ประชาธิปัตย์ เปิดตัวโครงการสร้างอนาคตไทยเข้มแข็ง 2020 ฟุ้ง ใช้งบ 2 ล้านล้านคุ้มกว่ารัฐบาล ตรวจสอบได้ ยินดีให้รัฐปรับใช้หากศาลชี้ พ.ร.บ.กู้เงินขัดรัฐธรรมนูญ
     
          เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ร่วมกับแกนนำพรรค ปชป. แถลงข่าวเปิดตัว "โครงการสร้างอนาคตไทยเข้มแข็ง 2020" ที่สโมสรราชพฤกษ์ เทียบเคียงการใช้เงินในโครงการการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศวงเงิน 2 ล้านล้านบาท ของรัฐบาล เพื่อชี้ให้เห็นถึงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องการให้รัฐบาลนำงบประมาณดังกล่าวมาสร้างอนาคตที่ดีให้กับประชาชนชาวไทย 

          โดย นายอภิสิทธิ์ ได้เสนอให้รัฐบาลวางแนวทางในการจัดสรรงบประมาณเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท มาดำเนินการตามโครงการสร้างอนาคตไทยเข้มแข็ง 2020 ดังนี้

1. โครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคม ประกอบด้วย

         รถไฟความเร็วสูง 36,722 ล้านบาท
         รถไฟทางคู่ 397,377 ล้านบาท
         รถไฟทางคู่สายใหม่ 110,555 ล้านบาท
         รถไฟฟ้า 410,996 ล้านบาท
         ปรับปรุงระบบรถไฟ 20,912 ล้านบาท
         ถนนทั้งระบบ และสถานีขนส่ง 198,422 ล้านบาท
         ท่าเรือ 26,622 ล้านบาท รวม 1.2 ล้านล้านบาท

2. ด้านการศึกษา ประกอบด้วย

         โรงเรียนวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิจัย 150,000 ล้านบาท
         อาชีวะสร้างชาติ 50,000 ล้านบาท
         ครูพันธุ์ใหม่ พัฒนาคุณภาพครู และ Excellent Centre 110,000 ล้านบาท
         ปรับปรุงอุปกรณ์ และสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 90,000 ล้านบาท 
         รวม 400,000 ล้านบาท

3. ด้านสาธารณสุข ประกอบด้วย

         พัฒนาโรงพยาบาล 12,000 แห่งทั่วประเทศ 100,000 ล้านบาท
         พัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ และสถานศึกษาด้านสาธารณสุข 100,000 ล้านบาท
         รวม 200,000 ล้านบาท

4. พัฒนาระบบนํ้าเพื่อการเกษตร ด้วยการลงทุนพัฒนาการชลประทานสำหรับพื้นที่เกษตร 75 ล้านไร่ทั่วประเทศ 200,000 ล้านบาท ด้านการชลประทานเพื่อการเกษตร  

          ทั้งนี้ เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า แผนการกู้เงินของรัฐบาลมีปัญหาหลักอยู่ 4 ข้อ คือ

         1. เป็นการกู้เงินที่ขาดวินัย ขาดการตรวจสอบ และขาดความโปร่งใส 
         2. การกู้รัฐบาลอ้างว่า "เพื่ออนาคตไทย 2020" แต่ตอบโจทย์ความต้องการด้านเดียวคือ ด้านคมนาคม
         3. รายละเอียดต่าง ๆ ที่ รัฐบาลจะดำเนินโครงการขาดความพร้อม ไม่มีความชัดเจน
         4. การประเมินความคุ้มค่าโครงการที่นำไปใช้ในการตัดสินใจของรัฐบาลมีปัญหามาก และมีการเปลี่ยนแปลงตลอด

          จึงเชื่อว่าการดำเนินการตามโครงการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้นำเสนอมาจะครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานทุกด้านมากกว่าแนวทางของรัฐบาล และจะส่งผลทางบวกต่อประเทศชาติมากที่สุด ดังนี้  

         1. รักษาเสถียรภาพทางการคลังได้ดีกว่า
         2. โปร่งใสและสามารถลดทุจริตคอร์รัปชั่นได้มากกว่า
         3. ตอบโจทย์ความต้องการในการพัฒนาประเทศได้ดีกว่า
         4. เป็นการใช้เงินแผ่นดินที่มีความยุติธรรมและเป็นประโยชน์ต่อคนไทยทุกคน ทุกชนชั้นมากกว่า

          ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ระบุด้วยว่า ยินดีให้รัฐบาลนำโครงการไทยเข้มแข็งของพรรคประชาธิปัตย์ไปปรับใช้ หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อรัฐธรรมนูญ พร้อมยืนยันว่า โครงการไทยเข้มแข็ง ที่นำเสนอในวันนี้เป็นโครงการที่พรรคดำเนินการมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่เพิ่งริเริ่มเพื่อแข่งกับรัฐบาลเท่านั้น
 

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม