สำหรับแฟนซีรีส์เกาหลี คงมีหลากหลายเหตุผลที่ทำให้คุณชื่นชอบการรับชมซีรีส์ในแต่ละเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง หรือตัวละคร และหากพูดถึงตัวละครหญิง หรือนางเอกของเรื่อง เราจะเห็นว่าซีรีส์หลายเรื่องเลยทีเดียวที่มีบทให้ตัวละครหญิงเหล่านี้น้อยกว่าตัวละครพระเอก รวมถึงความคิดของตัวละครที่ต้องมีจิตใจโอบอ้อมอารี ต้องคอยคิดว่า ‘ฉันจะสามารถช่วยอะไรเขาได้บ้างนะ’ หรือ ต้องคอยเดาความคิดของอีกฝ่ายว่า ‘เขาต้องการอะไรกันแน่’ จนหลายครั้งก็แอบขัดใจว่าทำไมพวกเธอถึงไม่คิดถึงตัวเองบ้าง
คลิก!!!
|
แต่ในความเป็นจริง ยุคนี้ก็มีสาวมั่นมากขึ้น บทตัวละครนางเอกที่มีความมั่นใจและเด็ดเดี่ยวในความคิดของตัวเองก็มีให้เห็นกันมากขึ้นเช่นกัน พวกเธอกล้าที่จะเปิดเผยความคิด, ความรู้สึก, แน่วแน่กับเส้นทางที่เลือก มากกว่าจะไปยึดติดกับบทนางเอกเดิมๆที่ต้องคอยคิด คอยใจดีกับผู้อื่นหรือพระเอกอยู่ตลอด ถ้าคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่มีบทนางเอกเป็นสาวมั่น มีความคิดเป็นของตัวเองที่ดูแล้วไม่รู้สึกลำไยในความนางเอ๊ก นางเอกอยู่แล้วล่ะก็ ลองไปเลือกซีรีส์ที่เราเตรียมมาให้อ่านกันดู คุณอาจจะเจอเรื่องที่ใช่ นางเอกที่ชอบก็เป็นได้!
คำเตือน : มีสปอยล์เล็กน้อยนะจ๊ะ
คังโมยอน – “Descendants of the Sun”
คังโมยอน (รับบทโดย ซงฮเยคโย (Song Hye Kyo)) คุณหมอหัวร้อนแห่ง Descendants of the Sun เธอเป็นผู้หญิงเก่ง เด็ดเดี่ยว เข้มแข็ง เชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง เราจะเห็นได้จากตอนที่เธอพูดคุยเกี่ยวกับอาชีพแพทย์ของเธอกับ กัปตัน ยูชีจิน (รับบทโดย ซงจุงกิ (Song Joong Ki)) ที่ถึงแม้จะตรงกันข้ามกับอาชีพของเขา แต่เธอกลับกล้าที่จะพูดออกมาว่าเส้นทางของเธอกับเขานั้นแตกต่างกัน เธอมีหน้าที่ช่วยชีวิต ในขณะที่งานของเขาสามารถฆ่าคนได้
ผมคิดว่างานของผมทำให้ประเทศมีอิสระและสันติภาพ
ฉันเป็นหมอค่ะ
ชีวิตนั้นมีเกียรติค่ะ และฉันไม่คิดว่ามีสิ่งอื่นใดสำคัญไปกว่านี้แล้ว
หลังจากเธอได้เดินทางไปอุรุก ดูเหมือนคังโมยอนจะเข้าใจงานของชีจินมากขึ้น แต่แทนที่เธอจะทำตามที่เขาบอก เธอกลับทำงานร่วมกันกับเขาแทน ถึงแม้หลายครั้งหลายหนมันจะไม่เวิร์ค เพราะยูชีจินนั้นมีประสบการณ์มากกว่าในสถานการณ์แบบนี้ หมอคังของเราก็ยังคงไม่หมดความมั่นใจ เธอยังคงกล้าหาญ เชื่อว่าถ้าทำงานด้วยกันทุกอย่างจะดีกว่านี้!
ถ้าเกิน นาทีแล้วผมยังไม่ออกไป คุณไปได้เลยไม่ต้องรอผม
รีบขึ้นมาค่ะ ฟาติมา ขึ้นรถมา!
ความกล้าหาญของคังโมยอน รวมถึงความเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง สุดท้ายแล้วก็ทำให้เธอกลายเป็นคนที่ช่วยเหลือหลายคนได้ เพราะฉะนั้นจงอย่าประเมินตัวเองต่ำไป มั่นเข้าไว้แล้วไปให้สุด!
ฮันแจยี – “Come and Hug Me”
จินกีจู (Jin Ki Joo) รับบทเป็น ฮันแจยี หญิงสาวใจสู้ในเรื่อง “Come and Hug Me” ซึ่งได้รับการกระทบกระเทือนจากช่วงเวลาเลวร้ายในวัยเด็ก เธอเห็นพ่อแม่ถูกฆ่าตาย ส่วนตัวเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อเติบโตขึ้นก็ต้องมาเผชิญกับความวุ่นวายในวงการนักข่าว, โรคจิต รวมถึงฆาตกรต่อเนื่อง
จากทุกสิ่งที่ถาโถมเข้ามา เป็นเรื่องง่ายมากที่จะเข้าใจหากแจยีจะล้มเลิกเส้นทางที่เธอเลือกเดิน แต่เธอกลับยึดมั่นในการตัดสินใจของตนเอง และกล้าที่จะรักกับ แชโดจิน (รับบทโดย จางกียง (Jang Ki Yong) ลูกชายของฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ของตนเอง เธอรู้มากกว่าที่คนอื่นรู้ เขาไม่เหมือนพ่อของเขา เธอรู้ว่าการใช้ชีวิตด้วยการตัดสินใจของตนเองนั้นมีความสุขมากกว่าการดำเนินชีวิตตามสิ่งที่คนอื่นอยากให้เป็น
คุณรู้ไหม?
ฉันอยากมีความสุขให้มากกว่าเมื่อก่อน
และอีกฉากหนึ่งที่ทำให้หลายคนชื่นชมตัวละครตัวนี้คือการที่เธอกล้าเผชิญหน้ากับ ยุนฮีแจ (รับบทโดย ฮอจุนโฮ (Heo Joon Ho) ฆาตกรที่ฆ่าครอบครัวของเธอ ที่ถึงแม้เธอจะกลัว แต่ก็ยังกล้าพอที่จะทวงถามคำขอโทษให้แก่ครอบครัวของตัวเอง
ขอโทษฉัน
ฉันบอกให้ขอโทษฉัน
แทนที่จะปล่อยให้ความกลัวครอบงำ แต่เธอกลับควบคุมสถานการณ์และแสดงความกล้าหาญของตัวเองออกมา
ฮามุนซู – “Just Between Lovers”
ฮามุนซู (รับบทโดย วอนจีอา (Won Jin Ah)) หญิงสาวผู้โชคร้ายไม่ต่างกับฮันแจยี เธอคือผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ S Mall ถล่ม และสูญเสียน้องสาว แต่แทนที่จะจมอยู่กลับความเศร้า เธอกลับลุกขึ้นมาทำงานออกแบบห้างสรรพสินค้าใหม่ รวมถึงสร้างอนุสรณ์สถาน ถึงแม้จะขัดแย้งกับแม่ แต่มุนซูก็ยังยืนยันในสิ่งที่ตัวเองเลือกต่อไป
หญิงสาวคนนี้ทำให้ผู้ชมประทับใจในความตรงไปตรงมาและความกล้าที่จะซื่อตรงเพื่อประคับประคองความรักของเธอกับ อีคุงโฮ (รับบทโดย จุนโฮ (Junho)) ซึ่งสูญเสียจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเช่นกัน เมื่อมุนซูรู้สึกสิ้นหวัง คังดูอยู่เคียงข้างเธอเสมอ และเมื่อเขาต้องการกำลังใจในเวลาที่รู้สึกแย่ เธอก็พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเขาเช่นกัน
ผมบอกให้ไปไงล่ะ
ฉันไม่อยากไป
ตอนที่ฉันทำตัวโง่เง่าและไม่มีสติ คุณอยู่ข้างฉัน
เพราะฉะนั้นฉันก็อยากอยู่ข้างคุณเหมือนกัน
ตัวละครตัวนี้สอนให้เรารู้ว่า ชีวิตของคนเรานั้นควรจะดำเนินต่อไป ไม่ควรนำเรื่องราวในอดีตมาดึงชีวิตในปัจจุบันของเราให้จมลงไปด้วย
จีโฮ, ซูจี และ โฮรัง – “Because This Is My First Life”
ซีรีส์เรื่อง “Because This Is My First Life” รวมตัวละครหญิง 3 บุคลิกเข้าไว้ด้วยกัน ทั้ง ยูจีโฮ (รับบทโดย จองโซมิน (Jung So Min)), อูซูจี (รับบทโดย อีซม (Esom)) และ ยังโฮรัง (รับบทโดย คิมกาอึน (Kim Ga Eun)) ที่ถึงแม้จะมีบุคลิกแตกต่างกัน แต่พวกเธอทุกคนล้วนมีความคิดและแนวทางเป็นของตนเอง
จีโฮ หญิงสาวค่อนข้างขี้อายและและดูเหมือนอ่อนประสบการณ์ แต่เวลาที่เธอต้องตัดสินใจแก้ปัญหา เราจะได้เห็นมุมมองการตอบสนองต่อปัญหาในแบบที่แตกต่างออกไป เธอค่อยๆคิด และหาวิธีที่ดีกับเธอมากที่สุด อย่างฉากที่เธอพูดกับเพื่อนร่วมงานของตนเองที่พยายามบอกให้เธอลืมเรื่องราวที่เกือบถูกลวมลาม
นักเขียนยุน ทำไมคุณพูดคำหยาบแบบนั้น?
หยุดพูดก่อนที่ฉันจะส่งคุณเข้าคุกเถอะ
ฉันจะไม่ดราม่าเรื่องนี้อีกแล้ว
เพราะฉะนั้นไม่ต้องติดต่อฉันมาอีก
นอกจากนี้ตอนที่เธอตัดสินใจแต่งงานแบบหลอกๆกับ เซฮี (รับบทโดย อีมินกิ (Lee Min Ki)) เพื่อแก้ปัญหาของตนเอง เธอไม่ปล่อยให้ใครมาออกความเห็นเกี่ยวกับการตัดสินใจของตนเองด้วยซ้ำ ถ้าคิดจะทำอะไรแล้ว บางครั้งเราก็ต้องไปให้สุด แม้ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
ถึงแม้เธอจะดูอ่อนแอและขี้อาย แต่จริงๆแล้วเธอเข้มแข็ง
เธอจะไม่ยอมให้ตัวเองถูกมองว่าน่าสงสาร
ต่อกันที่ อูซูจี ตัวละครที่น่าจะดุสุดใน 3 คนนี้ และเป็นตัวละครที่ซับซ้อน สะท้อนถึงความยากในการรับมือกับสังคมการทำงานในปัจจุบัน
ชีวิตส่วนตัวของซูจีเธอก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่าไปจากที่เธอตั้งข้อตกลงไว้ อย่างที่เธอบอก มาซังกู (รับบทโดย พัคบยองอึน (Park Byung Eun)) ตอนที่เขาดูเหมือนจะข้ามเส้นมากเกินไปและละเมิดสัญญา
ทำไมฉันถึงคิดว่าคุณกำลังหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองอยู่ล่ะ?
