|
ผิวแทน เป็นหนึ่งในคุณสมบัติความสวยในอุดมคติตามความนิยมของเหล่าฝรั่งผิวขาวจากโลก ตะวันตก แต่สำหรับสาว ๆ ประเทศเมืองร้อนอย่างบ้านเราแล้ว ผิวสีแทนกลับไม่ค่อยเป็นที่น่าพิสมัยเท่าไร ส่วนใหญ่ใคร ๆ ก็อยากจะมีผิวนวลผ่องขาวใสกันมากกว่า
แต่ เมื่อไม่นานมานี้เราได้แอบสังเกตเห็นกระแสความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ในความนิยมเรื่องสีผิวตามเว็บบอร์ดจ๊ะจ๋าเรื่องแฟชั่นและดารา เมื่อสาว ๆ หลายคนเริ่มบ่นว่า อยากจะมีผิวแทนสวยอย่างดาราสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ บ้าง .. ก็ตอนนี้น่ะ สาวสวยใสหน้าแบ๊ว กลายเป็นสาวสวยดุดูเปรี้ยวเท่ และผิวเนียนสีแทนของเธอก็มีเสน่ห์ม๊ากมาก จนสาวน้อยสาวใหญ่หลาย ๆ คนอยากจะเปลี่ยนผิวขาวหยวกของตัวเองให้เข้มสวยขึ้นมาตะหงิด ๆ งานนี้กระปุกดอทคอมเลยขอตามกระแสด้วยการหยิบยกเรื่องราวเกี่ยวกับผิวสีแทน จาก Peptide Life มา ฝาก ตั้งแต่เรื่องพื้น ๆ อย่างประโยชน์และโทษของมัน มาย้ำกันให้ชัด ๆ อีกครั้ง รวมไปถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย พร้อมความเป็นมาของแฟชั่นผิวแทนนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ไม่ค่อยมีใครรู้ รวมทั้งเรื่อง "เมลาโนแทน" นวัตกรรมทำผิวแทนใหม่ล่าสุด ซึ่งยังคงเป็นที่ถกเถียกกันในหมู่ แทน สกิน เลิฟเวอร์ ว่าตกลงแล้วมันดีหรือไม่ดีกันแน่ มาฝากด้วยค่ะ เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย!
ผลดีที่คุณพึงได้จาการทำผิวแทน ..
การนอนอาบแดดให้แสงอุ่น ๆ จากดวงอาทิตย์ลามเลีย ในเบื้องต้นแล้วก็มีผลดีหลายประการนะ เพราะ..
การเผยผิวให้ปะทะกับแสงแดดแต่พอสมควรช่วยให้สุขภาพดี
ช่วยกระตุ้นการผลิตวิตามิน
การเผยผิวปะทะแดดอย่างพอเหมะ ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งบางชนิด
ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียม และฟอสฟอรัสได้ดีขึ้น
ลดอาการนอนไม่หลับ (insomnia)
ป้องกันอาการของโรคซึมเศร้า (Depression)
ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ช่วยควบคุมระดับน้ำหนัก
ควบคุมฮอร์โมนให้อยู่ในระดับที่สมดุลด้วย
มีผิวเข้มสวยดูเซ็กซี่มีเสน่ห์กว่าเดิม
ผลเสียและความเสี่ยงที่คุณก้าวเข้าไปแบกรับเมื่อทำผิวแทน
แม้ความดีจะมีอยู่หลายประการดังที่กล่าวไปข้างต้น แต่ผลร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ก็น่ากลัวไม่เบา เพราะนอกเหนือจากสีผิวเข้มสวย มันยังก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างกับผิว ได้แก่..
ผิวเหี่ยว เกิดริ้วรอยง่าย
กระ ฝ้า จุดด่างดำ
ผิวแก่ไวไปเลยอายุ
หนักข้อเข้าก็เป็นมะเร็งผิวหนังได้
สิ่งเหล่านี้คือทั้งข้อดีและข้อเสียของการนอนอาบแดดทำผิวแทน ที่เราคาดว่าคุณผู้หญิงหลาย ๆ คนน่าจะทราบกันมาบ้างแล้ว แต่จากนี้ไปจะเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย และความเป็นมาเป็นไปของแฟชั่นผิวแทนที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน
ความเป็นมาของการทำผิวแทนนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผิวแทนถูกจัดว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจเดียดฉันท์ โดยเฉพาะให้หมู่สุภาพสตรี หากคุณมีผิวสีแบบนี้จะถูกมองว่าแก่ชรา เป็นพวกใช้แรงงาน หรือนอนกลางดินกินกลางทราย
ในยุคโรมันโบราณ การมีผิวแทนเป็นอะไรที่เห่ยสุด ๆ สาวชาวโรมันบางนางยังใช้ชอล์กสีขาวมาทาที่หน้าตัวเองให้ขาวผ่องด้วยซ้ำ
ในปี 1903 นายจอห์น ฮาวีย์ เคลล็อก (ใช่แล้ว คนเดียวกับที่คิดค้นคอร์นเฟลคอาหารเช้าได้นั่นแหละ!) ได้นำเตียงอาบแสงออกจำหน่ายเป็นครั้งแรก แต่จุดประสงค์ก็เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางผิวหนังเท่านั้น
ส่วนการนำผิวแทนมาเชื่อมโยงกับโลกแห่งแฟชั่นเป็นครั้งแรก เกิดขึ้นในปี 1923 โดยแฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อกระฉ่อน โคโค ชาแนล หลังจากที่เธอได้ผิวคล้ำดำแดดเป็นสีแทนกลับมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ระหว่างไปล่องเรือยอชท์พักผ่อน เธอเลยสร้างกระแสแฟชั่นผิวแทนขึ้นมาซะเลย .. ช่างพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสจริง ๆ
ในช่วงปี 1920 กว่า ๆ นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันบังเอิญได้ค้นพบสาร DHA หรือ ไดไฮดรอกซีอะซีโตน (Dihydroxyacetone) ซึ่งเป็นสารย้อมเปลี่ยนสีผิวให้แทนคล้ำโดยไม่ต้องตากแดด มันได้กลายเป็นส่วนผสมสำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผิวโดยไม่ต้องอาศัยแดด ในเวลาต่อมา
ดาราภาพยนตร์และนักการเมืองหลายคน เริ่มนิยมชมชอบผิวสีแทน มีการหนีหนาวไปอาบแดดในประเทศที่มีแดดจ้า รวมทั้งมีการใช้โคมไฟยูวีเพื่อสร้างผิวแทนให้ตัวเองด้วย
รู้หรือไม่ว่าต่อมพิทูอิทารี มีการทำงานที่เชื่อมโยงกับประสาทรับแสง การสวมแว่นตากันแดดขณะนอนอาบแดดจึงลดความไวของกระบวนการตอบสนองของผิวหนัง ที่จะทำให้ผิวสีเข้มขึ้น เพราะฉะนั้น หากคุณสวมแว่นตากันแดดนอนอาบแดด อาจไม่ได้ผิวสีแทนเข้มสวยอย่างที่คิด
ในปี 1979 ฟรีดิช โวล์ฟ เป็นคนแรกที่นำเตียงอาบผิวแทนมาสู่อเมริกา
ในปี 2010 กฎหมายของอเมริกาที่เรียกกันว่า โอบามา แคร์ (Obama Care) ได้เรียกเก็บภาษี 10% จากร้านแทนนิ่ง ซาลอน หรือร้านที่ให้บริการทำผิวแทน
จวบจนปัจจุบันนี้ แพทย์ผิวหนังยังคงออกมาเตือนครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ไม่ว่าจะเป็นการทำผิวแทนด้วยการอาบแดดหรือจากการใช้เตียงอาบผิวแทน ก็ยังคงมีความอันตรายและเป็นโทษชนิดที่สะสมไว้ในผิวได้
แม้จุดเริ่มต้นของการมีผิวแทนจะมาจากการถูกเหยียด ไม่เป็นที่นิยมชมชอบ แต่สุดท้ายกระแสก็พลิกกลับกลายเป็นฮอตฮิตสุด ๆ ในปัจจุบัน การออกทริปหนีหนาวไปนอนอาบแดดเป็นกิจกรรมยอดนิยมของเศรษฐีมีสตางค์ การอาบแดดตามชายหาดในช่วงฤดูร้อนเป็นกิจกรรมยอดฮิตที่ต้องทำ ถ้าไม่มีแดดก็ต้องพึ่งแทนโลชั่นที่ขึ้นหิ้งเป็นสินค้าขายดี ถ้ามีเงินพอก็สามารถใช้บริการอบผิวให้เข้มสวยด้วยเครื่องทำผิวแทน และล่าสุดก็มีนวัตกรรมใหม่สำหรับการทำผิวแทนแบบไม่อาศัยแสงแดด นั่นคือการฉีดสารที่มีชื่อว่า "เมลาโนแทน" (melanotan) อันเป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบฮอร์โมน ที่ทำหน้าที่กระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดสี หรือ เมลาโนไซต์
ที่มาที่ไปของ "เมลาโนแทน"
เมลาโนแทน ถูกพัฒนาขึ้นโดยมหาวิทยาลัยแห่งอริโซนา ด้วยจุดประสงค์เพื่อป้องกันโรคมะเร็งผิวหนัง โดยทำให้ให้ผิวมีสีเข้มขึ้นเพื่อที่จะมีความแข็งแรงในการต้านทานรังสียูวี ได้มากขึ้น
จากการทดสอบทางการแพทย์พบว่า เมลาโนแทน II (เมลาโนแทนมีสองชนิด คือ เมลาโนแทน I และ เมลาโนแทน II) มีผลช่วยลดความอยากอาหาร แถมยังกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้ด้วย!
มันทำให้ผิวมีสีแทนได้เร็วกว่า ทั้ง ๆ ที่ผิวได้สัมผัสกับแสงแดดน้อยกว่า
ไม่ประสบปัญหาสีผิวตก ตัวส้มเพราะผิวแทนแบบเฟค ๆ เหมือนอย่างการใช้สเปรย์ฉีดผิวสีแทน
แถมสีผิวที่ได้ก็อยู่ติดผิวยาวนานกว่า
เมื่อเทียบกับการมีผิวแทนด้วยวิธีอื่น ๆ การทำเมลาโนแทนนับว่าราคาไม่แพง เมื่อผลที่ได้ก็น่าพึงพอใจกว่ากันแยะ
แต่ก่อนจะตัดสินใจหันไปเลือกวิธีฉีด เมลาโนแทน II ลองมาดูคำเตือนกันก่อนนะจ๊ะ
มันยังไม่ได้รับการรับรองใด ๆ จากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ การวิจัยต่าง ๆ ทำกันในเฉพาะหมู่แพทย์ผิวหนังเท่านั้น
เท่าที่มีข้อมูล ผลข้างเคียงที่จะได้รับจากการฉีดเมลาโนแทนก็คือ อาการพะอืดพะอมอยากอาเจียน แพทย์จึงแนะนำให้รับประทานยาแก้คลื่นเหียนวิงเวียนก่อนฉีด
การจำหน่ายเมลาโนแทน II จำกัดเฉพาะในวงงานวิจัยเท่านั้น ห้ามซื้อขายเพื่อจุดประสงค์อื่นเด็ดขาด
แต่ด้วยคุณสมบัติที่แสนจะน่าพึงใจ ชื่อของ เมลาโนแทน II จึงดังกระฉ่อนอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ตตอนนี้ (และขอย้ำอีกทีว่า มันยังคงเป็นวิธีที่ใช้เฉพาะในงานวิจัย ไม่ใช่เพื่อความสวยความงามนะจ๊ะ!)
กว่าจะสาธยายมาจบก็ยาวพอดู แต่อ่านแล้วก็ได้ความรู้ไม่เบา โดยเฉพาะเรื่องความเป็นมาเป็นไปของแฟชั่นผิวแทนก่อนที่มันจะมาฮิตเปรี้ยง ปร้างอย่างในปัจจุบัน รวมถึงวิธีการทำผิวแทนแบบใหม่ล่าสุด อย่างเมลาโนแทน ที่พามาแนะนำให้รู้จักกันพอหอมปากหอมคอ แอบเดาในใจว่าหากองค์การอาหารและยาของอเมริการับรองว่ามันปลอดภัยเมื่อไหร่ เราคงจะได้เห็นเซเลบฯ คนดัง แห่กันไปฉีดเมลาโนแทนแน่ ๆ เลยล่ะ ส่วนหากว่าสาว ๆ อยากชักจะสนใจอยากมีผิวสีแทนขึ้นมาบ้าง ก็ขอให้เลือกเผยผิวแต่พอสมควร โลชั่นบำรุงให้ชุ่มชื้นก็ขาดไม่ได้ จะได้มีผิวสีเข้มสวย ดูมีเสน่ห์เปรี้ยวเท่เซ็กซี่อย่างที่ต้องการกันนะจ๊ะ :D
ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม