เมื่อวันที่ 16 มกราคม โกฮยอนจอง (Ko Hyun Jung) ได้ร่วมเป็นแขกรับเชิญในตอนใหม่ของรายการบน YouTube ของ จองแจฮยอง (Jung Jae-hyung)

คลิก!!!

ระหว่างรายการ โกฮยอนจองทำให้ จองแจฮยองขำได้ตลอดกับบุคลิกที่ตรงไปตรงมาของเธอ เมื่อถามว่าทำไมเธอถึงไม่มีงานแสดงมาหลายปีแล้ว โกฮยอนจองบอกว่า

“แล้วคุณคิดว่าไงละ?”

และพูดต่อ

“เพราะว่าฉันไม่ได้รับการเสนอบทเข้ามามากยังไงละ”

จากนั้น จองแจฮยองบอกว่า โกฮยอนจองดูเป็นคนลึกลับ ซึ่งทำให้คนอาจจะเข้าถึงเธอได้ยาก เธอตอบว่า

“ทำไมคนถึงรู้สึกแบบนั้นละ? อาจจะเพราะฉันเคยแต่งงานกับครอบครัวนั้นละมั้ง”

โกฮยอนจองแต่งงานกับ ชองยองจิน จากครอบครัวผู้ทรงอิทธิพลในเกาหลี เขาเป็นรองประธาน Shinsegae Group และหลานชายของผู้ก่อตั้งบริษัทซัมซุง

“ตอนที่ฉันแต่งงานอาจจะทำให้ดูเหมือนว่าฉันไม่แคร์งานในวงการแล้ว”

เพราะตอนที่เธอแต่งงานเมื่อปี 1995 เธอได้ประกาศว่าเธอจะเกษียณอายุจากวงการ อย่างไรก็ตามเธอกลับมาทำงานในวงการอีกครั้งในปี 2005 หลังจากหย่าร้างในปี 2003

“สิ่งที่คนสนใจในตัวฉันคือชีวิตการแต่งงานของฉัน”

เธอพูดต่อ

“ปาปารัซซี่ถ่ายรูปฉันในตอนนั้น จริงๆฉันก็ควรขอบคุณที่ได้รับความสนใจ แต่ในตอนนั้นฉันทำไม่ได้ไง เพราะว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อคนอื่นด้วย และฉันถูกถ่ายรูปโดยไม่ได้ขออนุญาตหลายครั้ง”

ระหว่างรายการ โกฮยอนจองได้พูดถึงข่าวลือเรื่องเดทระหว่างเธอกับโจอินซอง ซึ่งเธอและโจอินซองเคยรับบทเป็นคู่รักในซีรีส์เรื่อง 'Dear My Friends' (2016) ของช่อง tvN เธอพูดถึงเรื่องนี้ว่า

“ไหนๆก็พูดขึ้นมาแล้ว มีบางอย่างที่ฉันอยากจะพูด หลังจากได้ทำงานกับโจอินซองในตอนนั้น ก็มีข่าวลือของพวกเราออกมา และมันออกมาเรื่อยๆ เราถูกถ่ายภาพที่สนามบิน เหมือนกับว่าเราไปกัน 2 คนแบบไม่มีคนอื่น แต่จริงๆคือ มีนักแสดงคนอื่นด้วย ทั้งซงจุงกิ และ อีมินโฮ”

เธอพูดต่อ

“ฉันคิดว่าโจอินซองก็ดีนะ เขาแมนมาก แต่เขาไม่ใช่สเป็คฉันไง คือ เขาก็คงมีผู้หญิงแบบที่เขาชอบ และฉันคิดว่าก็คงไม่ใช่แบบฉันเหมือนกัน”

เธอพูดพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำให้จองแจฮยองหัวเราะ

เธอพูดต่อ

“สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดที่คนพูดใส่ฉันคือ ฉันควรจะพัฒนาเรื่องนิสัยของตัวเองมากกว่าเรื่องอื่นเลย”

เธอหันไปมองกล้องและบอกว่า

“นี่พวกคุณ ฉันก็ไม่ได้แย่เหมือนที่หลายคนคิดนะ ได้โปรดมอบความรักให้ฉันหน่อย”

เธอปิดท้ายด้วยการบอกว่า

“เพราะว่าฉันไม่เก่งเวลาที่จะแสดงตัวตนของตัวเองออกไป ยกเว้นเวลาแสดง ฉันหวังว่าจะมีโอกาสมากขึ้นที่จะสื่อสารกับสาธารณะชนผ่านโปรเจคดีๆ”