คลิก!!!

ผู้บริหารช่อง 3 โต้เรียก “พลอย เฌอมาลย์” ตักเตือน ยันแค่โทร.ถามเพราะห่วงใช้อารมณ์หรือเปล่า ป้องพลอยเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีกรอบว่านักแสดงต้องเหมือนกันทุกคน ไม่หวั่นอีกฝ่ายโดนแบน เชื่ออยู่ได้ด้วยตัวเอง ปัดทุ่มเงิน 20 ล้านซื้อตัว “ปู ไปรยา” ย้ายช่อง บอกอายุเยอะแล้ว ปั้นเด็กใหม่ดีกว่า

“ประวิทย์ มาลีนนท์” ผู้บริหารช่อง 3 เพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์กรณี “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” เหวี่ยงนักข่าว หลังไม่พอใจที่นักข่าวสำนักหนึ่งถามว่าถึงกรณีที่พลอยโพสต์ภาพลงไอจีเป็นภาพนิ้วกลางจิ้มเค้กพร้อมข้อความอวยพรวันเกิดสุดแซบ แต่นางเอกดังกลับแสดงอาการไม่พอใจ ถามหาแหล่งข่าวและจะลากตัวนักข่าวเข้าไปยืนยันแหล่งที่มาต่อหน้ากล้องทีวีจำนวนมากให้ได้ จนทำให้ถูกมองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุไปหรือเปล่า โดยคุณประวิทย์ยอมรับว่ามีการปรามพลอยถึงเรื่องนี้ เพราะอยากให้ช่อง 3 เป็นช่องที่สะอาด จนมีกระแสว่านางเอกดังถึงขั้นต้องหลบหนีไปพักใจที่สหรัฐอเมริกา

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอ “สมรักษ์ ณรงค์วิชัย” ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตของช่อง 3 ในงานก้าวสู่ปีที่ 10 ครอบครัวข่าว 3 ณ แพลนนารี ฮอลล์ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งสมรักษ์ก็ได้เปิดเผยว่าได้มีการพูดคุยกับพลอยจริง แต่ตนไม่ได้เรียกมาพบ เพียงแค่โทรศัพท์ไปถามไถ่ข้อเท็จจริง เพราะห่วงว่าพลอยใช้อารมณ์ในการให้สัมภาษณ์หรือเปล่า และขอโต้ข่าวทุ่ม 20 ล้านซื้อตัว “ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนเบิร์ก” ว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

“ผมแค่โทรศัพท์ไปเฉยๆ ไม่ได้เรียกเข้ามาหา เพราะผมก็ไม่ค่อยว่าง ติดประชุม ก็เลยโทร.ถามเขาว่าเป็นยังไง เขาก็เล่าให้ฟังแต่ก็ไม่ได้เล่าละเอียดหรอก ก็เหมือนกับมีคำถามที่ไม่ค่อยสบอารมณ์นิดหนึ่ง เขาก็บอกว่าเขาไม่ได้แสดงอารมณ์อะไร ก็พูดไปตามปกตินั่นแหละ ซึ่งอันนี้ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เพียงแต่ถามเขา เพียงแต่ห่วงเขา จริงๆ ถามก็ด้วยความเป็นห่วงว่าคืออะไร เขาก็บอกว่าไม่มีอะไร พอได้คุยกันแล้วเขาก็สบายใจก็เท่านั้นเอง”

“ผมไม่ค่อยได้ตักเตือนใครหรอก เพราะผมก็รู้ว่าแต่ละคนก็รู้ตัวเองอยู่ว่าชีวิตแต่ละคนก็สามารถดูแลตัวเองได้ เพราะแต่ละคนมันก็ไม่ได้มีกรอบว่าต้องทำเหมือนกันหมด ก็อยากให้เป็นไปตามธรรมชาติเขานั่นแหละ เป็นไปตามตัวเขาเองนั่นแหละ ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ก็เป็นเรื่องปกติในวงการ เราก็เห็นเรื่องพวกนี้มาเยอะ (ยิ้ม)”

“ก็ไม่ได้แนะนำอะไร ก็เพียงแต่เป็นห่วงในแง่ว่าใช้อารมณ์เปล่า แต่เขาบอกไม่ได้ใช้อารมณ์อะไร เขาก็มีเหตุผลของเขา ฉะนั้นเราก็เคารพในเรื่องพวกนี้เหมือนกัน ถามว่าผมเห็นข่าวเห็นภาพวันนั้นไหมก็ได้อ่านได้เห็นอะไรต่ออะไรแต่ก็ไม่ได้ติดใจ เพราะเราเองก็รู้สึกว่าบางทีคำถามเราเองก็เคยเจอ บางทีถามถึงแหล่งข่าวที่ไม่เป็นเรื่องเราก็ยังเจออยู่บ่อยๆ เราก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่อยู่ที่เราว่าเราได้ยินแล้วจะเก็บมัน จะไม่ยุ่งกับมัน แล้วจะหาทางตอบยังไง บางทีข่าวมันก็ไม่จริงแต่พยายามจะพูดกันอยู่นั่น เราก็เจอบ่อยนะ และหลังจากที่ตอบกันไปแล้วสิ่งที่กลับมาก็จะมีว่าบอกปัด อุบมั่ง โม้มั่ง ปากแข็งมั่งอะไรก็แล้วแต่ เราก็เคยเจอ ก็เลยรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ เราเองยังเจอเลย ใครๆ ก็เจอ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร (หัวเราะ)”

บอกกระแสแบนไม่เป็นผล เชื่อคนมีความสามารถก็อยู่ได้ด้วยตัวเอง

เรื่องแบนหรือไม่แบน แอนตี้หรือไม่แอนตี้ คือผมค่อนข้างมั่นใจว่านักแสดงเขาอยู่ได้ด้วยตัวเขาเองอยู่แล้ว กว่าเขาจะเติบโตมาเขาก็โตมาด้วยตัวเขาเองนั่นแหละ ผมเชื่อว่าคนมีความสามารถก็อยู่ได้ด้วยตัวเอง ข่าวไม่มีผลกระทบอะไรหรอกครับ เพราะเราทำงานมันอยู่ที่ทีมเวิร์กมากกว่า คนในวงการจะอยู่ได้หรือไม่ได้มันอยู่ที่การทำงานร่วมกับคนอื่นมากกว่า มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องคนอื่นหรอก คือมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมอื่นหรอก มันอยู่ที่คนที่ทำงานด้วยกันต่างหาก”

“แต่ละครเรื่องใหม่ของเขาก็ต้องรอว่าบทที่ส่งๆ ไปให้เขา แล้วเขาอยากเล่นไหม เพียงแต่เขาก็คุยกับผมว่าเขาอยากทำงานปีละเรื่อง เพราะเขาอยากจะไปทำอย่างอื่นบ้าง อยากจะเป็นผู้อำนวยการสร้างหนัง อยากไปเขียนบท ก็ไม่ว่ากัน ปีละเรื่องก็ปีละเรื่อง เราก็โอเค เขาบริหารมาแบบนี้ก็ยิ่งดี เพราะเราจะได้รู้ว่าเราจะได้งานจากเขาแค่ไหน จะได้จัดตารางได้ ไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่งงานแล้วขอไม่เล่นก็มี ก็จัดเอา (หัวเราะ) ก็ต้องปรับตัวเอง เราก็ปรับตามงาน”

“ก็ต่อสัญญาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ ก็ต่อไปตามเวลานั่นแหละ นักข่าวรู้มากกว่าผมอีกนะ (หัวเราะ) คนนั้นคนนี้จะหมดสัญญา ไม่รู้ไปเปิดโต๊ะผมตอนไหน ผมก็ยังงง (หัวเราะ) แต่จริงๆ ผมก็ทำไปตามสเต็ปของเวลา ก็ไม่ได้มีอะไรหรอก แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามีใครไปคุยกับเขาบ้างแล้วหรือยัง หรือบทที่เขียนมาแล้วมีใครไปติดต่อบ้างหรือยังผมก็ไม่ทราบ คือบางทีผู้จัดก็ซุ่มไปเขียนบทมาแล้วค่อยมาเสนอ บางทีผมรู้ก็ตอนที่เป็นเปเปอร์มาแล้ว แต่ก็ได้ข่าวว่ามีไปคุยกันบ้าง แต่จะสรุปลงเอยกันหรือเปล่าอันนี้ไม่รู้ครับ”

ยันไม่เคยทาบทามหรือซื้อตัว “ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนเบิร์ก” บอกปั้นเด็กใหม่ๆ ดีกว่า

“เรื่องนี้เป็นแต่ข่าวนะ ผมไม่ได้ติดต่อ ไม่ได้คิด ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แต่จะมีใครติดต่อหรือเปล่าผมก็ไม่รู้ แต่สำหรับผมไม่มีนะ ยิ่งบอกว่าซื้อตัวมา 20 ล้านยิ่งไปกันใหญ่เลย ทางผมไม่มีข่าวนี้ ทางค่ายก็เป็นไปไม่ได้ แต่ถามว่ามีแนวโน้มจะมาไหม ผมขอใช้คำว่าไม่แน่ใจแล้วกัน เพราะมันก็มีหลายเคสที่ผู้จัดไปคุยแล้วถูกใจกัน อยากทำงานด้วยกัน อันนั้นก็เป็นเรื่องๆ ไป ไม่ได้ซีเรียสอะไร”

“แต่ถ้าเขามาจริงๆ ก็เหมือนคนอื่นแหละที่มาแล้วก็ปกติ แต่ไม่มีหรอกที่ว่าจะซื้อตัว 20 ล้านค่ะ เพราะผมใช้เงินน้อย (หัวเราะ) ไม่มีการทาบทามเลยสักกะแอะหนึ่งครับ ผมก็เคยอ่านข่าวเจออยู่นะ แต่ไม่มีครับ คือเราก็ปั้นเด็กใหม่ๆ ตลอดอยู่แล้ว ปีนี้เรามีตั้ง 30 คน กำลังกระจายเล่นอยู่ตอนนี้ อบรมเสร็จไปแล้วรุ่นใหม่ กำลังอบรมเด็กรุ่นใหม่ งานก็จะค่อยๆ ทยอยออกมากัน เราจะเห็นเขาเร็วหรือไม่เร็วก็อยู่ที่จังหวะนิดหนึ่ง และอยู่ที่คาแรกเตอร์เขาว่าเหมาะกับเรื่องไหน”

แต่ถ้าข้ามช่องมายังไม่มีนะ เพราะอายุก็เยอะๆ กันหมดแล้วทั้งนั้น ก็ยังไม่เห็นจะมีใครมานะ แล้วเราก็ปั้นเด็กใหม่มาตลอด 5 ปีหลังมานี้เราก็ปั้นเด็กใหม่มาตลอด บางรุ่นก็เร็วหน่อย บางรุ่นก็ช้าหน่อย แต่ก็ใช้งานได้ ในแง่ฝีมือก็ถือว่าเล่นเก่ง”

http://www.manager.co.th