เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

เคยลองถามตัวเองกันบ้างหรือเปล่า ว่าคนที่คบอยู่ตอนนี้คือคนที่ใช่สำหรับคุณแล้วเหรอ เพราะความสัมพันธ์ที่ดีนั้นควรจะประกอบไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และความเชื่อใจ ทว่าทำไมบางคู่กัดกันทุกวันแต่ก็ยังรักกันดีไม่เลิกกันสักที บางคู่รักกันปานจะกลืนกินดันคบกันไม่ยืนยาว ซึ่งแต่ละคู่ก็มีเหตุผลแตกต่างกันออกไป แล้วคุณล่ะมั่นใจหรือยังว่าคนนี้ใช่หรือไม่ใช่? หากไม่แน่ใจลองพิจารณาจากข้อสังเกตต่อไปนี้ดูสิว่ามันเกิดกับคู่ของคุณบ้างหรือเปล่า

 ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน

ทุกวันนี้หลาย ๆ คู่มีปัญหากับการไม่ค่อยมีเวลาให้กัน บางคนยุ่งกับงานกันมากจนไม่มีเวลารับโทรศัพท์หรือตอบข้อความจากแฟน และถ้าเกิดปัญหานี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ต้องเริ่มสังเกตได้แล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเธอมีอะไรเปลี่ยนไปหรือเปล่า เพราะปกติคู่รักที่เพิ่งเริ่มต้นปลูกต้นรักกันใหม่ ๆ จะติดกันเป็นตังเม โทรหาเช้า สาย บ่าย ค่ำ ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องแวบไปหา เจอกันแค่ 2 - 3 นาทีก็ชื่นใจแล้ว ทว่าหากอีกฝ่ายทำตัวเงียบหายไปในกลีบเมฆ นั่นอาจเป็นสัญญาณให้คุณต้องรีบคิดและพิจารณาได้แล้ว

 คุณสองคนทะเลาะกันบ่อยเกินไป

ปกติคู่ที่เพิ่งเริ่มต้นความสัมพันธ์กันได้ไม่นาน ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยมีเรื่องทะเลาะกัน ต่างคนต่างยอม โปรโมชั่นเพียบ โลกสดใสเป็นสีชมพูอยู่เสมอ แต่ยังไงก็ตามคนสองคนอยู่ด้วยกันก็ต้องมีปัญหากระทบกระทั่งอยู่ดีในสักวันหนึ่ง ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับพวกคุณว่าจะจัดการปัญหาเหล่านี้ให้จบสวย ๆ ได้อย่างไร แต่หากว่าทั้งคู่มีเริ่มปากเสียงบ่อย ไม่เข้าใจกันตั้งแต่เพิ่งเริ่มคบ แสดงว่าเธออาจไม่ใช่คนที่คุณรอคอยอย่างที่คิดก็ได้

 มีความหึงหวงมากเกินไป

เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ชายหรือผู้หญิงจะมีความหึงหวงกัน แต่ถ้าแฟนสาวของคุณเยอะเกินจนคอยตามดูทุกฝีก้าว ไม่ว่าคุณทำอะไร เมื่อไหร่ อยู่ไหน กับใคร หรือแม้กระทั่งห้ามออกไปเที่ยวกับเพื่อนหรือห้ามมีเพื่อนผู้หญิง แบบนี้ก็เริ่มไม่ใช่แล้วนะ เพราะหากตกลงคบกันแล้วไม่มีความไว้ใจ แล้วต่อไปจะอยู่ด้วยกันโดยปราศจากความระแวงได้ยังไง

 ไม่ค่อยออกไปไหนด้วยกันเลย

ถ้าคุณสองคนแทบไม่เคยจะออกไปเดทที่ไหนด้วยกันเลย ตื่นนอน ทำงาน เลิกงาน กลับบ้าน นอน ใช้ชีวิตอยู่ในวงโคจรนี้ ทำกิจกรรมเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ทำให้คุณทั้งคู่มีโอกาสเรียนรู้และศึกษาดูใจไม่มาก เพราะไม่ค่อยใช้เวลาอยู่ด้วยกันสักเท่าไหร่ ในกรณีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของคุณในอนาคตได้ ยิ่งคู่รักที่เพิ่งเริ่มต้นคบได้ไม่นานยิ่งต้องการเวลาในการเรียนรู้นิสัยใจคอมากเป็นพิเศษ หากปล่อยไว้นานวันเข้าคุณอาจเพิ่งรู้ตัวทีหลังว่าไลฟ์สไตล์ของคุณกับเธอไม่เหมือนกันสักนิด

