กลายเป็นข่าวฮือฮาเมื่อช่วงเช้าวันนี้เมื่อพระเอกช่อง 3 เกรท วรินทร วิ่งโร่เข้าแจ้งความหลังถูกคนว่าจ้างงานโกงเงิน จ่ายเป็นเช็คแต่พอเอาไปขึ้นธนาคารกลับเงินไม่พอจ่ายกลายเป็นเชคเด้งไปซะงั้น พร้อมพยายามติดต่อผู้ว่าจ้างงาน แต่ติดต่อไม่ได้จึงได้เกิดการแจ้งความเอาผิดกันขึ้น เพราะเงินที่ว่าจ้างนั้นยังเหลืออีก 1 แสนบาท ซึ่งค่าตัวทั้งหมดตกลงกันไว้ที่ 150,000 ซึ่งเงินจำนวน 50000 บาทนั้นถูกจ่ายไปก่อนหน้า ล่าสุดคู่กรณีของหนุ่ม เกรท วรินทร ซึ่งก็คือ คุณ ญา โมเดลลิ่ง หรือที่รูู้จักกันในแวดวงว่า ญาญ่า  ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรกกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่า

 

“เราไม่ได้มีเจตนาจะโกงเงินใครไปเลยนะเพราะถ้าโกงก็คงหนีเชิ่ดไปแล้ว และทางเราเองก็ได้จ่ายคุณเกรทไปแล้ว 50000 และอีกที่เหลือ 1 แสนจ่ายเป็นเช็ค แต่หลังจากนั้นวันนั้นเราต้องบินไปต่างประเทศ นี่พึ่งกลับมาจากสิงค์โปร์ เลยลืมนึกไปว่ามีเงินในบัญชีไม่พอ ตั้งแต่ทำงานในวงการนี้ ครั้งนี้ถือว่าเราลืมเช็คจริงๆว่ายอดเงินในบัญชีไม่พอ พูดง่ายๆคือลืมเอาเงินเข้าบัญชีนั้นที่จ่ายเงิน จริงๆมีอีกบัญชีหนึ่งที่มียอดเงินพอ เราอาจจะเผลอเรอสั่งจ่ายเช็คผิดเล่มเพราะวันนั้นก็ยุ่งมาก”

 

เห็นบอกว่าทางคุณ เกรท และผู้จัดการส่วนตัวของเขาพยายามติดต่อเราแต่ไม่รับสาย ไลน์ไม่อ่าน แบบนี้เขาอาจคิดได้ว่าเราส่อแววพิรุธน่าสงสัยนะจ้ะ

 

“คนเรามีสิทธิ์คิดได้ ไม่ว่ากันแต่อยากให้สังคมรู้ว่าเราไม่เคยโกงใคร ญา เองช่วงนี้บินต่างประเทศบ่อยมาก พึ่งกลับมาจากสวิตเซอร์แลนด์กลับมาก็ต้องไปต่างประเทศต่อ เลยอาจจะหลงลืมนั่นนี่ แต่บอกว่าสาบานเลยว่าเราไม่กล้าโกง เราก็รู้ว่าเกรท ดังแค่ไหนแฟนคลับเป็นล้านในไอจี แต่เราผิดพลาดที่ลืมเช็คเรื่องตังค์ไม่พอในบัญชี และอีกอย่างอยู่ต่างประเทศเราไม่ได้เปิดโรมมิ่งด้วยเลยติดต่อยาก เพราะอาทิตย์โน่นเราก็พึ่งบินไปสวิตเซอร์แลนด์ พา ออฟ ปองศักดิ์ และ ลาล่า ลูลุ่ ไปร่วมงานอันนี้ยืนยันได้ มีข่าวออกมาแบบนี้เราเสียหายเยอะมาก เราคงไม่เอาชื่อเสียงที่เราทำงานในวงการนี้มาแลกกับเงินแค่แสนเดียวหรอกนะ พูดเลย เราติดต่อศิลปินไปร่วมงานไปร้องเพลงที่ต่างประเทศได้เยอะกว่านี้มาก ซึ่งอย่างที่บอกงานตรงนี้มันอาศัยเครดิตสูงมาก แล้วพอมีข่าวแบบนี้เราแบบโดนคนด่าว่า อีตุ๊ดอ้วนขี้โกง เฮ้ย! เกิดมาไม่เคยได้เจอ (น้ำตาเริ่มไหล) คนเรามันผิดพลาดกันได้นะ”

 

เคลียร์เรื่องเงินกันไปแล้วใช่ไหม ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว “เราจ่ายเขาไปหมดแล้ว คือพอทราบเรื่องก็รีบโอนสดไปให้เลย คือพึ่งกลับมาถึงเมืองไทยเมื่อเช้านี่ไง แล้วก็พักผ่อนหลับจนกระทั่งช่วงใกล้ๆเที่ยงทราบข่าวเราตกใจมาก ตอนแรกนึกว่าเขาเอาเช็คไปขึ้นแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว พอเราเห็นข่าว เอ้า! ต่ายห่า เลยไปเช็คเงินในบัญชี มันไม่พอเราเลยรีบโอนไปให้เลย แล้วโทษหาผู้จัดการเขา แต่เขาไม่รับสายตอนแรก จนกระทั่งได้คุยกับเขาก็ต่อว่าเราใหญ่เลยว่า อย่างนั้นอย่างนี้ เราก็บอกขอโทษเขาไปว่าเราบินไปสิงค์โปรมา พึ่งกลับมาถึงเมื่อเช้า เขาก็บอกไม่เชื่อ”

 

สรุปคือตอนนี้จบกันด้วยดีแล้ว ใช่ไหมคะ “ใช่ พรุ่งนี้เห็นทางเกรท จะถอนแจ้งความแล้ว ถามว่าตอนนี้สิ่งที่เอาคืนมาไม่ได้คือชื่อเสียงในวงการเราแบบเสียหาย เลยอยากให้เห็นใจและให้สังคมอย่าพึ่งตัดสิน มันคือความผิดพลาด ใครละไม่เคยทำผิด ถามว่าเราเสียใจและฝากขอโทษและจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก เพราะชื่อเสียงเราเสียแล้วเสียเลยเอาคืนไม่ได้ ใครละจะมาเชื่อเราอีก ”

 

แล้วทำไมวันนั้นไม่เช็คให้มันดีซะก่อนค่ะ จะได้มาเป็นปัญหาแบบนี้ตามมา “อย่างที่อธิบายในฝ่ายของเรา วันนั้นงานจัดที่ดิโอลด์สยาม เราติดต่อ เกรท มางานร้องเพลง 2 เพลงงานแป๊ปเดียว ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ค่าตัว แสนห้ารวมแวท นิดหน่อย แต่อาจจะเพราะยุ่งกันเลยไม่ได้เช็คให้ดี ตรงนี้ขอน้อมรับความผิดไว้คนเดียว ส่วนเรื่องโกง เราไม่มีเจตนาโกงใคร เพราะถ้าโกงนะ เราคงอยู่ในวงการนี้นานแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ เราว่าจ้างดาราศิลปินก็เยอะก็ไม่เคยมีปัญหา และดาราหลายคนก็เชื่อใจเราเพราะเราหางานให้ทีได้เป็นแสนๆกันเยอะ ซึ่งถ้าเราโกงจริงป่านนี้เราโดนแตะออกจากวงการไปนานแล้ว แต่ที่อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะความเชื่อใจกันไงค่ะ จนมาเกิดเรื่องเกรท นี่แหละที่จะเป็นบทเรียนราคาแพงให้กับเรา”