K-Pop ผลิตศิลปินชื่อดังออกมามากมาย แต่มีแค่บางคนเท่านั้นที่ได้อยู่จนเป็นระดับตำนาน

นี่คือรายชื่อของ 10 ศิลปินที่เคยโด่งดังแต่ตอนนี้เริ่มห่างหายไปจากวงการแล้ว คำชี้แจงคือในรายชื่อนี้จะพูดถึงวง K-Pop หรือนักร้องเดี่ยวที่เคยมีเพลงฮิตมากมายและทำลายมาตรฐานใหม่ๆ ของ K-Pop แต่เริ่มห่างหายไปในปี 2020 บางวงก็เจอกับข่าวปัญหาความขัดแย้ง, บางวงก็ยุบวงไปเร็วกว่าที่คิด และบางวงก็หายไปตามกาลเวลา

แต่พวกเขาก็จะมียังอยู่ในหัวใจของพวกเราเสมอ

10. T-ara (ปี 2009-2017) (พักงาน)

T-ara เกิร์ลกรุ๊ปสมาชิก 6 คนเดบิวต์ในปี 2009 ด้วยเพลง Lie แต่เพลงที่พวกเธอเริ่มประสบความสำเร็จคือเพลง Bo Peep Bo Peep ซึ่งได้อันดับ 4 ในชาร์ท GAON และนับจากนั้นเป็นต้นมา วงก็เริ่มเติบโตขึ้นด้วยเพลงฮิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Roly Poly และ Cry Cry ที่ได้รับความสนใจจากแฟนต่างประเทศของมากมาย

T-ara ได้ไปให้สัมภาษณ์ในนิตยสารอเมริกาและนักวิจารณ์เพลงชั้นนำและแม้กระทั่ง Billboard ก็บอกว่าพวกเธอสามารถประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติได้ อย่างไรก็ตาม เส้นทางของพวกเธอเริ่มพังทลายลงในปี 2012 ตอนที่เริ่มมีข่าวลือว่าฮวายอง (Hwayoung) สมาชิกในวง (เข้าร่วมวงในปี 2010) ถูกกลั่นแกล้งจากเมมเบอร์คนอื่นๆ หลังกล้องหลังจากเธอไม่เข้าร่วมคอนเสิร์ตเนื่องจากอาการบาดเจ็บ เรื่องนี้ทำให้แฟนๆ โกรธและไม่พอใจ โดยเฉาะเมื่อต้นสังกัดเริ่มไม่ให้เมมเบอร์ออกมาพูดอะไรและยกเลิกการโปรโมทต่างๆ เพื่อให้เรื่องเงียบลง วงเริ่มโปรโมทอีกครั้งหลังจากเรื่องนี้และการออกจากวงของฮวายอง แต่หลายๆ คนก็ไม่สนใจวงแม้จะมีเพลงที่ได้อันดับ 1 ในปีต่อๆ มาก็ตาม วงไม่ชนะในรายการเพลงใดๆ และหากเรื่องนี้แย่พอแล้ว ก็ยังมีการเปิดเผยในปี 2017 อีกว่าความจริงแล้วฮวายองเป็นคนจัดฉากเรื่องการกลั่นแกล้งและเป็นคนที่ส่งคำขู่ให้เมมเบอร์ในวงในช่วงนั้นว่าจะ “เอาเล็บข่วน” ใบหน้าพวกเธอจน “ไปออกทีวีไม่ได้เลย” แน่นอนว่าฮวายองไม่ได้ลอยนวลจากเรื่องนี้แต่ความเสียหายของวงก็เกิดขึ้นไปแล้ว ในปีเดียวกัน วงก็ได้แยกตัวออกจากต้นสังกัด MBK และระบุว่าอยู่ในช่วงพักงาน โชคดีที่คัมแบคสุดท้ายของพวกเธอ "What's My Name" ชนะในรายการเพลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีปัญหาข้อขัดแย้งดังกล่าว

9. Deux (1993-1995) (ยุบวง)

หลายๆ คนคงจะพูดว่า Bigbang เป็นวงที่นำพาฮิปฮอปมาสู่เกาหลี บางส่วนอาจจะบอกว่าเป็น Epik High หรือ 1TYM อย่างไรก็ตาม วงที่เริ่มทำเพลงแนวฮิปฮอปนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นเลยนอกจาก Deux พวกเขาสร้างวงขึ้นภายใต้บริษัท Banana Culture คิมซองแจ (Kim Sungjae) และอีฮยอนโด (Lee Hyun Do) ปล่อยเพลงออกมา 5 อัลบั้มในระยะเวลาสั้นๆ ของการเป็นนักร้อง ซึ่งเป็นช่วงที่หลายๆ เพลงมีความสำคัญในการช่วยทำให้วงการฮิปฮอปใน K-Pop เป็นรูปเป็นร่างรวมถึงเพลงฮิตอันดับ 1 ของพวกเขา Turn Around and Look at Me ด้วย วงยุบลงในปี 1995 โดยบอกว่าพวกเขาวางแผนที่จะทดลองทำงานเดี่ยวและจะกลับมารวมตัวกันในปีหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม แผนนั้นก็สิ้นสุดลงไปตลอดกาลเมื่อคิมซองแจถูกพบว่าเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 1 วันหลังจากเขาเดบิวต์ผลงานโซโล่เท่านั้น โดยมีการระบุสาเหตุการตายเพียงว่าหากไม่ใช่การฆ่าตัวตายก็เป็นการฆาตกรรม ส่วนฮยอนโดทำงานต่อไปในวงการเพลงด้วยตำแหน่งโปรดิวเซอร์ และในปีที่ครบรอบการตาย 20 ปีของซองแจ เขาก็สร้างวง 1PUNCH ดูโอ้ฮิปฮอปขึ้นมาเพื่อสืบทอด Deux อย่างไรก็ตามโปรเจ็คต์นั้นก็สิ้นสุดลงหลังผ่านไป 8 เดือนเท่านั้น หลังจากสมาชิกชื่อวันตัดสินใจออกจากวงเพื่อไปเข้าร่วมค่าย YG ถ้าหากพูดถึงศิลปินที่มีอิทธิพลกับวงการฮิปฮอปแล้ว Deux จะถูกพูดถึงว่าเป็นแรงบันดาลใจอย่างสูงแน่นอน จากที่ BTS แสดงเพลงโซโล่เดบิวต์ของคิมซองแจ "As I Told You" เมื่อหลายปีก่อน ดูเหมือนว่าศิลปินทั้งหลายจะให้คุณค่าผู้ริเริ่มเพลงฮิปฮอปในวงการมากกว่าที่เห็น

8. CSJH The Grace (2005-2010) (พักงาน?)

เมื่อคุณนึกถึงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของ SM แน่นอนว่าชื่อที่คุณนึกถึงจะต้องมี S.E.S, SNSD, f(x) และ Red Velvet โอกาสที่ทุกคนจะนึกถึงวงหนึ่งที่มีสมาชิก 4 คนกับ 1 เพลงฮิตนั้นน้อยลงไปแล้วในทุกวันนี้ พวกเธอเดบิวต์ด้วยสมาชิก 4 คน ได้แก่ ดาน่า (Dana), ลีน่า (Lina), ซันเดย์ (Sunday) และสเตฟานี่ (Stephanie) พวกเธอปล่อยอัลบั้มที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีในเกาหลี เพลง "One More Time, Ok?" ของพวกเธอร่วมกับเพลง Acapella ที่ SM ไม่เคยใช้มาก่อนเข้ากับพวกเธอเป็นอย่างดีและเป็นจุดแข็งให้กับ SM ในการผลักดันเรื่องดนตรีที่หลากหลายอีกด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อ SNSD เดบิวต์ในปี 2007 The Grace ก็ถูกส่งไปโปรโมทที่ญี่ปุ่นเป็นเวลา 4 ปี แต่เพลงของพวกเธอไม่ได้เป็นที่โปรดปรานของฐานแฟนคลับ SM ในญี่ปุ่นนัก หลังจากสเตฟานี่ได้รับบาดเจ็บที่หลังของเธอในการแสดง SM ก็ประกาศในปี 2010 ว่าวงจะพักงานจนกว่าเธอจะหายดี แต่ 10 ปีต่อมาวงก็ยังไม่ได้กลับมามีผลงานใด แม้ประทั่งจะหลังจากสเตฟานี่ออกจาก SM ในปี 2016 ก็ตาม และจากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ SM ก็เคยออกมาพูดในล่าสุดในปี 2018 ว่า The Grace ยังไม่ล้มเลิกและยุบวง