 เธอยังพูดถึงแฟนเก่าอยู่เสมอ

ทุก ๆ คนย่อมมีอดีตกับความรักครั้งเก่ามาก่อนแล้วทั้งนั้น ซึ่งควรพอแล้วกับอะไรที่ผ่านมาก่อนที่จะมาเริ่มต้นคบใครใหม่ แต่ถ้าเธอยังคงพูดถึงเรื่องราวของแฟนเก่า หรือหลุดปากเอ่ยชื่อขึ้นมาระหว่างพูดคุย มันคงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ คุณควรเริ่มคิดได้แล้วว่าเธอนั้นอาจไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่กับคุณ ลองเปิดอกพูดกับเธอตรง ๆ ด้วยเหตุผล ว่าจะเอายังไงกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ เพราะคุณคงไม่อยากเป็นแค่คนคั่นเวลาในยามที่เธอเหงาหรอกจริงมั้ย? ถ้าเธอไม่มั่นใจก็หยุดความสัมพันธ์แค่ตรงนี้ แล้วเป็นแค่เพื่อนกันจะดีกว่า

 ไม่เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของอีกฝ่ายให้มากพอ

แน่นอนว่าการแบ่งปันความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ เป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับคู่รักที่กำลังเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ ดังนั้นลองถามตัวเองก่อนดูว่าทั้งคุณและเธอต่างเปิดใจ และพร้อมรับฟังกันมากพอแล้วหรือยัง ลองสมมุติว่าคนหนึ่งพยายามเข้าหาแต่อีกคนกลับถอยหลังไป จะเกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ ไม่ว่าในด้านความคิด ความรู้สึก หรือการกระทำ เพราะความรักคือการถ่ายเทความรู้สึกนึกคิดเข้าไปในตัวกันและกัน รวมทั้งทำความเข้าใจตัวตนของอีกฝ่ายด้วย ไม่ใช่ยึดความคิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นที่ตั้งในการหาคำตอบของปัญหา

 สัญชาตญาณที่บอกให้คุณระวัง

ผู้ชายเกือบทุกคนจะมีเซ้นส์ในเรื่องพวกนี้ นั่นคือสัญชาตญาณที่กำลังบอกว่าคุณกับเธอไม่อาจไปด้วยกันได้ บางคนอาจคิดว่าเรื่องพวกนี้เชื่อถือไม่ค่อยได้ เพราะมันเป็นแค่ความรู้สึกเล็ก ๆ ที่แวบขึ้นมาให้ได้ฉุกคิด แต่มันก็ส่วนช่วยให้คุณเฉลียวใจได้ว่าบางทีคุณสองคนอาจไม่ได้มาเพื่อกันและกัน ยังไงก็ลองเชื่อเซ้นส์ของตัวเองสักนิด พร้อม ๆ ไปกับใช้ความคิด เหตุผล และหัวใจ ในการปักใจรักใครสักคนด้วยนะ

หากว่าในที่สุดแล้วไม่สามารถปรับตัวเข้าหากันได้จริง ๆ ก็ควรต้องปล่อยไป อย่าไปยื้อให้เสียเวลาเลย เพราะไม่ว่ายังไงมุมมองของคุณและเธอก็ต่างกัน ยิ่งฝืนยิ่งรั้งไว้มีแต่จะทำร้ายกันเปล่า ๆ แต่หากอยู่ด้วยกันแล้วเต็มไปด้วยความสุข ความสบายใจ ก็อย่าปล่อยให้ความรักครั้งนี้หลุดลอยไปล่ะ หมั่นดูแลเอาใจใส่เธอให้ดี อย่าให้อะไร ๆ มันแย่เสียจนแก้ไขไม่ทันนะครับ