของ Fast & Furious 7 ที่ถูกเปลี่ยนหลังพระเอก พอล วอล์คเกอร์ เสียชีวิตอย่างกะทันหัน

          ยังเดินหน้าทำเงินแบบไม่หยุดพักสำหรับ Furious 7 ที่แฟน ๆ ให้การตอบรับอย่างล้นหลาม ซึ่งหากใครได้ชมเป็นที่เรียบร้อยก็น่าจะทราบดีว่า ตอนจบของภาคนี้ถูกทำขึ้นเพื่อไว้อาลัยแด่ พอล วอล์คเกอร์ (Paul Walker) นักแสดงคนสำคัญที่จากไประหว่างการถ่ายทำในเดือนพฤศจิกายน 2013 แต่ทราบหรือไม่ว่าตอบจบที่เราได้เห็นกันในหนังไม่ใช่สิ่งที่ถูกวางแผนไว้ตั้งแต่แรก โดยเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2015 เว็บไซต์ Collider ได้รายงานคำให้สัมภาษณ์ของผู้กำกับ เจมส์ วาน (James Wan) ที่กล่าวถึงตอนจบแบบเดิมของ Furious 7 ซึ่งถูกเปลี่ยนก่อนที่ พอล วอล์คเกอร์ จะเสียชีวิต

          โดยผู้กำกับ เจมส์ วาน กล่าวถึงเบื้องหลังการเปลี่ยนตอบจบของ Furious 7 เพื่อไว้อาลัยแด่ พอล วอล์คเกอร์ "ตอนจบแบบเดิมของ Furious 7 ถูกกำหนดไว้อยู่แล้ว มันเป็นตอนจบที่ปูทางสู่โลกที่ใหญ่กว่าของแฟรนไชส์ Fast & Furious ซึ่งเป็นเรื่องชาญฉลาดที่พวกเขาคิดได้แบบนั้น แต่แล้วเมื่อเรื่องน่าเศร้าเกิดขึ้นทุกอย่างกลับผิดแผนไปหมด สิ่งที่วางแผนไว้ไม่มีความหมายอีกต่อไป อย่างไรก็ตามทางสตูดิโอไม่ดันทุรังที่จะใช้ตอนจบแบบนั้น พวกเขาทราบดีว่าการสร้างหนังให้จบไปพร้อม ๆ กับการให้เกียรติ พอล วอล์คเกอร์ คือสิ่งสำคัญ ดังนั้นผมให้เครดิตพวกเขาที่เลือกตอนจบแบบนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่สมควรทำอยู่แล้ว"

          และถึงแม้ผู้กำกับ เจมส์ วาน จะไม่ได้บอกว่าตอนจบดั้งเดิมที่ปูทางสู่ Fast & Furious 8 คืออะไร แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วิน ดีเซล (Vin Diesel) ออกมาบอกใบ้แล้วว่า หนังภาคนี้จะพาทุกคนไปซิ่งในเมืองนิวยอร์ก โดยได้นักแสดงท่านเดิมอย่าง เคิร์ท รัสเซล (Kurt Russell) กลับมารับบท มิสเตอร์โนบอดี้ ที่จะมีบทบาทต่อเนื้อเรื่องมากยิ่งขึ้น

          สำหรับความแรงของหนังเรื่อง Furious 7 โกยรายได้ทั้งในและนอกสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง โดยทันทีที่เข้าฉายในบ้านเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ทำรายได้เปิดตัว ทั้งสิ้น 143.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดในบรรดาหนังที่เคยเปิดตัวเดือนเมษายน นับจากนี้คงต้องลุ้นกันยาว ๆ ว่ารายได้ของภาคนี้จะหยุดที่จำนวนเท่าไร