"ฉันไม่ใช่เด็กสาวอีกต่อไปแล้ว"
คลิก!!!
|
หลังจากที่ได้พูดคุยกับยูริ เราก็รู้แล้วว่าการถูกรักนั้นไม่ได้ง่ายไปกว่าการหยิบยื่นความรักเลย เหตุผลที่ทำให้วงโซนยอชิแดช่างน่าทึ่งนั้น ไม่ใช่เพราะพวกเธอได้รับความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข แต่เป็นเพราะพวกเธอมอบความรักให้กับผู้อื่นมากกว่าที่พวกเธอได้รับมาเสียอีก ยูริ ซึ่งเป็นสมาชิกคนหนึ่งของวงที่ทำงานหนักมาตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รับบทนำ คืนแล้วคืนเล่าที่ต้องอดนอน วันนี้เรามาพบกับนักแสดงสาว ควอนยูริ
"เค้กแครอทที่นี่อร่อยดีนะคะ"
ยามบ่ายของวันศุกร์ ภายใต้แสงแดดที่อบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิ กับชานมหวานๆแก้วนี้ เค้กแครอทที่ยูริแนะนำนั้นนุ่มและไม่หวานจนเกินไป เธอบอกว่าร้านนี้เป็นเหมือนที่ซ่อนของเธอ เธอมักจะมาพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆอยู่เรื่อยๆ ยูริตรงหน้าฉันในตอนนี้ไม่ใช่นางฟ้าผู้สดใสจากโซนยอชิแด หรือดีไซเนอร์ผู้สมบูรณ์แบบชเวอันนา เธอเป็นหญิงสาววัย 24 ปีคนหนึ่ง ที่มีอาชีพเป็นดารามาได้ 5 ปีแล้ว "เพราะฉันได้รับความรักมากมาย ฉันจึงพยายามทำให้ได้อย่างที่ทุกคนหวังไว้" เธอทำงานหนักเพื่อไม่ให้คำพูดนั้นเป็นเพียงลมปาก
"โลกใบใหม่" ของควอนยูริ
เธอใส่เสื้อนอกสีเหลืองพับแขน มือข้างหนึ่งเข็นราวแขวนเสื้อ อีกข้างถือโทรศัพท์แนบหู สร้างความประหลาดใจให้ยูอาอินที่กำลังอาบน้ำ เธอมองเขาอย่างเฉยชา "ออกไปได้แล้ว ฉันไม่มีเวลา"
นั่นคือฉากหนึ่งจากตอนที่ 3 ของแฟชั่นคิงที่ทั้งสองพบกันเป็นครั้งแรกที่นิวยอร์ค คำทิ้งท้ายของเธอ "Get out!" ออกเสียง 't' อย่างชัดเจน รู้สึกได้ถึงทั้งความเฉยชาและรำคาญ ไม่ใช่เพียงการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงที่สื่อถึงอารมณ์อีกด้วย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้มาจากอเมริกาเหมือนเพื่อนร่วมวงอย่างทิฟฟานี่และเจสสิก้าก็ตาม
"ตั้งแต่ฉันเป็นเด็กฝึกมา 7-8 ปี จนถึงตอนนี้ก็ 10 ปีได้แล้ว ฉันอยากแสดงมาตลอดค่ะ ฉันเรียนการแสดงอยู่เรื่อยๆ และลองอ่านบทเองมาตลอด ฉันดีใจมากที่ในที่สุดก็ได้แสดงละครซักที ก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำ ฉันนัดพบกับผู้กำกับประมาณ 10 ครั้งได้ค่ะ ผู้กำกับไม่รู้จักฉันดีเท่าไหร่ แล้วก็ไม่รู้ว่าฉันจะแสดงได้แค่ไหน เลยให้คำแนะนำกับฉันมาเยอะเลย แล้วฉันก็กังวลกับบทที่เป็นภาษาอังกฤษด้วย อันนาเป็นดีไซเนอร์ที่ประสบความสำเร็จอยู่ที่นิวยอร์ค เพราะฉะนั้นการออกเสียงจึงต้องดี แล้วการแสดงอารมณ์ก็ต้องดีด้วย ฉันพกเครื่องบันทึกเสียงกับกล้องวิดีโอไว้ตลอดค่ะ คอยอัดไว้ฟังอยู่เรื่อยๆ"
ผู้กำกับ อีมยองอู เปิดเผยถึงความกังวลในการคัดเลือกตัวยูริมาแสดง เขาถึงกับอัดสิ่งที่เขาต้องการสอนให้กับยูริลงเทป เพราะ 'บทนี้มีความสำคัญมากเกินกว่าที่จะให้นักแสดงหน้าใหม่มารับเสียอีก'
"ในตอนแรกนั้นมีหลายอย่างที่เราต้องบอกให้เธอทำ บางทีเราก็ต้องปรับเปลี่ยนรายละเอียดกันระหว่างถ่ายทำเลย แต่ตอนนี้เธอเก่งขึ้นๆทุกวัน ถ้าคุณบอกจุดด้อยของเธอไป เธอจะปรับปรุงทันที เธอเตรียมตัวพร้อมเสมอ ผมเองก็เพิ่งรู้ไม่นานมานี้ว่าเธอพกเทปที่ผมอัดให้เอาไว้ฟังอยู่ตลอด" (ผู้กำกับ อีมยองอู)
โซนยอชิแด ยุนอา เริ่มการแสดงละครในปี 2008 ส่วนเจสสิก้าก็เริ่มไปเมื่อไม่นานมานี้ ถ้าคุณย้อนไปดูคำพูดของยูริที่ว่า "ฉันเตรียมตัวมาเป็น 10 ปี เพราะฉันต้องการแสดง" นับว่าเธอเริ่มต้นช้าไปสักหน่อย แต่ถึงแม้ว่าละครจะออกอากาศไปได้ 11 ตอนแล้ว ก็ยังไม่ปรากฏประเด็นปัญหาอะไรเกี่ยวกับการแสดงของเธอเลย ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นนักแสดงหน้าใหม่ก็ตาม
"นิสัยฉันเป็นแบบนั้นแหละค่ะ คล้ายอันนาเลย ฉันอยากให้คนได้เห็นฉันในหลายๆด้านกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงที่ต้องพูดภาษาอังกฤษ การร้องเพลง หรือการเต้น ฉันต้องไม่เสแสร้งทำ ฉันต้องคุ้นเคยกับด้านต่างๆเหล่านั้นของฉันเองก่อน จึงต้องอาศับการฝึกฝนและความพยายามอย่างมาก ฉันรคิดว่านั่นคือสาเหตุที่ทำให้ฉันเริ่มต้นช้าน่ะค่ะ"
เมื่อไม่นานมานี้ ยูริถูกเลือกโดยชาวต่างชาติให้เป็นสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปที่มีรูปร่างดีที่สุด เพื่อนร่วมวงเองก็พูดอยู่เสมอว่า "ฉันอิจฉารูปร่างที่ดูแข็งแรงของยูริจัง" เมื่อตอนที่เธอเป็นแขกรับเชิญรายการ "BIGsTORY" ของ SBS ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการควบคุมอาหาร ชอว์น ลี ได้กล่าวว่า "บางคนก็เกิดมามีรูปร่างแบบนั้นเลย อย่างเช่นซูยอง แต่รูปร่างของยูรินั้นเกิดขึ้นมาจากความพยายามของเธอทั้งนั้น เป็นรูปร่างที่เกิดจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ"
ยูริเริ่มเป็นที่สนใจในโซนยอชิแดหลังจากเดบิวท์ได้ระยะหนึ่ง เกือบ 5 ปีแล้วที่เปิดตัววงมา สมาชิกแต่ละคนก็มีช่วงเวลาที่ต่างกันออกไป ยูริไม่ใช่คนที่เป็นที่สนใจตั้งแต่แรกเริ่ม แต่เธอก็ดึงดูดความสนใจของแฟนๆด้วยบุคลิกที่สดใส ด้วยการเต้น "kkab" โชว์ตามรายการวาไรตี้ ได้ที่ 2 จากการแข่งโหนบาร์ การแสดงออกอย่างเต็มที่ทำให้เธอมีตัวตนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
"ฉันชอบออกกำลังกายค่ะ โดยเฉพาะการว่ายน้ำ ฉันเคยอยากเป้นนักกีฬาว่ายน้ำอาชีพด้วย พอได้เดบิวท์แล้ว เวลาที่ฉันเครียดหรือเหนื่อย ฉันก็จะไปออกกำลังกายค่ะ แต่ระยะหลังมานี่ ฉันไม่ค่อยมีโอกาสเพราะติดถ่ายละคร"
"ฉันอาจจะทำผิดพลาด แต่ฉันไม่เคยยอมแพ้"
เป็นที่รู้กันดีว่าการฝึกซ้อมของ SM นั้นหนักมาก พวกเขาซ้อมแล้วซ้อมอีกเพื่อที่จะเต้นได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่มีข้อผิดพลาด ท่าเต้นในเพลงแรกของโซนยอชิแดนั้นใช้เวลาถึง 1 ปีเลยทีเดียวถึงจะสมบูรณ์แบบ ชิมแจวอน ผู้ออกแบบท่าเต้นกล่าวว่า "สุดท้ายแล้ว คนที่ต้องขึ้นแสดง และคนที่จะโดนต่อว่าก็คือพวกเขา มันน่าเศร้ามากถ้าหากแสดงได้ไม่ดีอย่างที่ซ้อมมา พวกเขากลับกลายเป็นกลัวเวทีที่พวกเขาใฝ่ฝันถึงมาตลอด" ยากขึ้นไปกว่านั้นกับวงอย่างโซนยอชิแดที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว ไม่มีแม้แต่เวลาจะพักหายใจ วงที่เป็นจุดสนใจตลอดไม่ว่าจะไปที่ไหน ฉันจำที่ยูริพูดเอาไว้ได้ "มันอาจจะดูสวยงาม แต่มีความพยายามมากมายเกิดขึ้นเบื้องหลังที่ไม่มีใครได้เห็น"
"มีอุปสรรคมากมายที่อาจจะทำให้ฉันล้มลงหรือยอมแพ้ แต่ฉันบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่า 'ฉันล้มลงแค่แป๊บเดียว แล้วฉันก็จะยืนขึ้นได้ใหม่' เพราะการตอบแทนความรักที่ทุกคนให้มาคือหน้าที่ของฉันค่ะ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหน ฉันจะยอมแพ้ไม่ได้ ที่ฉันมาได้ไกลขนาดนี้ก็เพราะคิดแบบนั้น ทำให้ฉันเข้มแข็งขึ้นได้ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนค่ะ"
ฉันคิดมาตลอดว่าพวกเธอได้รับแต่ความรัก ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเธอต้องพยายามกันแค่ไหน เวลาทั้งหมดที่ใช้ไปกับการฝึกกว่า 5 ปี เวลาที่ใช้ในการเตรียมท่าเต้น 1 ปี พวกเธอต้องหยิบยื่นความรักส่งกลับให้กับแฟนๆ พวกเธอได้รับการฝึกฝนมานาน จึงเข้าใจว่าความคาดหวังที่มีต่อพวกเธอนั้นมีแต่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับพวกเธอแล้ว เวทีแสดงนั้นเป็นทั้ง 'สถานที่แห่งความสุข' และ 'สถานที่ที่น่ากลัวที่จะเกิดความผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด'
"บางครั้งฉันก็ได้ทำในสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะทำได้ค่ะ แล้วนั่นก็ทำให้ฉันมีความสุขมาก หลายต่อหลายครั้งฉันก็มีความคิดว่า 'ฉันทำไม่ได้หรอก' 'ฉันเลิกดีกว่า' 'ฉันว่างานนี้ไม่เหมาะกับฉันเลย' 'ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว' แต่พอฉันทำสำเร็จ ฉันก็รู้สึกว่าฉันก็ทำอย่างอื่นสำเร็จได้นะ ฉันฝ่าช่วงวิกฤตมาได้โดยการบอกกับตัวเองว่า 'ลองดูอีกหน่อยแล้วกัน' 'ลองพิชิตภูเขาอีกสักลูกนะ'"
เร็วๆนี้ ภาพยนตร์เผยชีวิตไอดอลของ SM จะออกฉาย สมาชิกแต่ละคนที่ปรากฏตัวในหนังได้ทิ้งข้อความเอาไว้ ยูริเขียนเอาไว้ว่า
"ฉันอาจจะทำผิดพลาด แต่ฉันไม่เคยยอมแพ้"
"Fashion King" Best เลือกโดยยูริ
'Best Line'
“??? ??.” (เช็ดปากซะ)
อันนาพูดบทนี้กับ อีเจฮุน (แจฮยอก) ในตอนที่เขากลับมาหาเธอเพื่อขอเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่อีกครั้ง แจฮยอกชวนเธอไปทานมื้อสาย แล้วปากเขาก็เปื้อนซอสจากแซนด์วิช
'Best Scene'
"ฉากที่อันนาร้องไห้ตอนดื่มเหล้าอยู่ในห้องโรงแรมกับยองกอล เป็นครั้งแรกที่เธอเผยความรู้สึกออกมาทั้งหมด เธอพูดว่า 'ฉันรักเขามาก ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้' ภาพของเธอที่พูดประโยคนั้นจะอยู่ไปอีกนานเลยค่ะ"
เสน่ห์ของ ยูอาอิน และ อีเจฮุน
