อีกการพูดคุยกับผู้กำกับหนังใหม่ในวันนี้สำหรับเป็นข้อมูลในการเลือกรับชมภาพยนตร์สุดสัปดาห์นี้ ก็คือกับพี่ยศ ยศพนธ์ หาญวิวัฒนกิจ และ แบงค์ ชนพล รินลา ผู้กำกับ “หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก” ครับ ซึ่งทั้งคู่ให้เกียรติตอบคำถามผ่านทางอีเมลด้วยลูกเล่นที่อารมณ์ดีคล้ายกับที่เราเห็นจากหนังเรื่องแรกของพวกเขาครับ

ทั้งคู่ได้มาแบ่งปันให้ฟังครับว่าเริ่มต้นโครงการหนังเรื่องนี้ได้ยังไง มีที่มาและแรงบันดาลใจจากอะไรในการเขียนบทและการสร้างหนัง อย่างหนึ่งที่คุณอาจนึกไม่ถึงก็คือ แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งในการสร้างหนังมาจากการเห็น “การล่มสลายของร้านขายของชำ เพราะการมาของร้านสะดวกซื้อ” ด้วย

เรายังถามถึงการทำงาน เช่นเวลาในการพัฒนาโครงการและบทหนัง และการคัดเลือกนักแสดงที่ได้เทคโนโลยีของเอ็นเตอร์เนตมาช่วย
ทั้งคู่ยังได้พูดถึงความถูกใจในเพลง “สาวบางโพ” จนนำมาใช้เป้นเพลงประกอบหนัง และการเลือก “หน้ากากสุริยะ” ฮีโร่แบบไทยๆ ในการมาช่วยเป็นตัวละครในหนังด้วย

“หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก” เข้าฉาย 27 กุมภาพันธ์นี้ครับ คลิกอ่านบทสัมภาษณ์เต็มๆ ด้านใน

ถาม: เรื่องราวของ “หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก” พูดถึงสาวจอมป่วนจอมจิ้นกับหนุ่มร็อคอารมณ์ดี มีตัวละครแปลกๆ และเฮฮามากมาย และสาวจอมจิ้นก็จะไปแข่งเต้นเพลงเกาหลีด้วย ดูเหมือนมีเรื่องราวมากมาย แต่ประเด็นที่หนังอยากพูดถึงจริงๆ คืออะไรครับ

พี่ยศ : ความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว และ ความผูกพันระหว่างเพื่อน

แบงค์ : มิตรภาพระหว่างเพื่อน การเรียนรู้ระหว่างกัน และการมองโลกในแง่ที่ดีครับ

ถาม: แรงบันดาลใจของเรื่องราวนี้มาจากอะไรครับ ทำไมถึงมีตัวละครหมวยจิ้นขึ้นมา และทำไมถึงต้องดิ้นก้องโลก

พี่ยศ: การล่มสลายของร้านขายของชำ เพราะการมาของร้านสะดวกซื้อ

แบงค์ : ตัวแทนของวัยรุ่น ที่มีโลกจินตนาการล้ำๆครับ

ถาม: ตอนที่ผมดูตัวอย่างหนัง “หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก” ครั้งแรก ผมนึกถึง Scott Pilgrim vs the World ในแง่ที่ว่าโลกในเรื่องราวดูเหมือนต่างได้รับอิทธิพลมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นและเกมคล้ายกัน เพียงแต่ต่างก็เอามาสร้างเป็นโลกของตัวเองที่แตกต่างกันไป ไม่ทราบว่า Scott Pilgrim vs the World มีส่วนเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเรื่องราวขึ้นไหมครับ ถ้าไม่ มีหนังหรือการ์ตูนหรือเกมอะไรที่หนังอาจมีส่วนอ้างถึงบ้างไหมครับ

พี่ยศ : ไม่เคยดู Scott Pilgrim vs the World ครับ แต่ได้แรงบันดาลใจจาก เส้าหลินซ้อกเกอร์ กับเอมิลี่ อาจจะพูดได้ว่า หมวยจิ้น คือ เอมิลี่ในแบบบ้าๆบอ เพ้อๆ เว่อร์ๆ ประมาณนั้น

