เมื่อ 21 ก.พ. เอเอฟพีรายงานว่า กองบัญชาการต่อต้านการก่อการร้าย สังกัดตำรวจสันติบาลอังกฤษ (สกอตแลนด์ยาร์ด) แถลงกังวลว่า น.ส.คาดิซา ซัลทานา วัยราว 17 ปี น.ส.ชามินา เบกุม วัย 15 ปี ซึ่งอาจแอบอ้างชื่อเป็นน.ส.อกลีมา เบกุม วัย 17 ปี และเพื่อนนักเรียนหญิงวัยราว 15 ปีอีกคน ซึ่งครอบครัวไม่ประสงค์ให้เปิดเผยชื่อ อาจเข้าร่วมกับกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) กลุ่มก่อการร้ายมุสลิมนิกายสุหนี่สายสุดโต่ง หลังเดินทางจากสนามบินแกตวิกในกรุงลอนดอนไปยังประเทศตุรกี ซึ่งมีชายแดนติดต่อกับซีเรียและอิรัก เมื่อ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ท่ามกลางค่านิยมน่าเป็นห่วงของวัยรุ่นหัวรุนแรงที่ชักจูงให้เพื่อนร่วมอุดมการณ์เข้าสังกัดกลุ่มก่อการร้าย โดยเฉพาะกองกำลังไอเอส ซึ่งขยายอิทธิพลในหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง

พ.ต.อ.ริชาร์ด วอลตัน ผู้บังคับการกองบัญชาการต่อต้านการก่อการร้าย กล่าวว่า น.ส.ซัลทานา น.ส.เบกุม และเพื่อนอีกคน เป็นนักเรียนของโรงเรียนเบธนอล กรีน อคาเดมี ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน ซึ่งเจ้าหน้าที่มีข้อมูลที่ยืนยันได้ว่า หนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นของเด็กสาวทั้งสามคนหลบหนีออกจากบ้าน และเข้าร่วมกับกองกำลังไอเอสเมื่อเดือนธ.ค.ปีก่อน เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เด็กสาวได้รับความช่วยเหลือในการวางแผนเข้าสู่ซีเรียหรืออิรัก แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากนักรบไอเอสด้วยหรือไม่

พ.ต.อ.วอลตันระบุอีกว่า สกอตแลนด์ยาร์ดได้ประสานงานกับสื่อตุรกี รวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ ด้วยหวังว่าเด็กสาวจะได้รับข้อความเตือนสติให้กลับบ้าน กลับไปหาครอบครัวที่กำลังเป็นห่วง เนื่องจากไอเอสเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่อันตรายและน่ากลัว หากข้ามชายแดนไปแล้วการใช้ชีวิตจะกลายเป็นเรื่องยาก ไม่ได้รับอิสรภาพ ถูกปฏิเสธห้ามกลับบ้าน และอาจร้ายแรงถึงขั้นสูญเสียชีวิต ซึ่งสถาบันการเจรจาด้านยุทธศาสตร์ (ไอเอสดี) ซึ่งมีสำนักงานในกรุงลอนดอน ระบุว่าเด็กสาวและผู้หญิงจากชาติตะวันตกอย่างน้อย 550 คน เข้าร่วมกับไอเอสตั้งแต่ปีก่อน ส่วนใหญ่มีหน้าที่หลักคือ แต่งงานกับนักรบไอเอสเพื่อมีลูกและดูแลบ้าน

วันเดียวกัน เกิดเหตุวางระเบิด 3 ครั้งซ้อนในเมืองอัลโคบา ทางภาคตะวันออกของลิเบีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 ราย บาดเจ็บกว่า 70 คน โดยกองกำลังไอเอสในลิเบียประกาศว่า เป็นผู้ก่อการดังกล่าว เพราะต้องการสังหารนายพลคาลิฟา ฮาฟตาร์ เพื่อแก้แค้นให้ชาวมุสลิมในเมืองเดอร์นา