"คนที่รู้จักฉันมานานบอกฉันว่า 'เธอกับอันนานี่คล้ายกันนะ แทนที่จะมานั่งคิดว่าอันนาเป็นคนแบบไหน จะแสดงออกมายังไง การหาจุดที่เหมือนกันในตัวเธอกับอันนา น่าจะให้คำตอบเธอได้เร็วกว่านะ' ฉันเลยสงสัยว่าจริงมั้ย แล้วพยายามทำตามที่เขาบอกค่ะ อันนาเป็นคนที่ทำงานหนัก แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับวุ่นวายขึ้น ความรักเป็นเรื่องยากสำหรับเธอทำให้เธอหมดกำลังใจค่ะ มีหลายฉากเลยที่เป็นแบบนั้น เธอทำงานอย่างเต็มที่ แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิดเท่าไหร่ ผลที่ออกมาก็เทียบไม่ได้กับความทุ่มเทที่เธอมีให้ ใครๆก็คงเคยเจอเหตุการณ์แบบนั้นมาบ้างแล้ว ฉันเลยเข้าใจเธอค่ะ ฉันถูกดึงดูดไปกับบทเพราะฉันรู้สึกได้ว่าอันนากับฉันนั้นเหมือนกันในหลายๆด้าน ฉันมองดูเธอมากเท่าไหร่ ฉันก็เห็นว่าเธอเปราะบางจริงๆค่ะ เธอพยายามซ่อนมันไว้ด้วยการทำตัวเข้มแข็ง ท่าทางหยิ่งยโสทำให้รู้สึกเหมือนว่าเธอมีพร้อมทุกอย่าง แต่เวลาที่เธออยู่คนเดียว เธอกลับใช้ยากล่อมประสาท เวลาร้องไห้ เธอก็ร้องไห้เพียงลำพัง ฉันเศร้าไปกับเธอเสมอค่ะ"
มักจะมีคนพูดอยู่เสมอว่ายูรินั้นสดใสร่าเริง แต่เธอบอกว่าบางครั้งเธอพยายามอย่างมากเพื่อที่จะดูสดใส เธอพยายามยิ้มให้มากขึ้นในช่วงเวลาที่ลำบาก ถ้าคุณเห็นเธอยิ้มมากกว่าปกติแล้วล่ะก็ นั่นแหละคือช่วงเวลาที่ควรจะสังเกตเธอให้มากกว่าเดิม
"ภายนอกฉันอาจจะดูเข้มแข็ง แต่จริงๆแล้วฉันอ่อนแอมาก การที่จะเอาชนะตัวเองจึงเป็นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับฉันค่ะ เมื่อฉันเจอใครที่เป็นแบบนี้เหมือนกัน กำแพงของฉันก็พังลงหมด ฉันเปิดเผยความรู้สึกมากขึ้น นั่นคือความเหมือนของฉันกับอันนาค่ะ"
นักแสดงร่วมของยูริ ทั้ง ยูอาอิน อีเจฮุน และ ชินเซกยอง ต่างก็เป็นนักแสดงชื่อดังในตอนนี้ทั้งนั้น พวกเขามีฝีมือการแสดงที่ดี เป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จจากบทบาทที่แสดงมากกว่าจากความนิยมทั่วๆไป แต่แทนที่จะรู้สึกกลัว ยูริกลับเข้าหาพวกเขา ถามคำถามพวกเขา เรียนรู้จากพวกเขา ด้วยความที่เธอเป็นนักแสดงหน้าใหม่ เธอจะถามพวกเขาว่าอารมณ์ในการแสดงของเธอนั้นถูกต้องไหม แสดงต่อไปแบบนี้ดีไหม แล้วรุ่นพี่เหล่านั้นก็จะตอบคำถามเธออย่างไม่ลังเล ใครๆก็รักรุ่นน้องที่กระหายอยากเรียนรู้
"ไม่ว่าพี่ยูอาอินจะได้รับบทไหน เขาก็ทำให้บทนั้นมีชีวิตขึ้นมาได้ การแสดงของเขาทำให้คนประทับใจ ตอนที่ยองกอลกับอันนาเจอกัน ฉันได้รับพลังงานจากพี่เขามามากเลยค่ะ และเพราะแบบนั้นฉันถึงส่งพลังงานออกไปได้เหมือนกัน ปลดปล่อยตัวเองได้มากขึ้น แสดงได้จริงใจขึ้น ฉันเพิ่งคุยกับพี่อาอินเรื่องการแสดงไม่นานมานี้ ฉันถามพี่เขาในสิ่งที่ฉันสงสัย แล้วพี่เขาก็ตอบทุกอย่างเลยค่ะ แถมยังบอกในสิ่งที่ฉันไม่ทันคิดถึงอีก"
รุ่นน้องควอนยูริถามรุ่นพี่ยูอาอินว่า "ต้องรับบทบาทไหนถึงจะได้ปลอดปล่อยความกังวลต่างๆผ่านบทนั้นได้?"