ส่วนในที่ทำงาน ถึงเธอจะถูกนินทาให้เสียหายแค่ไหน แต่เธอก็เลือกจะไม่ตอบโต้ แม้ว่าซังกูจะพยายามบอกให้เธอแก้ตัวก็ตาม เธอยังยืนยันในความคิดของตนเองและไม่ปล่อยให้เขาแก้ปัญหาให้เธอ ไม่มีประโยชน์ที่จะไปบอกความจริงแก่ผู้คนที่เลือกเชื่อไปแล้ว
เวลาต้องไปกินข้าวกับบริษัทด้วยกัน ฉันเอาแต่คิดว่าจะยิ้มได้ยังไงเวลาคุณพูดเสียดสีเกี่ยวกับเรื่องเพศ
เวลาอารมณ์ไม่ดี ฉันก็เอาแต่คิดว่าคุณจะถามว่า ‘วันนั้นของเดือนเหรอ’ หรือเปล่า
ครับ แล้วตกลงคุณอยากพูดว่า
ฉันอยากขอโทษค่ะ
คนสุดท้ายคือ โฮรัง หญิงสาวที่รู้ว่าตนเองต้องการอะไร ตลอดทั้งเรื่องเธอประกาศชัดเจนว่าเธอต้องการแต่งงานกับ ชิมวอนซอก (รับบทโดย คิมมินซอก (Kim Min Suk)) แฟนหนุ่มที่คบกันมานานของเธอ ถึงแม้จะมีวิธีการในการเปิดเผยแปลกไปบ้างก็ตาม
เธอมีความมุ่งมั่นทั้งในเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน อย่างตอนที่เธอกล้าจะพูดกับผู้จัดการร้านหลังจากหยาบคายใส่ลูกค้า
ทำไมคุณถึงถามตลอดเลยว่าฉันเป็นวันนั้นของเดือนหรือเปล่า ทำไมต้องโทษมดลูกที่ไม่ได้ทำอะไรผิดของฉันเวลาเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
ฉันคือคนทำผิด ไม่ใช่มดลูกของฉัน และผู้หญิงคนอื่นก็เหมือนกัน
มาอีดึม – “Witch’s Court”
“Witch’s Court” เป็นซีรีส์อีกเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงพลังของผู้หญิง ด้วยตัวละครหลักของเรื่องอย่าง อัยการมาอีดึม (รับบทโดย จองรยอวอน (Jung Ryeo Won)) ที่ฉีกทุกกฎของคำว่านางเอก ทั้งเจ้าเล่ห์และหัวรั้น เธอคืออัยการที่ไม่มีคนร้ายหน้าไหนกล้าเผชิญหน้าในศาล “Witch’s Court” นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศ โดยเฉพาะกับสตรีและเด็ก ไม่ใช่เรื่องที่จะมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยผู้เสียหาย แต่เรื่องนี้นางเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเองเลย
นอกจากเรื่องงานที่มุ่งมั่นเต็มที่ เรื่องส่วนตัวอย่างปมในอดีตของแม่ที่หายตัวเอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลโจกัปซู (รับบทโดย จุนคยองรยู (Jun Kwang Ryul)) เธอตั้งใจแน่วแน่และไม่เกรงกลัวสิ่งใดทั้งนั้น รวมถึงความสัมพันธ์ของเธอและยอจินอุก (รับบทโดย ยุนฮยอนมิน (Yoon Hyun Min)) คู่หูที่ต้องทำงานด้วยกัน แต่เมื่อรู้ความจริงว่าแม่ของเขาเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของแม่ตนเอง เธอก็พร้อมจะตัดขาดกับเขาและมุ่งไปตามเป้าหมายที่เธอวางไว้
คุณก็รู้ว่าเรื่องพูดนี้แค่พูดขอโทษคงไม่หาย
ฉันจะให้แม่คุณชดใช้เหมือนที่แม่คุณทำกับแม่ของฉัน
เรื่องนี้ขอแนะนำสำหรับคนที่กำลังหาซีรีส์สนุก เข้มข้น ลุ้นทุกตอน คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน
คังมีแร – “My ID Is Gangnam Beauty”
