ผู้กล่าวหาว่า โจบยองกยู (Jo Byeong Gyu) เคยกระทำพฤติกรรมรุนแรงในโรงเรียน ได้ออกมาตอบโต้หลังจากต้นสังกัดของนักแสดงหนุ่มบอกว่าพวกเขาออกมาขอโทษ
คลิก!!!
|
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ได้มีชาวเน็ตคนหนึ่งอ้างว่าเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นของ โจบยองกยู ตอนเรียนมัธยมปลายที่นิวซีแลนด์ กล่าวหาว่าเขาเคยด่าว่า และเล่นมุกหยาบคายสมัยเป็นนักเรียน อย่างไรก็ตาม ต้นสังกัดของโจบยองกยูได้ออกมาปฏิเสธ จากนั้นคนที่โพสข้อความดังกล่าวได้ลบโพสและออกมาขอโทษ อย่างไรก็ตาม ได้มีชาวเน็ตอีกคนหนึ่งออกมาเขียนกล่าวหาว่า โจบยองกยู เคยรังแกพวกเขาสมัยเรียนประถมและมัธยมต้น ซึ่งทางด้านโจบยองกยูได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้เช่นกัน ต้นสังกัดของโบยองกยูประกาศจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับทุกคนที่ออกมากล่าวหาโจบยองกยูเกี่ยวกับเรื่องพฤติกรรมความรุนแรงในโรงเรียน และโจบยองกยูเองได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ด้วยตัวเองเช่นกัน ยังมีผู้โพสคนอื่นอีกหลายคนที่ออกมากล่าวหาโจบยองกยู หนึ่งในนั้นบอกว่าต้นสังกัดของโจบยองกยูขู่พวกเขา ซึ่งโจบยองกยูออกมาบอกด้วยตัวเองว่าไม่เป็นความจริง
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ผู้กล่าวหาได้ออกมาโพสข้อความว่า:
“เมื่อวาน ฉันได้รับโทรศัพท์หลายสาย และได้เช็คบทความและคำชี้แจงของต้นสังกัด
อยากจะบอกให้ชัดเจนว่า ฉันไม่เคยเขียนจดหมายขอโทษหรือขอประณีประนอมเลย และไม่คิดจะทำ
ทุกสิ่งที่ต้นสังกัดปล่อยออกมาซึ่งเกี่ยวข้องกับฉันเป็นการเล่นกับสื่อเท่านั้น ต้นสังกัดรู้ว่าฉันเป็นใครอยู่แล้วก่อนที่ตำรวจจะส่งหมายเรียก และญาติของฉันที่เกาหลีบอกว่ามีการเรียกตัวฉันไปสอบปากคำเกี่ยวกับคดีหมิ่นประมาท แต่ฉันไม่สามารถไปได้
ต้นสังกัดเรียกฉันว่าผู้ต้องหา ทั้งที่จริงฉันเป็นแค่พยาน ถือเป็นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ หรือ ต้นสังกัดควรจะแจ้งฉันหน่อยว่าฉันกลายเป็นผู้ต้องสงสัยโดยที่ไม่รู้ตัวได้อย่างไร
การปิดปากเงียบจากการตั้งคำถามของสังคม ก็เหมือนการปิดตาเพื่อไม่ให้มองเห็นความจริง ฉันขอให้ซีอีโอมุนออกมาแสดงจุนยืน ต่อ
1. การตั้งคำถามขอสาธารณะชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจริงเกี่ยวกับ “W”
2. ข้ออ้าง [ของบริษัท] ที่บอกว่าฉันขอประณีประนอม
3. เหตุผลที่ฉันกลายเป็นผู้ต้องสงสัย
ตอนนี้ฉันพยายามงดการเขียนข้อความในพื้นที่สาธารณะ และกำลังเตรียมดำเนินการตามกฎหมายในนิวซีแลนด์ แต่ดูเหมือนการที่ต้นสังกัดควบคุมสื่อจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เหมือนว่าต้นสังกัดจะพยายามปกปิดความจริงด้วยคำโกหก และท้ายที่สุด ฉันรอให้ซีอีโอออกมาตอบสนองอีกครั้ง และอธิบายคำโกหกนั้นทีละข้อ ด้วยหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อเปิดเผยความจริง
ถ้ามั่นใจ ทำไมไม่ออกมาให้สาธารณะชนตรวจสอบละ?”
ทางด้านต้นสังกัดได้ออกมาตอบโต้ตามข้อความข้างล่าง พร้อมด้วยภาพแคปหน้าจอเป็นคำขอโทษจากผู้กล่าวหา:
สวัสดี, HB Entertainment ขอเพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จเกี่ยวกับนักแสดง โจบยองกยู
1. ผู้ต้องสงสัย ที่โพสข้อความในเว็บไซต์ Nate Pann อ้างว่า โจบยองกยู ยิงพวกเขาด้วยปืน BB และยึดสนามฟุตบอลตอนเรียนประถม ยอมรับกับทีมสอบสวนไซเบอร์ของสถานีตำรวจ Bucheon Wonmi แล้วว่าข้อความนั้นเป็นเท็จ และส่งคำขอโทษมายังต้นสังกัดดังนี้:
[คำขอโทษ 1]“สวัสดี ฉันคือหนึ่งในคนที่เขียนว่า ‘ฉันคือเหยื่อจากพฤติกรรมรุนแรงในโรงเรียนของโจบยองกยู’ ที่โพสใน Nate Pann เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ปี 2021 ก่อนอื่น ฉันต้องขอโทษนักแสดงที่ทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากจากการโพสข้อความที่ไม่เป็นความจริงบนอินเตอร์เน็ต และทำลายชื่อเสียงของเขา ฉันเขียนจดหมายนี้ขึ้นมาเพราะรู้สึกสำนึกแล้วว่าสิ่งที่ตัวเองเขียนนั้นได้ทำลายกิจกรรมในวงการบันเทิงและชีวิตประจำวันของเขา ตอนที่เขียนโพส ฉันไม่คิดว่าข้อความของฉันจะส่งผลกระทบต่องานในวงการบันเทิงของเขา และฉันเขียนไปโดยไม่ทันคิดว่ามันจะมีผลกระทบร้ายแรงเพียงใด หลังจากได้เห็นโจบยองกยูเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากจากข้อความที่ฉันเขียน ฉันอยากขอโทษเขาอีกครั้ง และฉันสำนึกแล้วว่าตัวเองได้ทำลายใครหลายคน อยากบอกอีกครั้งว่า ฉันขอโทษที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น และทำให้โจบยองกยูต้องเจ็บปวด”
2. คิม, ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยที่โพสอินสตาแกรมว่าพวกเขาถูกทำร้ายทางวาจา และถูกโจบยองกยูตีด้วยร่มตอนที่เรียนอยู่ที่นิวซีแลนด์ แต่ทว่า คิมได้ขโมยภาพเฟสบุ๊คของเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนหนึ่งมา และทำเหมือนว่าเขารู้จัก โจบยองกยู แต่เขาไม่ใช่คนในรูปและไม่เคยติดต่อกับ [โจบยองกยู] ด้วยซ้ำ คนรู้จักของคิมติดต่อมายังตัวแทนกฎหมายของโจบยองกยูก่อน และส่งจดหมายขอโทษตามข้างล่างนี้มาในนามของคิม
[คำขอโทษ 2]“วันนี้ ฉันได้โพสข้อความเพื่อบอกว่าจะไม่มีการโพสข้อความผ่านทางบัญชีนี้แล้ว ภาพและเนื้อหาทุกอย่างที่เผยแพร่ผ่านบัญชีนี้อาจจะก่อนให้เกิดปัญหาด้านกฎหมายในอนาคต ดังนั้นฉันขอให้ทุกคนลบมันไป
ฉันอยากแจ้งว่าทุกอย่างที่อัพโหลดบนบัญชีนี้เป็นเรื่องไม่จริง
และขอแจ้งว่าภาพที่โพสในบัญชีนี้ได้มาจาก Facebook ของคนรู้จักของฉันโดยที่พวกเขายังไม่ยินยอม ฉันขอโทษพวกเขาจากใจที่ทำให้เสียหายจากการนำรูปสมัยเป็นนักเรียนของพวกเขามาใช้จนถูกเผยแพร่ไปทั่วอินเตอร์เน็ต
ฉันโพสข้อความขอโทษนี้ด้วยความตั้งใจของฉันเอง
ฉันขอโทษทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเนื้อหาในบัญชีนี้ตลอดไม่กี่วันที่ผ่านมา
ถึงทนายความ ได้โปรดอ่านข้อความข้างต้น และโปรดแจ้งกลับมาหากมีส่วนที่ต้องแก้ไข ผู้กล่าวหาไม่อยู่ในสภาวะจิตใจที่สมบูรณ์ เราพยายามช่วยเหลือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หวังว่าคุณจะร่วมมือกันกับเรา”
เมื่อไม่นานมานี้ โจบยองกยู ออกมาบอกว่าเขาได้รับคำขอโทษจากผู้กล่าวหาที่แจ้งกับสถานีตำรวจ Bucheon Wonmi ซึ่งไม่เกี่ยวกับคำขอโทษของคิม ที่เป็นผู้ต้องสงสัยของสถานีตำรวจ Gangnam
อย่างไรก็ตาม คิม ได้ออกมาโต้แย้งว่า เขาไม่เคยเขียนจดหมายขอโทษ และไม่เคยขอให้มีการประณีประนอม คนรู้จักของคิมได้พูดคุยกับคิม และส่งจดหมายขอโทษมาให้ พร้อมทั้งอาสาลบข้อมูลเท็จ
ทว่าท่าทีของคิมเปลี่ยนไป หลังจากที่ต้นสังกัดบอกเขาว่าการประณีประนอมเป็นไปได้ยาก ทำให้เขาทำลายชื่อเสียงของโจบยองกยูและต้นสังกัดต่อด้วยข้อมูลเท็จ
จากประเด็นนี้ ทำให้เราเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจกังนัม เกี่ยวกับข้อความเท็จของคิม และคิมเป็นผู้ต้องสงสัย ไม่ใช่พยาน หมายเลขคดีคือ 2021Hyungjae0041** และเมื่อไม่นานมานี้ เราได้ร้องขอการควบคุมการเข้าประเทศของอาชญากร จนกว่าเราจะสามารถระบุที่อยู่ของผู้ต้องสงสัยได้
เราไม่ออกมาทำตามข้อเรียกร้องของคิมที่บอกให้สาธารณะชนตรวจสอบ เพราะไม่มีความหมายหรือไม่มีเหตุผลที่จะออกมาตอบโต้ แต่การที่พวกเขายังเผยแพร่ข้อความเท็จซ้ำ และบ่อนทำลายชื่อเสียง ทั้งของนักแสดงและต้นสังกัด ทำให้เราตัดสินใจออกมาชี้แจงตามข้อความข้างต้น
แทนที่จะยืนยันว่าให้สาธารณะชนตัดสินผ่านโลกออนไลน์ที่ระบุตัวตนไม่ได้ คิมควรจะเข้าประเทศเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
1.สำหรับ W นั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับต้นสังกัด ที่บอกว่า W เป็นพนักงานของบริษัทนั้นไม่มีมูล ได้โพสตรวจสอบกับ W โดยตรงก่อนจะออกมาพูดถึง W แล้วได้โปรดหยุดกล่าวหาต้นสังกัดอย่างไม่มีมูลโดยทันที
2. คนรู้จักของคุณติดต่อตัวแทนกฎหมายของโจบยองกยูมาก่อน พร้อมส่งคำขอโทษในนามของคุณเข้ามา และขอให้มีการประณีประนอม
3. คุณคือผู้ต้องสงสัยในคดีหมายเลข 2021Hyungjae0041** ของสถานีตำรวจกังนัม ในข้อหาทำผิดกฎหมายส่งเสริมการใช้เครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล ซึ่งมาจากข้อความเท็จที่โพสบนอินสตาแกรม
คุณเป็นผู้ต้องสงสัยจากการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและหมิ่นประมาท จึงไม่มีเหตุผลที่จะบอกว่าผู้ต้องสงสัยเป็นพยาน เพราะพยานหมายถึงบุคคลที่ 3 ที่ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยว่ากระทำผิด เพราะฉะนั้นหยุดออกมากล่าวหาด้วยคำพูดที่ไม่เป็นความจริง
การตรวจสอบโดยสาธารณะชนที่คุณเรียกร้องทั้งหมด จะถูกตรวจสอบผ่านกระบวนการยุติธรรม เพราะฉะนั้นได้โปรดหยุดต่อต้านหมายเรียกให้มาให้ปากคำ และหยุดการกระทำที่ผิดกฎหมายทันที
เราจะตอบโต้ทุกทางที่เป็นไปได้ ทั้งทางกฎหมายอาญาและอาชญากรรม เพื่อต่อต้านการกระทำที่ทำลายชื่อเสียงของศิลปินด้วยข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง และไม่ได้รับการยืนยันบนโลกออนไลน์ที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้”
ที่มา soompi