วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ช่อง JTBC ได้จัดงานแถลงข่าวซีรีส์เรื่องใหม่ “Thirty-Nine” ที่มีนักแสดงนำได้แก่ ซนเยจิน (Son Ye Jin), จอนมีโด (Jeon Mi Do), คิมจีฮยอน (Kim Ji Hyun), ยอนอูจิน (Yeon Woo Jin), อีมูแซง (Lee Moo Saeng), อีแทฮวาน (Lee Tae Hwan) และผู้กำกับ คิมซังโฮ เข้าร่วมงาน

คลิก!!!

เรื่อง Thirty-Nine เป็นเรื่องราวของเพื่อนรัก 3 คนที่รับบทโดย ซนเยจิน, จอนมีโด และคิมจีฮยอน พวกเธอรู้จักกันมาตั้งแต่เรียน ม.ปลาย ปี 2 และตอนนี้กำลังจะอายุครบ 40 ปี ซึ่งเล่าเรื่องของหญิงสาววัย 39 ที่ได้เจอกับเรื่องราวไม่คาดฝันในชีวิต รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์กับ ยอนอูจิน, อีมูแซง และอีแทฮวาน

ผู้กำกับคิมซังโฮ ได้อธิบายว่า ทำไมถึงสนใจอายุ 39 แทนที่จะเป็นช่วงอายุอื่น “ขอยืมเอาคำพูดของนักเขียนบท ยูยองอามานะครับ เธอบอกว่าอายุ 39 คือวัยที่เต็มไปด้วยความกังวลเพราะจะอายุ 40 แล้ว เวลาประสบความสำเร็จก่อนอายุ 40 ก็ดูว่าเร็วไป แต่อายุ 40 ก็ดูสายไปที่จะเริ่มต้นทำอะไรใหม่ ผมเลยอยากเล่าเรื่องของช่วงวัยที่เต็มไปด้วยความกังวล เราอยากจะถ่ายทอดเรื่องราวของเพื่อน 3 คนที่กำลังจะอายุย่างเข้าเลข 4 การยอมรับมัน และการก้าวต่อไปข้างหน้าจากจุดเปลี่ยนนี้”

เรื่องนี้เป็นผลงานคัมแบคของ ซนเยจินในรอบ 2 ปีหลังจากเรื่อง Crash Landing On You เมื่อช่วงต้นปี 2020 เธอพูดถึงเหตุผลที่เลือกร่วมงานกับเรื่อง Thirty-Nine ว่า “บทละครสนุกตั้งแต่เริ่มต้นเลยค่ะ ฉันอ่านบทจบไวมาก และคำพูดตัวละครก็ตลกมากด้วย ถ้าตอนนี้ฉันไม่ได้อายุเท่านี้ ฉันจะแสดงโปรเจคแบบนี้ยังไงละคะ? เพื่อประโยชน์ของตัวฉันเองค่ะ ถึงแม้ว่าถ้ามีบทแบบนี้เสนอมาอีกฉันก็คงจะทำอีกเช่นกัน”

ซนเยจินพูดต่อ “ฉันเข้าถึงบทในช่วงอายุนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งชีวิตของผู้หญิงคนนี้และความโรแมนติกในชีวิตของเธอ เข้าถึงได้จนแอบสงสัยว่านักเขียนบทแอบติดกล้องไว้ในบ้านฉันหรือเปล่า มีหลายฉากเลยที่ทำให้ฉันคิดว่า ‘นี่เป็นคำพูดที่ฉันพูดในชีวิตจริงนี่นา?’ และตัวละครชามีโจก็ชอบตีกอล์ฟมาก และฉันก็ชอบกอล์ฟด้วย นั่นแหละค่ะที่ทำให้ฉันเข้าถึงตัวละครได้เป็นอย่างมากเลย”

ซนเยจินยังได้พูดถึงงานแต่งงานของเธอกับ ฮยอนบิน (Hyun Bin) ที่เพิ่งประกาศว่าจะเข้าประตูวิวาห์กันเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซนเยจินถาม พัคซึลกิ ที่รับหน้าที่พิธีกรในงานว่า “เป็นยังไงบ้างคะ? ก็คุณแต่งงานแล้วใช่ไหม?” พัคซึลกิตอบว่า “มันดีมากเลยค่ะ” ซึ่งซนเยจินบอกว่า “ฉันหวังว่าฉันก็จะเป็นอย่างนั้นค่ะ ฉันอยากขอบคุณทั้งโดยส่วนตัวและในฐานะนักแสดง มีเรื่องราวสำคัญเกิดขึ้นกับฉันตั้งแต่ต้นปี 2022 และฉันเชื่อว่ามันคือโชคชะตา ฉันได้รับข้อความแสดงความยินดีเยอะมาก ฉันเลยอยากจะใช้โอกาสนี้พูดคำขอบคุณค่ะ”

จากนั้นทั้ง 3 นักแสดงร่วมพูดคุยถึงเคมีของพวกเธอ ซนเยจินบอกว่า “แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้พยายามทำตัวสนิทกัน แต่เราก็สนิทกันค่ะ ตอนที่พบกับจอนมีโดครั้งแรกฉันอยากงับเธอค่ะ [เพราะเธอน่ารัก] และแม้ว่าคิมจีฮยอนจะดูเย็นชา แต่ยิ่งรู้จักก็ยิ่งชอบเธอค่ะ”

จอนมีโดบอกว่า “คิมจีฮยอนและฉันเป็นเพื่อนกันมา 10 ปีแล้วค่ะ เราเคยเล่นบทเดียวกัน และเล่นโปรเจคเดียวกันแต่คนละตัวละคร ตอนแรกเราทั้งคู่เป็นแฟนคลับของซนเยจินค่ะ เพราะว่าฉันไม่ค่อยได้แสดงซีรีส์ ฉันเลยยังขาดตกบกพร่องอีกมาก ฉันเลยมักจะถาม ‘โปรซน’ หรือ ‘รุ่นพี่ซน’ ให้สอนอยู่ตลอดค่ะ เธอสอนฉันหลายอย่างเลย และฉันคิดว่านั่นทำให้เราสนิทกันเร็วขึ้น”

สำหรับความแตกต่างของ Thirty-Nine และซีรีส์เรื่องอื่น คิมซังโฮ บอกว่า “เราอยากจะถ่ายทอดมิตรภาพระหว่างมนุษย์ 3 คน มากกว่า ผู้หญิง 3 คน เราพยายามสุดความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ในแบบที่มนุษย์ทุกคนเคยรู้สึก” จอนมีโดพูดพร้อมรอยยิ้ม “ฉันไม่ค่อยเห็นซีรีส์ โวแมนซ์ (wo-mance) มากเท่าไหร่ แต่ฉันคิดว่าเราน่าจะเป็นกลุ่มที่มีอายุมากที่สุดแล้ว ประสบการณ์และความโรแมนติกของพวกเราเป็นสิ่งที่จะทำให้น่าติดตาม”

คิมจีฮยอนบอกว่า “ตอนที่ฉันได้ดูวิดีโอ มีฉากที่มีบรรยากาศของ โวแมนซ์ ที่ปรากฏในปัจจุบัน แต่ยังมีฉากที่เกิดขึ้นในอดีตด้วย เรามีนักแสดงวัยรุ่นมารับบทเป็นพวกเรา และมีฉากอีกนิดหน่อยที่เราได้ใส่ชุดที่ทำให้เราเด็กลง เป็นการถ่ายทำที่สนุกดีค่ะ” จอนมีโดพูดขึ้นมาอย่างตลกว่า “แต่เราไม่ได้ดูเด็กเลยนะ”

นักแสดงทั้ง 3 คนยังได้พูดถึงเรื่องโรแมนติกในจอของพวกเธอ คิมจีฮยอนบอกว่า “ในเรื่อง Thirty-Nine ความโรแมนติกระหว่างฉันกับอีแทฮวานเป็นแบบน่ารักุ๊กกิ๊ก [ไม่ใช่เผ็ดร้อน] ค่ะ เป็นความโรแมนติกที่ผลิบานเต็มที่ ความสัมพันธ์ที่ดีต่อสุขภาพ แต่ตัวละครของฉันไม่เคยออกเดทมาก่อนและเป็นคนระมัดระวังในการเจอใครซักคนที่อายุน้อยกว่าเธอ เป็นความโรแมนติกแบบไม่หวือหวา และไม่มีการแต่งเติมรสชาติใดใดค่ะ”

จอนมีโดบอกว่า “คู่เรามีเรื่องราวค่ะ [ตัวละครของเรา] เจอกันหลายครั้ง ถึงแม้จะทำตัวบ้าบอ แต่จริงๆแล้วก็มีเรื่องเศร้าอยู่ มันเลยยากที่จะอธิบายในคำเดียวค่ะ ฉันหวังว่าคุณจะติดตามความสัมพันธ์ของเราว่าจะเกี่ยวข้องและได้บทสรุปแบบใด”

ซนเยจินพูดต่อ “ตัวละครของ ยอนอูจิน สมบูรณ์แบบมาก มากจนแบบฉันไม่คิดว่ามีผู้ชายแบบเขาในโลก เขาเป็นคนที่แสดงความโรแมนติกออกมาเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายและเป็นคนคิดถึงคนอื่น พร้อมที่จะให้อภัยคนอื่นเสมอ ฉันเลยคิดว่าคุณจะสนุกเวลาคิดว่าตัวเองเป็นตัวละครของฉันค่ะ”

สุดท้าย นักแสดงทั้ง 6 คนได้พูดถึงความหมายของ Thirty-Nine ที่มีต่อพวกเขา อีแทฮวานบอกว่า “ผมยังมีเวลา 11 ปีกว่าจะอายุครบ 39 ครับ ผมคิดว่าผมคงจะมีกล้ามเนื้อมากกว่านี้ ผมคิดว่าคงจะรู้สึกแตกต่างไปถ้าได้ดูเรื่อง Thirty-Nine ตอนอายุเท่านั้น นี่เป็นแค่ความหวังของผมนะครับ แต่ว่าภายใน 11 ปีนี้ผมอยากจะแสดงเรื่อง ‘Forty-Nine’ กับนักแสดงกลุ่มเดิม”

อีมูแซงบอกว่า “อายุ 39 ดูห่างไกลกับผมในตอนนี้ แต่ผมได้ยินคนพูดกันว่า อายุ 40 คือวันที่คุณจะไม่รู้สึกหวั่นไหวอีก มีคนบอกว่าเป็นอายุที่คุณจะไม่เอนเอียงกับการตัดสินใจของตัวเอง แต่ว่าตอนอายุ 39 ผมก็รู้สึกกังวลเยอะแยะเลย อย่างไรก็ตามทุกวันนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจกับการตัดสินใจอยู่ และผมคิดว่าก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ในอนาคต สุขภาพใจของผมทุกวันนี้ก็คือ ถึงแม้จะไม่มั่นใจ แต่อย่าไปกังวลมาก มันทำให้ผมผ่อนคลายมากขึ้นและรู้สึกมีอิสระมากขึ้น ผมหวังว่าทุกคนจะเป็นแบบนี้เช่นกัน แม้ว่าคุณจะสั่นคลอน แต่ก็ไม่แตกสลาย”

ยอนอูจินบอกว่า “ตอนนี้ผมอายุ 39 ปีครับ และมีเรื่องกังวลหลายอย่าง แต่ผมกำลังคิดว่าทำยังไงให้ปีนี้ทำตามสิ่งที่ตั้งเป้าเอาไว้ได้ ผมไปตรวจสุขภาพครับ และไม่เคยไปเที่ยวคนเดียวเลย แต่ผมอยากลองซักครั้ง ระหว่างวันหยุด ถ้ามีคนที่อายุ 39 ปีเหมือนกัน ผมก็อยากจะเข้าไปทักทายเขา”

คิมจีฮยอนบอกต่อว่า “อาจฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่ว่าเวลาเราอยู่ด้วยกัน ฉันพูดได้เลยว่าเรากลับไป 39 ปีอีกครั้ง คุณจะเห็นชีวิตวัย 39 ของฉันผ่านซีรีส์เรื่อง Thirty-Nine จอนมีโดเพิ่มเติมว่า “ฉันเริ่มออดิชั่นตอนอายุ 39 ปี และได้บทในเรื่อง Hospital Playlist มันเป็นช่วงที่สำคัญกับฉัน และนั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมาร่วมงานกับเรื่อง Thirty-Nine ค่ะ”

ซนเยจินบอกว่า “ผู้คนมักพูดถึงความเชื่อเกี่ยวกับเลข 9 อย่างไรก็ตามฉันเริ่มเป็นนักแสดงมาตั้งแต่วัย 20 ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะอายุ 40 หลังจากอายุ 30 ด้วยซ้ำ ฉันไม่เคยคิดหรือจินตนาการถึงชีวิตหลังวัย 40 ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้อยู่ๆฉันก็อายุ 40 แล้วค่ะ มันทำให้ฉันคิดได้ว่าอายุก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ถ้ามีคนถามว่าคุณเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นหรือเปล่าเพราะว่าอายุ 40 แล้ว ฉันไม่คิดว่าอย่างนั้นนะคะ เรื่องนี้ถูกพูดในซีรีส์ของเราเช่นกัน ‘เรากินต็อกโบกีกันตอนเป็นนักเรียน ม.ปลาย แต่ฉันไม่รู้ว่าเราจะกินมันอีกไหมถ้าอายุเข้าเลข 4’ เราเป็นวัยรุ่นที่หัวใจค่ะ มีแค่ตัวเลขที่เปลี่ยน ฉันหวังว่าคุณจะไม่โฟกัสที่ตัวเลข และใช้ชีวิตในแต่ละช่วงเวลาต่อไป”

ผู้กำกับของเรื่องปิดท้ายว่า “ซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้คุณสนุกกับการแสดงที่ลงรายละเอียดของนักแสดง ผมอยากจะถ่ายทอดการแสดงที่ยอดเยี่ยมให้ได้ชมโดยที่ไม่ทำลายส่วนไหนเลย คุณจะสนุกไปกับการรับชมหากคุณโฟกัสถึงอารมณ์การแสดง”

Thirty-Nine ออกอากาศตอนแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ และจะออกอากาศทุกวันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 22.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเกาหลี)

ที่มา ( 1 )