แบงค์ : ผมชอบหนัง Scott Pilgrim vs the World นะครับ และชอบหนังทุกเรื่องของผู้กำกับคนนี้มาก แต่หมวยจิ้นคนละแนวเลยครับ จะคล้ายๆกันคงเป็นคาแรคเตอร์แบบการ์ตูนซะมากกว่า ส่วนแรงบันดาลใจหนังเรื่องนี้ ตามที่พี่ยศพูดล่ะครับ

ถาม: หลังจากมีเรื่องที่อยากสร้างเป็นหนังแล้ว ใช้เวลาพัฒนาบทหนังนานไหมครับ แล้วนำโครงการหนังไปเสนอผู้ออกทุนสร้างยังไงบ้างกว่าจะได้สร้างเป็นหนังขึ้นมา พอจะเล่าได้ไหมครับ

พี่ยศ : พัฒนาบท 3 เดือน … แล้วทุบหม้อข้าว(หาตังค์) สร้างเองเลย (ถ้าเมืองไม่แตก หน้าเราก็จะแตกเอง)

แบงค์ : นั่นคือคำตอบครับ แต่โปรเจคของวีไอพี จะไม่ซ้ำแนวนะครับ เรื่องต่อไปฉีกอีกแนวไปอีกแบบเลย

ถาม: แม้ว่า “หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก” จะเป็นหนังตลกเบาสมองที่เป็นชนิดของหนังที่คนไทยชอบดู แต่ตัวละครและเรื่องราวของหนังก็ดูแปลกกว่าชาวบ้าน หรือไม่ค่อยเป็นที่คุ้นเคย ตอนที่คิดสร้างหนังขึ้นมา กลัวไหมครับว่าจะแปลกจนคนดูไม่เข้าใจจนไม่กล้าให้โอกาสหนัง หรือเพราะคำนึงถึงการอยากทำหนังที่อยากจะเล่าก่อนอันดับแรกมากกว่าคำนึงว่าผู้ชมน่าจะชอบอะไร

พี่ยศ : มันแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน บางคนชอบอะไรใหม่ๆ บางคนชอบแบบเดิมๆ โดยส่วนตัว อยากทำหนังที่ฉีกออกจากหนังไทยทั่วๆไป คือเป็นคนที่ไม่ชอบความซ้ำซาก จำเจ อยากทำหนังแนวใหม่ๆ การดำเนินเรื่องแปลกๆ ประเด็นคือทำหนังที่ตัวเองอยากจะดู ความสนุกคือการได้เขียนบท ได้สร้างโลกใหม่ขึ้นมาอีกโลก โลกในหนังที่ดูฟุ้งซ่าน บ้าๆบอๆ ซึ่งเราไม่สามารถพบเจอในชีวิตประจำวันทั่วไป (ออกอาการเบื่อโลก หุหุ)

แบงค์ : ตัวละครในหมวยจิ้น ไม่ได้แปลกประหลาดมากมายเลยครับ ค่อนข้างปกติและมีเหตุผลเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่เราหยิบมุมมองที่แปลกออกไปนำเสนอมากกว่า ถ้าดูหนังแล้วจะเข้าใจทันทีเลยว่า เราหยิบยกประเด็นน่ารักเล็กๆของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง มาเล่ามากกว่า กลัวมั้ยที่คนดูจะรับไม่ได้ มันคงอยู่ที่รสนิยมคนดูครับ แค่พวกเราตั้งใจอยากนำเสนอในมุมมองที่แปลกออกไปบ้างเท่านั้น

ถาม: หลังจากมีบทหนังและจะเปิดกล้องแล้ว ขั้นตอนเสาะหานักแสดงนำเป็นยังไงบ้างครับ ทำไมตัดสินใจเลือกบอส นวไพบูลย์ และแมงมุม พิมพ์นิชกุลให้มารับบทนำ และประทับใจการทำงานของทั้งคู่ยังไงบ้างครับ

พี่ยศ : ถามอากู๋ ครับ

แบงค์ : มีการแคสนักแสดงวัยรุ่นทั้งดารา และนักแสดงใหม่หลายคู่มากครับ หลายคนหล่อสวยเยอะมาก แต่ยังไม่โดนใจกัน เพราะบทของหมวย ค่อนข้างต้องแบกหนังทั้งเรื่อง จนใกล้เปิดกล้องแล้วก็ยังไม่โดนใจกัน สุดท้ายแปลกและฮาจริงๆ เพราะพี่ยศถามอากู๋ (Google)จริงๆ จึงได้รู้จักน้องแมงมุมและน้องบอส เราจึงชวนน้องมาแคสกันดู และไม่ผิดหวังครับ น้องแมงงมุมน่ารักมาก ตั้งใจสูงเหมาะรับบท “หมวย” ทุกประการ ผมประทับใจมาก น้องบอสผมชอบเค้าตั้งแต่ หนังเรื่องมึง-กูแล้ว ดูโดดเด่น คาแรคเตอร์กวนๆ เหมาะกับบทตัวละคร “เต้น” ที่ต้องกวนๆฮาๆครับ แต่มันตลกตรงที่ตอนหานักแสดงกัน พวกเราคิดกันไม่ออก

ถาม: หนังมีเรื่องราวของการเต้นรำด้วย คิดฉากเต้นรำกันยังไงครับ อยากให้ออกมาดูเป็นยังไงบ้าง

พี่ยศ : ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เน้นฉากเต้นครับ สังเกตว่า โลโก้หนัง คำว่า หมวยจิ้น จะตัวใหญ่มากกกกกก เพราะฉนั้น เราเน้นความจิ้น ของนังหมวย ดิ้นก้องโลก มันคือประเด็นรองๆ เพราะฉะนั้นหมวยและเพื่อน จึงเต้นไม่เซียน เหมือนนักแสดงหนัง STEP UP

แบงค์ : ดนตรีในหัวใจเลยครับ คิดอย่างไรแสดงออกอย่างนั้น นั่นคือความน่ารักของวัยรุ่นในเรื่องครับ แต่ยังคงมีรูปแบบและสเต็ปการเต้นของมันอยู่

ถาม: หนังใช้เพลง “สาวบางโพ” มาเรียบเรียงร้องใหม่โดยให้คุณเด๊บบี้ บาซู และมีคุณตู้ ดิเรก ต้นฉบับมาแซม ทำไมเลือกเพลงนี้มาใช้ในหนังครับ และถูกใจอะไรในฉบับที่เอาร้องใหม่ใช้ในหนังบ้าง

พี่ยศ : ชอบเพลงสาวบางโพ (เวอร์ชั่น มยุรา ฟ้าสีทอง) เป็นการส่วนตัว เพราะทุกงานบวช งานแต่ง ที่ตจว. ก็มักจะได้ชมได้ฟังเพลงนี้กันบ่อยๆ (มันส์ดี) เลยเอาบางโพ มาเป็นชื่อชุมชนซะเลย

แบงค์ : เพลงที่มาทำใหม่ผมว่าสนุกนะครับ ฟังแล้วติดหูดี ที่เลือกเพลงนี้ เพราะในเรื่องราวเป็นเรื่องของชุมชนหนึ่งที่ซื่อๆ บริสุทธิ์ ที่พูดกันตรงๆอย่างจริงใจ สอดคล้องกับตัวหนังที่เรานำเสนอครับ

ถาม: ผมค้นเจอว่า “หน้ากากสุริยะ” เป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่อยู่ในตัวอย่างหนัง ออกแบบโดยคนไทย (คุณสุริยา คงคาน้อย ) ได้ตัวละครฮีโร่ตัวนี้มาร่วมงานได้ยังไงครับ มีความประทับใจอะไรในตัวละครบ้าง และมีบทบาทยังไงในหนังที่พอจะเล่าได้บ้างครับ

พี่ยศ : มีคนแนะนำมาอีกต่อ ตอนแรกกะจะเอาไอ้มดแดง วี3 เพราะชอบเป็นการส่วนตัว แต่ติดเรื่องลิขสิทธิ์ ที่ค่อนข้างจะหยุมหยิม เลยหันมาหาแอ็คชั่นฮีโร่แบบไทยๆ ท่าจะเหมาะกว่า

แบงค์ : หน้ากากสุริยะ ฝีมือคนไทยทำ ผมประทับใจนะครับ พี่ๆเค้าตั้งใจทำมาก น่าสนับสนุน ส่วนมีบทบาทยังไงในหนัง คงต้องติดตามในตัวหนังนะครับ แต่เป็นอะไรที่แปลกแน่ๆ ไอเดียพี่ยศเค้าเลย

ถาม: มีฮีโร่สวมหน้ากากที่เป็นความประทับใจส่วนตัวบ้างไหมครับ และทำไม

พี่ยศ : มดเขียว วี3 … มีเอกลักษณ์ดี และชอบสัตว์ประหลาดในเรื่อง (ออกแบบได้น่ากลัวดี)

แบงค์ : รุ่นผมต้องมดเอ็กซ์ซุปเปอร์วันครับ เพราะผมว่า เค้ารวมทุกอย่างของรุ่นพี่วีๆทั้งหลายมาอยู่ในตัว

ถาม: หนังมีผู้กำกับถึงสองคน มีลักษณะของการทำงานร่วมกันหรือแบ่งหน้าที่กันยังไงบ้างครับ

พี่ยศ : แบงค์ (ชนพล) หน้ากล้อง … ยศพนธ์ หน้ามอ(นิเตอร์)

แบงค์ : พี่ยศดูภาพรวมครับ ส่วนผมพยายามสร้างภาพที่พวกเราวางกันไว้ ให้มันสมบูรณ์ที่สุดครับ บางครั้งก็ร่วมกันแก้ไขตรงนั้นเลย แต่ทุกอย่างคุยกันบนโต๊ะก่อนเรียบร้อยแล้ว

ถาม: ได้เรียนรู้อะไรที่มีค่าในการสร้างหนังฉายโรงเรื่องแรกบ้างครับ ที่น่าจะเป็นประโยชน์ในงานต่อไป

พี่ยศ : การโปรโมท และการนำหนังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์

แบงค์ : ณ วันนี้เราเข้าสู่โลกดิจิตอลกันจริงๆ กลไกบางอย่างของระบบหนังมันเปลี่ยนไป พวกเราคงต้องพัฒนาชิ้นงานต่อไปให้แน่นขึ้นครับ

ถาม: ใน 2-3 ปีมานี้ มีนักทำหนังหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย และมีทุกแนวด้วย โดยเฉพาะที่ทำเอง ตั้งบริษัทเอง คิดว่าเพราะอะไรครับ

พี่ยศ : ต้นทุนในการผลิตหนังน้อยลงมาก โรงภาพยนตร์เปิดโอกาสให้กับบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์หน้าใหม่มากขึ้น

แบงค์ : ดิจิตอลครับ ทุกอย่างง่ายขึ้น มีช่องทางนำเสนอมากขึ้น วัดกันที่ไอเดีย และการนำเสนอ

ถาม: คิดว่าผู้ชมจะได้อะไรจาก “หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก” ครับ

พี่ยศ : ได้อะไรนี่ ตอบแทนคนดูไม่ได้ครับ เป็นเรื่องเฉพาะตัว
บางคนอาจจะได้ฮา บางคนอาจจะได้ด่าผู้กำกับ บางคนอาจจะได้น้ำตา ฯลฯ

แบงค์ : หมวยจิ้น เป็นหนังที่เรานำเสนอออกเป็นโทนเบาๆ เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน และสีสันในโลกของวัยรุ่น การมองโลกในแง่ดี เราคงตอบแทนคนดูไม่ได้ว่าเค้าจะได้อะไร แต่เราคาดหวังกับคนดูได้ หวังเพียงแค่คนดูสนุกกับสิ่งที่นำเสนอ มีเสียงหัวเราะ และมีความสุขกับภาพยนตร์ของพวกเราครับ

cr. http://jediyuth.com