7. Se7en (2003-ปัจจุบัน) (มีผลงานต่อเนื่อง)

ทุกคนรัก YG กับศิลปินโซโล่ของพวกเขา เช่นจีดราก้อน (G-Dragon), บ๊อบบี้ (Bobby) และ ซีแอล (CL) แต่ศิลปินโซโล่คนหนึ่งที่ทุ่มเทและอยู่กับ YG มานานก็คือ Se7en ถ้าคุณสงสัยว่าเขาอยู่ในวงไหน Se7en เป็นศิลปิน YG ไม่กี่คนเท่านั้นที่เดบิวต์มาเป็นศิลปินโซโล่ เขาโปรโมทอัลบั้มในเกาหลีและยังปล่อยอัลบั้มในญี่ปุ่นและจีนอีกด้วย ในปี 2009 Se7en ก็ได้กลายเป็นศิลปินคนแรกๆ ที่ได้เดบิวต์ในอเมริกาด้วยเพลง "Girls" Se7en ห่างหายไปจากเกาหลีในช่วงปี 2007-2009 ด้วยการโปรโมทในต่างประเทศ ซึ่งในช่วงเวลานั้น Bigbang, 2PM และศิลปินโซโล่อย่างจีดราก้อนก้อนก็กำลังเป็นดาวรุ่ง Se7en เริ่มสร้างรากฐานของเขาใหม่อีกครั้ง แม้กระทั่งการร่วมงานที่พบเห็นได้ยากกับพัคจินยอง (Park Jin Young) แห่ง JYP แต่ในปี 2013 Se7en ก็เข้ารับการปฏิบัติหน้าที่ในกรม ซึ่งในระหว่างเข้ากรม เขากับซังชู (Sangchu) แห่ง Mighty Mouth ก็ออกมาจากกรมหลังจากการทำงานเพื่อนวดพักผ่อนร่างกาย อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้ว่าสถานให้บริการการนวดสามารถแปลได้ 2 ความหมาย ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้ YG สิ้นสุดสัญญากับเขาและแฟนๆ หลายคนก็แสดงความเกลียดชังมากมายอีกด้วย ต่อมาในปี 2016 Se7en เริ่มก่อตั้งบริษัทของเขาเอง ELEVEN9 Entertainment และปล่อยรายการใหม่ออกมาชื่อ "I Am Se7en" อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาตอบรับ MV ของเขาจาก PewDiePie ก็ยังไม่เพียงพอในการสร้างกระแสการกลับมาของเขา และอัลบั้มของเขาถึงแม้จะมีเพลงดีๆ มากมายก็ได้ชื่อว่าเป็น “หนึ่งในอัลบั้มยอดแย่ของเกาหลี” ซึ่งเพลงที่ปล่อยออกมาล่าสุดของเขาคือในปี 2019

6. JYJ (2009-2014) (พักงาน?)

แจจุง (Jaejoong), ยูชอน (Yoochun), และจุนซู (Junsu) แยกตัวออกมาจากสมาชิกอีก 2 คนในวง TVXQ และออกจากสังกัด SM Entertainment ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิท พวกเขาจึงได้ร่วมงานกับบริษัท C-JeS Entertainment และได้เดบิวต์ในฐานะ JYJ อัลบั้มเดบิวต์ของพวกเขาถูกปล่อยออกมาในอเมริกาและมีการร่วมงานกับ Kanye West หลังจากนั้นพวกเขาก็เดบิวต์ในเกาหลีด้วยอัลบั้ม In Heaven ซึ่ง JYJ มีเพลง 3 อัลบั้มเต็มเท่านั้น ได้แก่ The Beginning ในปี 2010, In Heaven ในปี 2011และ Just Us ในปี 2014 อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่พวกเขากังวล ในบทสัมภาษณ์ สมาชิกในวงบอกว่าถึงแม้การร่วมงานของพวกเขาจะยอดเยี่ยม พวกเขาก็พบว่าพวกเขาชอบทำงานเดี่ยวกันมากกว่าและมองว่า JYJ เป็นการร่วมงานกันแบบนานๆ ครั้ง ต่อมายูชอนก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับข่าวอื้อฉาวในปี 2018 และข่าวเรื่องยาเสพติดในปี 2019 และความเกี่ยวข้องของอดีตคู่หมั้นของเขากับคดี Burning Sun ทำให้เขาถอนตัวออกจากวงการบันเทิง เหลือเพียงแจจุงและจุนซูเท่านั้น

5. Coed School (2010-2013) (ยุบวง)

วงที่มีทั้งหญิงและชายวงนี้ได้รับความสนใจมากมาย เป็นเรื่องยากที่คุณจะได้เห็นวงที่มีทั้งชายและหญิงอยู่ในวงเดียวกัน โดยเฉพาะวงอย่าง KARD ที่ได้รับความสนใจจากผู้ฟังมากมาย แต่ในปี 2010 MBK Entertainment กระประสบความสำเร็จกับวง Coed School ที่ประกอบไปด้วยสมาชิก 10 คนโดยมีผู้ชาย 6 คนและผู้หญิง 4 คน ผลงานเดบิวต์ของเพลงเขาประกอบไปด้วย 3 เพลงซึ่งมีความแตกต่างกันมากมาย ได้แก่เพลง Too Late, Bbiribbom Bberibbom และ I Love You A Thousand Times ซึ่งเป็น 3 ประเภทเพลงหลักที่รวมตัวกันอยู่ในผลงานเดียว MBK ประกาศในปี 2011 ว่าวงจะมี 2 ยูนิตย่อยด้วยกันคือวงหญิงล้วน F-ve Dolls และวงชายล้วน Speed แต่ทุกอย่างก็เริ่มแย่ลงเมื่อมีสมาชิกออกจากวงและถูกเปลี่ยนตัวออกไป เกือบครึ่งหนึ่งของสมาชิกวง Coed School ถูกเปลี่ยนไปเป็นจำนวนมากในขณะที่อยู่ในยูนิตย่อยเหล่านั้น ในปี 2013 บริษัทก็ได้ประกาศว่าวงจะมีการแยกกันเป็นวง F-ve Dolls และ Speed โดยบอกว่าพวกเขาเปลี่ยนแปลงมามากเกินกว่าที่จะกลับมาอยู่ด้วยกัน และในปีเดียวกัน F-ve Dolls ก็ค่อยๆ เงียบหายไป ส่วน Speed ก็ไม่มีผลงานมาตั้งแต่ปี 2016 แต่อย่างไรก็ตามวงและยูนิตย่อยก็ยังอยู่ต่อไปเนื่องจากมีสมาชิกบางคนที่ยังติดสัญญาอยู่กับบริษัท เช่น ชานมี (Chanmi) ที่ล่าสุดเพิ่งไปปรากฏตัวในรายการ Produce 101

4. Wanted (2004-2012) (พักงาน?)

2004 อาจจะเป็นปีที่โหดร้ายสำหรับ YG เลยทีเดียว ด้วยการใกล้เข้ากรมของ Jinusean และ 1TYM ในปีถัดไป YG จึงสร้างวงบอยกรุ๊ปสมาชิก 4 คนชื่อว่า Wanted และปล่อยอัลบั้ม "Like The First" ออกมาในเดือนกรกฎาคม ซึ่งอัลบั้มนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างมากมายและวงก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลศิลปินชายยอดเยี่ยมแห่งปีที่งาน Mnet Asian Music Awards อีกด้วย ต่อมาในเดือนสิงหาคม 2004 ซอแจฮโยหัวหน้าของวงที่กำลังเดินทางมาที่สตูดิโอเพื่ออัดเพลงในอัลบั้มถัดไป คนขับรถของเขาก็มีอาการเมาและชนเข้ากับรถอีกคนหนึ่ง โดยรถอีกคันหนึ่งเป็นรถของ TVXQ ในขณะที่สมาชิกของวงและคนขับรถบาดเจ็บเล็กน้อย โชคร้ายที่แจฮโยเสียชีวิต และแทนที่แฟนคลับจะเสียใจกับการจากไปของเขา พวกเขากลับโกรธที่คนขับรถไม่ระวังจนไปชนกับรถของ TVXQ และทำให้ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังทำให้สมาชิกของวง Wanted  สูญเสียรางวัลและสิ้นสุดสัญญากับ YG ในปีถัดมา Wanted ได้คัมแบคแค่ 2 ครั้งเท่านั้นในการเป็นนักร้อง ด้วย 2 อัลบั้มในปี 2007 และ 2013 แต่พวกเขาก็ได้เซ็นสัญญาเข้าเป็นนักร้องภายใต้สังกัด Warner Music Korea การคัมแบคครั้งสุดท้ายของพวกเขาได้ร่วมงานกับไอยู (IU) 

3. MBLAQ (2009-2015) (สถานะไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด)

วงอิเล็กโทรนิกป็อปและ R&B วงนี้เป็นวงที่ยากจะลืม ตลอดการเป็นนักร้องของพวกเขา วงได้รับรางวัลและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากมายสำหรับ ศิลปินหน้าใหม่, ศิลปินยอเยี่ยม และในปี 2012 พวกเขาก็ได้รับรางวัลศิลปินเกาหลียอดเยี่ยม หลังจากอีจุน (Lee Joon) และธันเดอร์ (Thunder) ออกจากวงในปี 2014 วงก็ออกอัลบั้มอีก 1 ครั้งด้วยอัลบั้ม Mirror ในปี 2015 ก่อนจะเงียบหายไปเป็นเวลานานด้วยเหตุผลที่ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด ในปี 2017 ต้นสังกัดของพวกเขา J. Tune Camp ก็ประกาศปิดบริษัทโดยไม่มีคำแลงการณ์อย่างเป็นทางการว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับวงบ้าง

2. SS501 (2005-2010; 2020?) (สถานะไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด)

ย้อนกลับไปในปี 2015 DSP Media ได้สร้างวงบอยกรุ๊ป 5 คนออกมาและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในเกาหลี พวกเขาได้รับรางวัลศิลปินยอดเยี่ยมในปี 2005 และ 2008 รวมถึงในปี 2011 และ 2012 แม้จะแยกทางกับต้นสังกัดแล้ว SS501 ทำให้ DSP โดดเด่นอยู่ในแถวหน้าร่วมกับ KARA เป็นเวลาหลายปี แต่ในเดือนกรกฎาคมปี 2010 วงก็ประกาศว่าพวกเขาจะออกจากต้นสังกัดทั้งวง ด้วยการที่ไม่สามารถหาบริษัทที่จะรับพวกเขาเข้าบริษัททั้ง 5 คนได้ วงจึงอยู่ในสถานะพักงาน ต่อมาในปี 2016 สมาชิก 3 คนจาก 5 คนก็ได้เดบิวต์ภายใต้สังกัด CI Entertainment ในชื่อ Double S 301 ซึ่งมีฐานแฟนคลับที่น้อยลงหากเปรียบเทียบกับวงที่มีสมาชิกครบใน 6 ปีก่อน ในปี 2018-2019 วงก็ได้บอกว่าพวกเขาอยู่ในช่วงปรึกษาหารือการกลับมารวมตัวกันภายใต้บริษัท แต่ก็ไม่มีข่าวทีได้รับการยืนยันใดๆ ออกมาเลย

1. RaNia (2011-2017) (ยุบวง)

RaNia ได้รับความสนใจมากมายในช่วงแรกของการเป็นนักร้องของพวกเธอ วงถูกสร้างโดยศิลปินชาวอเมริกา Teddy Riley มีเพลงเดบิวต์คือเพลง "Dr. Feel Good" ที่แต่เดิมแล้วเป็นเพลงของ Lady Gaga ที่ Riley เก็บไว้เป็นการพิเศษเพื่อใช้เดบิวต์พวกเธอ กระแสตอบรับในตอนแรกไม่ดีนักเนื่องจากท่าเต้นที่เซ็กซี่ แต่หลังจากการคัมแบคในปี 2013 วงก็เริ่มเติบโตขึ้นและมีผลงานอัลบั้มในอเมริกา พวกเธอได้ร่วมงานกับ Dogg, 2 Chainz และ MTV สำหรับซีรีส์อเมริกัน ต่อมา Riley ก็ประกาศว่าเขาจะแยกตัวออกจากการทำงานร่วมกับวงในปี 2011 บอกว่าเขาไม่เชื่อใจ DR Music และข้อตกลงที่ไม่โปร่งใส จนถึงขนาดเตรียมสัญญากับ SM Entertainment ไว้ให้กับ Rania และเกลี้ยกล่อมให้พวกเธอไปที่ที่ดีกว่าและปลอดภัยกว่ากับเขา แต่พวกเธอไม่ได้ทำตามนั้น สมาชิกในวงบางคนออกจากวง และในปี 2013 บริษัทก็ลดงบการเงินที่ใช้กับวงลงเพื่อทำวงต่อไป ในปี 2015 มี  Alexandra Reid สมาชิกชาวแอฟริกา-อเมริกามาเข้าร่วมวง และเธอก็ได้เป็นหัวหน้าวงแม้จะไม่ได้เรียนภาษาเกาหลี จากนั้นชื่อของวงก็ถูกเปลี่ยนเป็น Black Pearl Rania และผลงานเรื่องเพลงและการแสดงของพวกเธอก็ลดลงจนเหลือเป็นเพียงแขกรับเชิญเท่านั้น ในปี 2017 สมาชิกในวงทุกคนจากรายชื่อแรกและรายชื่อครั้งที่ 2 ก็ออกจากบริษัท และในปี 2018 วงก็ไม่มีการคัมแบคอีก แต่สมาชิกอีกหลายคนก็ยังถูกแนะนำอยู่ ผลงานครั้งสุดท้ายของพวกเธอ Refresh 7th ได้รับเงินจากรวมตัวคัร้งพิเศษที่มีการปล่อยออกมาใน 1 ประเทศเท่านั้น ซึ่งความเป็นไปได้ในการคัมแบคอีกครั้งของพวกเธอก็มีน้อยมากไปจนถึงไม่มีอีกเลย