"ยกตัวอย่างเช๋น ถ้าฉันรับบทนักเลง นั่นหมายความว่าฉันสามารถทำอะไรที่ฉันอยากทำมาตลอดได้ อะไรที่ฉันไม่สามารถทำได้มาก่อน ฉันสงสัยว่ามันจะเป็นเหมือนการปลดปล่อยรึเปล่า ตอนฉันแสดงเป็นอันนา ฉันก็มีความรู้สึกแบบนั้นเวลาที่เธอทำอะไรที่ยูริไม่มีทางทำน่ะค่ะ พอฉันถามพี่อาอินไป พี่เขาตอบมาว่า 'ฉันทำงานนี้เพราะมันสนุก นั่นคือเหตุผลหลัก'
เธอบอกว่าคติของยูอาอินคือ 'แสดงอย่างจริงใจ' ซึ่งทำให้ยูริรู้สึกมั่นใจขึ้น เธอคิดว่า 'ต้องแบบนั้นแหละ' อีเจฮุน ดูจะแตกต่างกับบทแจฮยอกของเขาอยู่เหมือนกัน สิ่งที่ยูริสงสัยที่สุดเกี่ยวกับตัวเขาคือ 'คุณคือใครกันแน่ อีเจฮุน?' เธอได้ถามคำถามนี้กับเขาเช่นกัน
"เวลาฉันดูการแสดงของพี่เจฮุน ฉันสงสัยเสมอว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนยังไง เขามีบุคลิกที่หลากหลายมาก ฉันแปลกใจทุกครั้งเวลาที่ได้เจอกับเขา ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าไร้เดียงสาไปจนถึงนักเลงสุดซ่าในโรงเรียน แม้แต่ตอนนี้ เวลาที่ฉันอยู่กับพี่เขา ฉันรู้สึกว่าฉันมองเห็นแต่จองแจฮยอก จนฉันลืมไปเลยว่านี่คืออีเจฮุน บางทีการถ่ายทำจบไปแล้ว แต่ฉันก็ยังรู้สึกว่าพี่เขาเป็นจองแจฮยอกอยู่เลยค่ะ"
เอาชนะปัญหา
'ไข่มุกดำ' คือฉายาที่แฟนๆตั้งให้กับยูริ เพราะผิวสีแทนของเธอ การเกิดของไข่มุกนั้นใช้ระยะเวลานานและเกิดจากการรับสิ่งไม่บริสุทธิ์ทั้งหลายเข้าไปในเปลือก คนที่พยายามจนเป็นนิสัยมักจะไม่รู้สึกว่าตนกำลังพยายามอย่างหนัก และมักจะย้อนถามว่า 'ถ้าอยากได้อะไร ก็ต้องเตรียมพร้อมและฝึกฝนไม่ใช่เหรอ?' นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ถูกสั่งสมมาจากการฝึกนาน 7-8 ปี เคล็ดลับความสำเร็จของโซนยอชิแดที่อยู่ยงมาได้ถึงปีที่ 5 และนั่นคือตัวตนของเธอ ยูริจัดว่าอยู่ในกลุ่มที่มีความพยายามสูง
"เวลาที่ฉันมีปัญหา ทางแก้ของฉันก็คือการเผชิญหน้ากับมันค่ะ ในเวลาแบบนั้น ถึงแม้ว่าฉันจะอยู่กับเพื่อนหรือทำอะไรอยู่ก็ตาม ฉันจะเอาแต่คิดถึงปัญหานั้นตลอด ฉันเลยคิดว่าต้องแก้ปัญหาก่อนเลยดีกว่า ถึงมันอาจจะใช้เวลานานก็เถอะ"
อาจจะใช้เวลานาน เพราะเธอเลือกที่จะเผชิญหน้า ไอดอลที่เป็นที่สนใจของคนทั่วโลก รูปร่างที่สวยงามแม้ในสายตาของชาวต่างชาติ การแสดงที่ไม่เคยโดนจับผิด เธอใส่ความพยายามลงไปกับสิ่งเหล่านี้อย่างพอเหมาะ เวลาอันยาวนานผ่านไป และแล้วไข่มุกก็ได้เกิดขึ้น…
——————————–
Source: Woman Chosun
Eng trans: @ch0sshi
แปลไทยโดย tamatron ll SOSHIFANCLUB ll http://www.soshifanclub.com
กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมด