หนุ่มวัย 16 สุดทน ถูกพ่อเลี้ยงตี โพสต์รูปประจานลงเฟซบุ๊ก
2013-09-18 07:52:21
Advertisement
คลิก!!!

 

 หนุ่มวัย 16 ปี จ.ระยอง สุดทน ถูกพ่อเลี้ยงเฆี่ยนตี โพสต์รูปประจานลงเฟซบุ๊กจนเรื่องราวใหญ่โต ด้านหน่วยงานจังหวัดขอตรวจร่างกาย ขณะที่โรงเรียนเผย เด็กมีพัฒนาการช้ากว่าคนอื่น เชื่อพ่อแม่แค่ต้องการอบรมสั่งสอน

          วันที่ 17 กันยายน 2556 เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง พร้อมด้วยนักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยอง ได้เข้าตรวจสอบร่างกายนายแม็ก (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง หลังจากที่ได้โพสต์รูปภาพบาดแผลจากการถูกเฆี่ยนตีจนเป็นปื้นแดงเผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก

          โดย นายแม็ก เล่าว่า เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ตนได้เล่นฟุตบอลแล้วลืมแว่นสายตาไว้ที่สนามฟุตบอลของโรงเรียน เมื่อกลับถึงบ้านถูกนายพล (นามสมมติ) พ่อเลี้ยงซึ่งเป็นวิศวกรโรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งในมาบตาพุด ใช้ไม้เรียวกระหน่ำเฆี่ยนตีจนไม้หัก เนื่องจากตนลืมแว่นสายตาและทำหาย จากนั้นได้นำบาดแผลมาโชว์ให้เพื่อนที่ห้องดู เพื่อนจึงได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพบาดแผลไว้ พร้อมกับนำภาพและรูปพ่อเลี้ยงไปลงเฟซบุ๊กเพื่อประจานพฤติกรรม

          ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ตนเคยถูกเฆี่ยนตีบ่อยครั้ง ทั้งเรื่องลืมสิ่งของต่าง ๆ รวมถึงผลการเรียนที่ติด ร ด้วย แต่ไม่กล้านำเรื่องนี้ไปปรึกษาครูประจำชั้น ส่วนแม่เป็นครูสอนเด็กนักเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในตัวเมืองระยองก็เคยเฆี่ยนตีเช่นกัน แต่ในครั้งนี้ถูกพ่อเลี้ยงเฆี่ยนตีหนักจนรับสภาพไม่ได้ และไม่รู้จะปรึกษาใครจึงได้นำภาพมาลงเฟซบุ๊กไว้เท่านั้น ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่

          ทางด้าน นายสรวิชญ์ ทองคำ หัวหน้างานฝ่ายกิจการปกครองของโรงเรียน กล่าวว่า น้องแม็ก ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.4 มีการพัฒนาทางด้านสมองช้ากว่าเพื่อนคนอื่น และขี้หลงขี้ลืมอยู่เป็นประจำ ทางโรงเรียนเข้าใจในพฤติกรรมของน้องแม็กมาโดยตลอด แต่ที่ผู้ปกครองเฆี่ยนตีคาดว่าเป็นการอบรมสั่งสอนเด็กธรรมดา เพื่อให้เด็กมีความแข็งแกร่งและจดจำในเรื่องที่ทำผิดพลาดไป ทั้งนี้ ทางโรงเรียนจะกวดขันและอบรมเด็กนักเรียนในเรื่องของโซเซียลเน็ตเวิร์กซึ่งอาจทำให้ทางโรงเรียนเสียชื่อเสียงได้

          ขณะที่ทางด้าน น.ส.สาทิพย์ ภูธนะกุล นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยอง ระบุว่า ตนจะเข้าสอบถามผู้ปกครองของเด็กถึงสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง เพราะต้องคุยกันหลายฝ่ายเพื่อไม่อยากให้เด็กนั้นถูกทอดทิ้งหรือถูกผู้ปกครองกระทำรุนแรงต่อเด็กอีก ซึ่งทราบว่าเด็กนั้นมีการพัฒนาทางด้านความคิดช้ากว่าเพื่อนคนอื่น อาจจะทำให้เด็กเกิดอาการคิดมากหรืออาจทำอะไรโดยไม่รู้เท่าทัน อยากให้สังคมเข้าใจในเรื่องปัญหาครอบครัวและผลที่จะตอบรับสู่ตัวน้องเองด้วย

 

 
 
 
 
ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X