คลิก!!!

กลายเป็นการประกวดความงามที่ใครๆ ก็สนใจเมื่อ “โรงเรียนมัธยมปลายทสึคุบะโคมาบะ” โรงเรียนชายล้วนระดับหัวกะทิของญี่ปุ่นขอพักเรื่องเครียดจากการเรียน ด้วยการจัดประกวด “มิสทสึคุโคมะ” เพื่อค้นหา “ดาว” ที่สวยใสที่สุดในสถาบันการศึกษา

โรงเรียนมัธยมปลายทสึคุบะโคมาบะ กลายเป็นข่าวติดต่อกันมาตลอดในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา หลังจากกิจกรรมการประกวดความงามซึ่งจัดมาตั้งแต่หลายปีก่อนของโรงเรียนได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆ ในญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสถาบันศึกษาแห่งนี้เป็นโรงเรียนชายล้วนนั่นเอง

เช่นเดียวกับโรงเรียนระดับชั้นมัธยมปลายทั่วไปในญี่ปุ่นที่จะมีการจัดงานวัฒนธรรมเพื่อให้เด็กนักเรียนได้ทำกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากการเล่าเรียนตามปกติ แต่กิจกรรมในงานวัฒนธรรมของโรงเรียนโคมาบะ ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมากลับกลายเป็น “การประกวดมิสทสึคุโคมะ” ที่มีชมรมหนึ่งในโรงเรียนเป็นต้นคิดขึ้น และสร้างกระแสจนเป็นที่สนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าผู้เข้าประกวดทั้งหมดเป็นนักเรียนของโรงเรียนชายล้วนแห่งนี้เท่านั้น

ภาพของหนุ่มวัยรุ่นผู้เข้าประกวดในชุดผู้หญิงหลากหลายแบบทั้งชุดกิมิโนแบบญี่ปุ่น หรือเสื้อผ้าร่วมสมัยแบบที่สาวๆ ในยุคนี้สวมใส่กัน ได้กลายเป็นที่สนใจของสื่อ และเว็บไซต์มากมาย ซึ่งผู้เข้าประกวดหลายๆ คนแต่งออกมาได้ “เนียน” จนแทบจะเหมือนหญิงแท้ นอกจากนั้นผู้ประกวดหลายๆ คนยังยืนยันว่าพวกเขาเป็นผู้ชายแท้ๆ ที่ชอบผู้หญิงอีกด้วย

โรงเรียนโคมาบะ แห่งเขตเซะตะงะยะ กรุงโตเกียว ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1947 ก่อนจะได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ มหาวิทยาลัยทสึคุบะ แห่งอิบารากิ สถาบันการศึกษาที่เน้นหนักด้านสาขาเทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ จนสร้างชื่อให้โรงเรียนโด่งดังขึ้นกลายเป็นสถาบันการศึกษาแถวหน้าของประเทศไปแล้ว

โดยทางกระทรวงศึกษาของญี่ปุ่นยังเลือกโรงเรียนทสึคุบะโคมาบะ ให้เข้าเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาในโครงการ “Super Science High School” ที่เน้นการเรียนการสอนในด้าน วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ เป็นหลัก เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียน สำหรับการศึกษาต่อในสาขาด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีในระดับชั้นที่สูงขึ้นโดยเฉพาะ

ในแต่ละปีเด็กจากโรงเรียนทสึคุบะโคมาบะจะสามารถเข้าไปศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัยโตเกียว สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่นในอัตราที่สูงมากด้วย

ซึ่งผู้จัดกิจกรรมได้การประกวด “มิสทสึคุโคมะ” ได้ยืนยันว่านี่คืองานที่มีจุดประสงค์เพื่อการคลายเครียดสำหรับนักเรียนที่ทุ่มเทเวลาและพลังให้กับการเรียนกันมาอย่างหนักเท่านั้น แม้จะมีผู้ที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับกิจกรรมนี้อยู่บ้าง แต่กระแสส่วนใหญ่ก็ถือว่าเป็นไปในแง่บวก

ที่มา http://www.manager.co.th/