คลิก!!!

“เสี่ยตา” พร้อมชี้แจงกระทรวงวัฒนธรรม หลังไทยแลนด์ ก็อตทาเลนท์ แพร่ภาพสาวผู้เข้าประกวดเปลือยอกวาดภาพออกอากาศ บอกเจตนาดี พร้อมปัดไม่ได้สร้างกระแสเพื่อเรียกเรตติ้ง ก่อนยันไม่มีเรื่องทำนองนี้อีกแน่นอน

ถูกกระแสสังคมวิจารณ์อย่างหนักทีเดียว สำหรับรายการ “ไทยแลนด์ ก็อตทาเลนท์” เทปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังหนึ่งในผู้เข้าร่วมการแข่งขัน “ปอนด์ ดวงใจ จันทร์เสือน้อย” ได้แสดงความสามารถด้วยการเปลือยท่อนบนใช้หน้าอกวาดภาพ ซึ่งแม้ทีมผู้ผลิตอย่าง บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จะมีการเซ็นเซอร์ภาพที่ออกมา ทว่า ก็มีหลายคนต่างพากันตั้งข้อสงสัยถึงเจตนาในการนำเสนอภาพดังกล่าวอยู่ไม่น้อย

เกี่ยวกับกระแสดังกล่าว ทาง “ปัญญา นิรันดร์กุล” ผู้บริหารเวิร์คพอยท์ ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าว โดยเจ้าตัวได้เอ่ยปากขอโทษต่อกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมกับชี้แจงว่า ที่ตัดสินใจปล่อยภาพออกไป ก็เพราะการโชว์ของผู้เข้าแข่งขันนั้นเข้ากับคอนเซ็ปต์ในการประกวดของปีนี้นั่นเอง

“เพราะสโลแกนปีนี้ ก็คือ แค่กล้าก็ชนะแล้ว แต่เรามีหน้าที่ที่จะวางความเหมาะสม ให้มันเกิดขึ้น เราก็ไม่คิดว่าเขาจะทำขนาดนี้ แต่เราก็ได้เตรียมการไว้แล้วว่าถ้าเกิดทำจริงๆ แล้วเราจะทำยังไง เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า ตอนออนแอร์เนี่ย คุณไม่ได้เห็นอะไรเลย เพราะเซ็นเซอร์เราเยอะมากเลย”

“แต่คนที่ไม่ได้ยินอาจจะตกใจว่าทำไมมีเปลือยอกไปทำอะไรต่างๆ เหล่านี้ได้ ที่เรายอมปล่อยภาพออกมา ก็เพราะมันต้องให้เห็น ของพวกนี้อย่าปิดบัง เราให้เห็นไปเลย เหตุการณ์แบบนี้ในสังคมเมืองไทยก็มี แต่จะเห็นว่า เราเซ็นเซอร์เต็มที่ เซ็นเซอร์แบบคุณไม่เห็นอะไรเลย คุณก็เห็นว่าไม่มีอะไรนี่”

ยันจะไม่มีเรื่องในลักษณะนี้ออกอากาศอีก พร้อมปัดที่ทำไป เพราะต้องการเรียกเรตติ้งทั้งๆ ที่ก็สามารถคัดกรองการเนื้อหาในการออกอากาศได้…“คือ เราไม่คิดว่าจะเกิดอย่างนี้ ถ้าเกิดอย่างนี้เราก็ต้องปล่อยให้คนเห็น เพื่อเปรียบเทียบว่ามันมีหลายมุมมอง แต่เราเซ็นเซอร์เขาขณะที่ออนแอร์ เราไม่เห็นอะไรเลยนะ ส่วนโค้ง ส่วนเว้า ได้ยินแต่เสียงว่า ทำไมคุณทำอย่างนี้ แต่มันไม่เห็นเลยนะ ไม่ว่ามุมไหน”

“หลังจากวันนั้นเนี่ย เราก็บล็อกแล้ว พอบล็อกตรงนี้ก็ไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว แต่ในเมื่อเกิดขึ้นเราก็อยากให้เกิดขึ้นตรงที่ว่า ให้คนดูตัดสินใจ แต่เราก็เซ็นเซอร์ เราไม่มีเจตนานะ อยากให้รู้ว่าเมื่อเกิดอย่างนี้ แล้วก็ถูกต่อว่านะ แล้วมันก็ไม่ดีนะ ไม่งั้นก็ไม่แรง ไม่ใช่เรื่องเรตติ้งนะ คือ จะไม่มีใครไปว่าเขาแรงๆ ทีมงานก็ว่าเขาแรงๆ พอลงมาปุ๊บเราก็ตัดสินใจ ไม่มีเขาอีกในรอบต่อไป”

ส่วนเรื่องที่กรรมการ 2 ใน 3 อย่าง “โจ จิรายุส วรรธนะสิน” และ “ภิญโญ รู้ธรรม” ให้โชว์ชุดนี้ผ่านนั้น ผู้บริหารเวิร์คพอยท์ บอกเป็นเรื่องดุลพินิจส่วนบุคคล แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่า ผู้เข้าแข่งขันไม่น่าจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้ ก่อนปัดกระแสจัดฉากให้กรรมการทั้งสองมีความเห็นไม่ตรงกับกรรมการอีกหนึ่งคนอย่าง “เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา” เพื่อทำให้ตัวรายการดูดีขึ้น

“ผมว่าตอนนี้ ภิญโญ ก็คงโดนต่อว่า คุณโจ ก็คงโดนต่อว่า แต่เขาคงมีเหตุผลของเขา ประเด็นนี้อยากจะให้มองว่าเราบล็อกกรรมการไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นทำไมเบนซ์ถึงตกใจอย่างนั้น มันไม่มีทางแอ็กติ้ง ตั้งแต่ปีที่แล้วก็เหมือนกัน เราก็สั่งกรรมการไม่ได้ แต่หลังจากตรงนี้ไปแล้วมันเป็นเรื่องของการโหวต 6 สัปดาห์ จะเหลือ 36 ทีม กรรมการเป็นเพียงคอมเมนต์ เหลือแต่โหวตจากคนดู ถ้าโหวตไม่ชนะก็อย่าต่อว่านะ เพราะไม่ไปโหวต ปีนี้เราโหวตหมายเลขเดียวคนเดียว ไม่เอาจำนวนแล้ว”

เจ้าตัวบอกพร้อมอธิบายหากหน่วยงานของรัฐ อย่างกระทรวงวัฒนธรรม จะให้ชี้แจงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนอื่นขอขอบคุณไปยังสังคมที่เป็นห่วงในเรื่องนี้ ซึ่งในการรับสมัครครั้งต่อไป ไม่แน่ว่าอาจจะต้องมีกฎข้อบังคับที่มากขึ้น

“คงต้องเป็นอย่างนั้นเลย บางมาตรฐานก็ดูยากเหมือนกัน อย่างตอนนั้นเพศที่ 3 บางทีก็ปล่อยออกมาเลย บางโชว์ที่ยิงปืนใหญ่ ตู้มๆ จะมากหรือน้อยตรงนี้ก็ลำบากใจ บางคนก็จะต่อว่าเรา ก็คุณบอกว่ากล้า ผมก็กล้าไง อะไรอย่างนี้ เราคงต้องเซ็นเซอร์มากกว่านี้ แต่เราต้องปล่อยออกไปอย่างนี้ แค่อยากให้เห็นเจตนาเราก่อน แต่พอวันนั้นนลงมาเราสอบเลย ไม่เอาไม่มีเลย มันไม่มีตั้งแต่วันที่เราถ่ายแล้ว คุณไม่มีทางได้เห็น”

“ขอบคุณท่านผู้ชม ต่อว่าเราได้เลย เราไม่โทษคนดู เพราะว่าเรายอมรับ แต่เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยที่เราจะเซ็นเซอร์ ที่ผิดก็ต้องขออภัย แต่เรามีเจตนาที่ยอมให้ขึ้นมา แต่เราเซ็นเซอร์เต็มที่”

http://www.manager.co.th