นายกรัฐมนตรีชินโสะ อะเบะ ประกาศว่าญี่ปุ่นจะไม่พบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจเหมือนกับประเทศกรีซ ถึงแม้สัดส่วนหนี้สินต่อจีดีพีของญี่ปุ่นจะสูงกว่ากรีซที่กำลังใกล้จะล้มลายในขณะนี้

คลิก!!!

รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงมั่นใจว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่เรียกกันว่า “อะเบะโนมิกส์” จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจแดนอาทิตย์อุทัยที่ซบเซามากกว่า 10 ปีได้ ถึงแม้ว่าแผนดังกล่าวจะทำให้สัดส่วนหนี้สินสาธารณะของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากรัฐบาลอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลเข้าสู่ตลาด โดยญี่ปุ่นมีหนี้สินต่อจีดีพีในปี 2014 สูงถึง 230% ซึ่งมากกว่ากรีซที่มีสัดส่วนหนี้สาธารณะราว189%

นายอากิระ อะมาริ รัฐมนตรีเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ระบุว่า มาตรการรัดเข็มรัดและลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกรีซ ตามเงื่อนไขเงินกู้ของสหภาพยุโรป ทำให้เศรษฐกิจของกรีซทรุดหนักยิ่งกว่าเดิม และรัฐบาลญี่ปุ่นจะไม่ทำแบบเดียวกัน

รัฐบาลญี่ปุ่นเลือกที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตเพื่อลดหนี้สิน มากกว่าจะตัดลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐ โดยตั้งเป้าจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัว 3% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่เคยทำได้มาก่อนในรอบ 15 ปี แนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจ “อะเบะโนมิกส์” ทำให้ญี่ปุ่นมีชีวิตชีวามากขึ้น แต่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจก็ยังล่าช้า และทำไม่ได้ตามเป้าหมาย

ความวิตกกังวลว่ากรีซจะล้มละลาย ทำให้ราคาหุ้นที่กรุงโตเกียวร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน โดยในช่วงหนึ่งของการซื้อขาย ดัชนีนิคเคอิร่วงลงไปกว่า 600 จุด โดยมีการเทขายหุ้นทั่วทั้งกระดานทันทีหลังตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเริ่มการซื้อขายในช่วงเช้า ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงบ่าย แต่ก็ทำให้ดัชนีนิคเคอิปิดการซื้อขายที่ 20,109 จุด ร่วงลงจากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ถึง 596 เยน โดยเป็นดัชนีที่ลดลงลงมากที่สุดของปีนี้

ไม่เพียงตลาดหลักทรัพย์ของญี่ปุ่นเท่านั้น ที่ถูกเทขายอย่างหนัก แต่หลักทรัพย์อื่น ๆ ในเอเชีย ทั้งที่เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง และอินเดีย ก็สั่นสะเทือนอย่างหนักเช่นเดียวกัน เนื่องจากนักลงทุนกำลังจับตาว่ากรีซจะผิดนัดชำระหนี้หรือไม่.

ขอขอบคุณที่มา http://manager.co.th/