คังมีแร (รับบทโดย อิมซูฮวาง (Im Soo Hyang)) คือหนึ่งในตัวละครหญิงที่หลายคนชอบในปี 2018 นี้ ถึงแม้เธอจะไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง แต่เธอก็เรียนรู้ที่จะยอมรับตัวเอง และเลือกที่จะทำตามหัวใจตัวเองอย่างการกล้าที่จะคบกับโดคยองซอก (รับบทโดย ชาอึนอู (Cha Eun Woo)) หนุ่มหล่อที่กังวลว่าจะไม่เหมาะสมกับเขาแต่สุดท้ายเธอก็เลือกในสิ่งที่ตัวเองทำแล้วสบายใจ
นายไม่รู้หรอกว่าการเป็นฉันมันยากแค่ไหน
ถ้าฉันคบกับนาย ฉันจะเจ็บปวด
นอกจากนั้นแล้ว คังมีแรเป็นตัวอย่างของคนที่เลือกจะเงียบ มากกว่าจะมีปากเสียงให้ต่อความยาวสาวความยืด แต่ไม่ใช่เป็นคนเงียบแล้วอะไรก็ได้ เธอมีความคิดและรู้จักปกป้องตัวเองจากคนที่ไม่หวังดีกับชีวิตเธอ เธอรู้คุณค่าของคนที่เข้ามาอย่างปรารถนาดี และพร้อมที่จะเขี่ยคนที่ทำให้เธอไม่สบายใจออกไปจากชีวิต นับเป็นความกล้าหาญที่น่าประทับใจ
นายยังมองและตัดสินคนจากภายนอกอยู่อีกเหรอ
สำหรับฉันนายมันก็แค่ขยะ
คิมมีโซ – “What’s Wrong With Secretary Kim”
คิมมีโซ (รับบทโดย พัคมินยอง (Park Min Young)) เป็นบทคนทำงานที่หลายคนควรคิดและเอาเป็นแบบอย่าง ในตอนที่อียองจุน (รับบทโดย พัคซอจุน (Park Seo Joon)) พยายามรั้งเธอไว้ไม่ให้ลาออก แต่เธอมีความคิดและความตั้งใจของตัวเอง เหตุผลของเธอนั้นน่าคิดตามมากทีเดียวสำหรับคนที่กำลังทุ่มเททำงาน แต่กลับไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร
ถ้าฉันแก่ไป และทำงานข้างท่านไม่ได้ ท่านจะดูแลฉันไหมคะ ถ้าฉันตกงาน
โอเค ผมสัญญาว่าผมจะจ้างคุณทำงานไปตลอดชีวิต
ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้นค่ะ
คุณกำลังบอกให้ฉันอยู่ข้างคุณ ในขณะที่ฉันต้องแก่ตัวอย่างเดียวดาย
ความกล้าที่จะบอกยองจุนว่าเขาทำผิด ทำสิ่งที่ทำให้เธอเสียใจ ถือเป็นบุคลิกที่เราไม่ค่อยเห็นในตัวละครที่รับบทเป็นเจ้านายกับลูกน้อง แต่การพูดคุยกันนี้เองที่ทำให้เธอและยองจุนสามารถทำงานกันมาได้อย่างยาวนาน
เลขาคิมเป็นตัวอย่างของผู้หญิงที่ทุ่มเทในทุกด้าน และรู้จักพอเมื่อถึงเป้าหมายที่ตนวางไว้ แถมยังกล้าหาญ ทำงานเก่ง จนผู้หญิงหลายคนอยากเป๊ะ ปังได้เท่าคิมมีโซบ้าง
เอรา และ ซอลฮี – “Fight My Way”
“Fight My Way” เป็นเรื่องราวของเพื่อนสนิทที่ต่างพยายามเดินทางตามหาความสำเร็จในวัยผู้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปสรรคของตนเอง สำหรับเรื่องนี้ ชเวเอรา (รับบทโดย คิมจีวอน (Kim Ji Won)) และ แบคซอลฮี (รับบทโดย ซงฮายุน (Song Ha Yoon)) ทำให้ผู้ชมประทับใจในบทบาทตัวละครหลักฝ่ายหญิงของพวกเธอ
ชเวเอรา นางเอกของเรื่อง เป็นคนมั่นใจ แน่วแน่ และคิดว่าตัวละครนี้คล้ายคลึงกับใครหลายคน เราจะเห็นชีวิตเธอมีทั้งความสุข ความล้มเหลว ความฝันที่จะได้เป็นผู้ประกาศหลังไมค์ของเธอนั้นไม่ง่ายเลย แต่ถึงแม้จะยากแค่ไหน เธอก็ไม่ทิ้งความฝันของตนเอง เริ่มต้นจากการเป็นประชาสัมพันธ์ในห้าง รวมถึงไม่ย่อท้อในการไปสัมภาษณ์งาน
พูดง่ายๆก็คือ เรามีผู้ประกาศคนใหม่แล้ว
คุณบอกเองว่าผู้สมัครทุกคนจะได้สัมภาษณ์
ถ้าคุณไม่ให้โอกาส นี่ก็เหมือนขี้โกงนะคะ
ถึงแม้เธอจะล้มเหลวกี่ครั้ง โดนทิ้งกี่หน จนโกดงมัน (รับบทโดย พัคซอจุน (Park Seo Joon)) เพื่อนในวัยเด็กของเธอ เตือนแล้วเตือนอีก บอกในสิ่งที่เขาคิดว่าดีกับเธอ แต่เอราก็ไม่เชื่อและยังยึดมั่นในความตั้งใจของตัวเอง เธอไม่ยอมให้ใครมาบอกว่าตัวเองควรทำอะไร หรือไม่ควรทำอะไร
เห็นไหมว่าเขาแปลก บอกแล้วไงว่าให้ระวังตัว
ฉันไม่อยากทำ
มาต่อกันที่ แบคซอลฮี ผู้หญิงที่แสนธรรมดา ในขณะที่เอรามุ่งมั่นในเส้นทางความฝันของตัวเอง ซอลฮีแค่อยากทำงาน แต่งงาน และมีลูก เหมือนเช่นผู้หญิงทั่วไป ชีวิตของเธอนั้นแสนเรียบง่าย เธอไม่ต้องการอะไรมากมายไปจากการมีครอบครัวกับ คิมจูมัน (รับบทโดย อันแจฮง (Ahn Jae Hong)) แฟนหนุ่มที่คบกันมา 6 ปีของเธอ
เส้นทางความรักของเธอถูกทดสอบด้วยเรื่องราวเหมือนกับอีกหลายคู่ เมื่อความรู้สึกของจูมันเริ่มเปลี่ยนไป แต่คำพูดของซอลฮีเล่นเอาผู้ชมพูดไม่ออก
คนเราจะเหมือนเดิมได้ยังไงตลอด 6 ปี
ฉันไง หัวใจฉันยังเต้นแรงเพราะนาย
แต่เมื่อหมดทางจะรั้ง และเธอตัดสินใจเลิกกับจูมัน เธอก็เด็ดขาดแม้จะต้องสูญเสียความรักตลอด 6 ปีที่ผ่านมา
นายอาจจะคิดว่าฉันยังคงอยู่ที่เดิมแม้ว่านายจะไปไหน แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากทำมันอีกแล้ว
คังโซจู – “Bad Thief, Good Thief”
สำหรับเรื่องนี้มีตอนมากกว่าเรื่องอื่น รวมทั้งสิ้น 50 ตอน แต่จะบอกว่าสนุกนะ ต้องไปหาดู เรื่องนี้ได้ซอฮยอน (Seohyun) วง Girls’ Generation มารับบทคังโซจู หญิงสาวที่เติบโตมาเป็นตำรวจที่ดีเพื่อต่อสู้กับการคอรัปชั่นในฐานะพนักงานสืบสวนของสำนักงานอัยการ
อีกหนึ่งตัวละครหญิงที่ฉลาดและไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด เธอทำทุกอย่างเพื่อความถูกต้อง และเมื่อเธอพบว่า จางดอลมก (รับบทโดย จีฮยอนอู (Ji Hyun Woo)) ทำเรื่องผิดกฎหมาย ถึงแม้เธอจะเข้าใจ แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่ากฎหมายจะแก้ปัญหาได้ดีที่สุด
ฉันขอโทษ ฉันจะเล่าให้เธอฟังทีหลัง
หยุดอยู่ตรงนั้นนะ!
เธอก็ยังกล้าที่จะยอมรับในสิ่งที่ตัวเองได้ตัดสินใจ
เธอต้องโกหก เธอต้องทำในสิ่งที่เธอเกลียด
ฉันรู้ และฉันจะรับโทษของมันเอง
เพราะฉะนั้นอย่าบอกให้ฉันไป
โซจูตัดสินใจอยู่ฝ่ายดอลมกด้วยตนเอง ไม่ใช่เพราะเห็นแก่เขา แต่เธอคิดอย่างรอบคอบแล้วว่าจะเป็นวิธีที่จำเอาชนะประธานยุนจุงแทได้ เป็นหญิงแกร่งที่เก่งการต่อสู้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลยหากเธอถูกลักพาตัว “Bad Thief, Good Thief” เป็นซีรีส์อีกเรื่องที่บทตัวละครหญิงโดดเด่นไม่แพ้ตัวละครชายเลย
คุณคิดว่านางเอกเรื่องไหนเจ๋งที่สุด? บอกเรามาบ้างในคอมเม้นเลยนะ
ที่มา https://www.soompi.com
แปลโดย http://popcornfor2.com