ภายหลังจากที่กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังการแฮกข้อมูล โซนี่ พิคเจอร์ส ประกาศพร้อมก่อการร้ายในโรงภาพยนตร์ที่ฉายหนังตลกเรื่อง The Interview รวมถึงในการฉายรอบปฐมทัศน์ ในที่สุดทางโซนี่ตัดสินใจยกเลิกการฉายรอบปฐมทัศน์ที่นครนิวยอร์ก ในวันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พร้อมกับเลื่อนกำหนดลงโรงฉายในวันคริสต์มาสนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด

 

        กลุ่มแฮกเกอร์ที่เรียกตัวเองว่า ''ผู้พิทักษ์สันติภาพ'' โพสต์ข้อความในโลกออนไลน์ข่มขู่จะก่อการร้ายตามโรงภาพยนตร์ที่มีการฉายหนังตลกของ เซธ โรเกน ผู้กำกับฯ-นักแสดงชื่อดัง ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับแผนการลอบสังหาร คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ถึงขั้นประกาศว่าจะทำให้ผู้คนหวนนึกถึงเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001

 

         นอกจากโซนี่จะตัดสินใจยกเลิกงานฉายรอบปฐมทัศน์ในวันพฤหัสบดีแล้ว ยังเลื่อนกำหนดฉายในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ออกไปอีก หลังจากเคยเลื่อนมารอบหนึ่งจากวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยการตัดสินใจนี้สืบเนื่องมาจากที่บรรดาบริษัทโรงภาพยนตร์รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาเลือกจะถอดโปรแกรมหนังเรื่อง The Interview ออกจากตารางการฉายเพื่อความสบายใจของพนักงานและลูกค้าที่จะมาใช้บริการ

 

         โซนี่ออกแถลงการณ์ว่า ''เนื่องจากการตัดสินใจของโรงภาพยนตร์ส่วนใหญ่ที่จะไม่ฉายหนังเรื่อง The Interview ทางเราจึงตัดสินใจไม่เดินหน้าแผนการปล่อยหนังฉายในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ เราเคารพและเข้าใจการตัดสินใจของพันธมิตรของเรา และแน่นอนว่าเราร่วมแบ่งปันความกังวลของพวกเขาเรื่องความปลอดภัยของพนักงานและผู้ชมภาพยนตร์''

 

         ทางด้าน บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กระตุ้นประชาชนชาวอเมริกันให้ไปชมภาพยนตร์ได้ตามปกติ และพยายามยืนยันว่าคำข่มขู่ก่อการร้ายไม่ได้มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ โดยกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอบีซี เมื่อวันพุธที่ 17 ธันวาคมว่า ''การโจมตีโลกไซเบอร์เป็นเรื่องรุนแรงมาก เราสืบสวนอยู่ เรารับมืออย่างจริงจัง เราจะตื่นตัวถ้าเราเห็นบางอย่างที่เราคิดว่าจริงจังและเชื่อถือได้ จากนั้นเราจะแจ้งเตือนประชาชน แต่สำหรับตอนนี้ผมจะแนะนำให้ประชาชนออกไปชมภาพยนตร์''