ช่วงย่างเข้าฤดูใบไม้ผล หรือ ชุนบุน 春分 เป็นโอกาสที่ชาวญี่ปุ่นจะไปเคารพสุสานของบรรพชน เหมือนเช่นเทศกาลเช็งเม้งของชาวจีน หากแต่สุสานในญี่ปุ่นทุกวันนี้ล้ำสมัยและอลังการกว่าที่หลายคนจะคาดคิด

คลิก!!!

วัดโคโคคุชิ ในเขตชินจุกุ ใจกลางกรุงโตเกียว เป็นสถานที่เก็บอัฐิบรรพชนของชาวญี่ปุ่นหลายครอบครัว โดยทางวัดได้ปรับปรุงสุสานขนาดย่อมในอาคารให้ทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งความสงบสำหรับลูกหลานที่จะมาเคารพบรรพบุรุษที่ล่วงลับ

ประตูทางเข้าสุสานใช้ระบบบัตรอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อลูกหลานสแกนบัตรแล้ว หลอดไฟหลายหลากสีที่รายล้อมพระพุทธรูปขนาดเล็กกว่า 2,046 องค์บริเวณผนังจะกระพริบขึ้น พร้อมทั้งมีไฟนำทางไปยังแท่นเก็บอัฐิของบรรพชนของเจ้าของบัตร

สุสานภายในอาคารจะช่วยให้ลูกหลานมาระลึกถึงผู้ล่วงลับได้ในทุกสภาพอากาศ และยังช่วยให้ผู้สูงอายุที่นั่งรถเข็นสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังลดภาระในการทำความสะอาดสุสาน และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ด้วยพื้นที่อันจำกัดของประเทศญี่ปุ่น ทำให้สุสานกลางแจ้งแทบจะไม่มีแล้ว และสถานที่เก็บอัฐิในอาคารแบบสมัยใหม่ได้รับความนิยมมากขึ้น เพื่อรองรับสังคมญี่ปุ่นที่มีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่หนุ่มสาวรุ่นใหม่ก็ไม่นิยมแต่งงาน จึงทำให้ผู้สูงอายุของญี่ปุ่นต้องวางแผนวาระสุดท้ายของชีวิตไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เป็นภาระของลูกหลาน

วัดอันโยอิน ในเขตชินากาวะของกรุงโตเกียว ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ปรับปรุงสุสานให้ทันสมัย โดยสร้างอาคาร 5 ชั้นในปี 2012 ภานในอาคารมีห้องโถงใหญ่ที่สามารถเก็บโกศอัฐิของผู้ล่วงลับได้ถึง 7,200 โกศ โดยเมื่อสแกนบัตรที่ประตูแล้ว โกศอัฐิจะถูกนำออกจากที่เก็บที่ผนังมายังแท่นบูชาโดยอัตโนมัติ และทางวัดได้จัดดอกไม้สดและเครื่องบูชาอื่นไว้ให้พร้อมแล้ว บรรดาลูกหลาน บอกว่า พวกเขามาสักการะบรรพชนที่วัดบ่อยขึ้น เนื่องจากสะดวกและไม่ต้องตระเตรียมสิ่งใด

ขณะที่วัดโฮนโกคุจิ ในเมืองเซนได ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด 3 ตัวไว้ที่สุสานที่เป็นที่พำนักสุดท้ายของผู้ล่วงลับราว 80 ราย ซึ่งลูกหลานสามารถเห็นภาพสุสานในมุมต่างๆ ได้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน

เจ้าอาวาสของวัด ระบุว่า กล้องวงจรปิดช่วยให้ลูกหลานสามารถระลึกถึงบรรพชนได้ทุกเวลาตามต้องการ และอำนวยความสะดวกให้ลูกหลานที่อาศัยในต่างเมืองหรือต่างประเทศ สามารถสักการะบรรพชนผ่านอินเตอร์เน็ตได้ด้วย

ขอขอบคุณที่มา http://manager.co.th/