วัฒนธรรมในการสร้างจุดเด่นในรายการ สร้างความอึดอัดใจให้กับคนดู เพราะเนื้อหาของรายการสร้างความประหลาดใจให้กับคนดูตลอดเวลา

คลิก!!!

"มีแค่ฉันคนเดียวรึป่าวน้าที่ดูแล้วอึดอัดจัง"

ช่วยส่งความคิดเห็นของคุณ พูดคุยกันผ่านทางคอมเมนต์ด้านล่างของเว็บหรือในคอมเมนต์แฟนเพจเฟซบุ็คของเราได้นะ

และตอนนี้ มาถึงตอนที่ 3 แล้ว

'คิดว่าถ้าเขาโดนว่ามากๆมันคงมีการเปลี่ยนแปลง ลองดูรายการออร์ดิชั่นอื่นๆบ้างก็ดี' ฉันคิดอย่างนั้น

แต่ว่าในวันที่ 27 กรกฎาคม Mnet ได้ออกอากาศ "Idol School (?????)" อีกครั้งและมันก็ยังเหมือนเดิม ไม่ซิ, มันแย่กว่าเดิมอีก สโลแกนของ "Idol School (?????)" กลายเป็น 'ชีวิตของเราโดนการทดสอบเข้ามาตลอดเวลา' เพราะไม่มีการให้ความรู้ มีแต่การต่อว่าวิพากษ์วิจารณ์

คนดูประมาณ 1.5% เมื่อออกอากาศตอนแรก, แต่ตอนนี้ตกลงมาอยู่ที่ 0.8% ในตอนที่ 3

Mnet 'idol school', มีฉันแค่นั้นหรอที่รู้สึกอึดอัด

มีแต่การตัดสินวิพากษ์วิจารณ์ มากกว่าการพิสูจน์ความสามารถ การแข่งขัน ไม่มีการให้ความรู้เลยด้วยซ้ำ

ในความเป็นจริง Idol School (?????) ไม่มีอะไรที่ทำให้ประทับใจเหมือนตอน 'Producer 101 (????101)' เลย

เหมือนเป็นการต่อสู้ที่คล้ายๆกับหนังเรื่อง battle royal และ hunger games ที่มีแต่ตะโกนบอกว่า

"เลือกฉัน เลือกฉัน เลือกฉัน"

เหมือนเป็นการขายรูปร่างภาพลักษณ์ของผู้หญิงเท่านั้น อย่างไรก็ตามกรณีที่เห็นเราควรมีการเช็คเนื้อหาของรายการนี้ เพราะ "Idol School (?????)" มีสิ่งเหล่านี้ที่แสดงออกมามากจนเกินไป

นักเรียนใน Idol School (?????) ถูกบังคับให้เสนอแต่ "ความสวย"

ตั้งแต่ชื่อของโรงเรียนแล้วที่ว่า "ก็เพราะว่าสวย"

เมื่อล้มตัวลงนอนเราต้องบอกกันและกันว่า "พรุ่งนี้ฉันจะสวยกว่านี้"

อาจจะพูดว่าความสวยนั้นไม่ใช่เพียงหน้าตาแต่เป็นความสวยที่ภายนอกด้วย

ฉากในรายการไม่ว่าจะเป็นห้องเรียน ห้องนอน ห้องแต่งตัว ทุกอย่างตกแต่งด้วยสีชมพูทั้งหมด

ลีซุนแช ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนพูดว่า

"นักเรียนทุกคนจะเป็นแม่และภรรยาของใครซักคน"

การพูดแบบนี้แสดงให้เห็นว่าความสวยในที่นี่หมายความว่าอะไร

"Idol School (?????)" จะต้องนอนบนหมอนสีชมพู ผ้าห่มสีชมพู ห้องสีชมพู

และมากกว่านั้น นักเรียน 40คนต้องนอนรวมกันในห้องใหญ่ แค่เห็นก็อึดอัดแล้ว เมื่อก่อนที่ฝึกทหารก็เป็นแบบนี้แต่สมัยนี้ไม่ทำแล้ว

แม้ผู้สอนทุกคนจะพูดว่า

"การที่จะรวมกันทำงานเป็นทีมได้นั้น ถ้ามีใครคนหนึ่งทำตัวโดดเด่นขึ้นมา ทีมก็อาจจะล้มได้"

เหมือนเป็นการพูดถึงการทำงานเป็นทีมที่ดี แต่ภาพลักษณ์ของโรงเรียนไม่ได้เป็นแบบนั้น คนที่จะอยู่รอดได้คือคนที่โดดเด่นที่สุด ผู้สอนทุกคนสร้างจิตวิญญาณของ "ความเป็นหนึ่งเดียว" แต่จริงๆแล้วพวกเขาไม่แคร์ ไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ

เพราะสุดท้ายแล้ว "การแข่งขัน" เป็นสิ่งที่เด็กนักเรียนทุกคนต้องทำ แต่ก็ต้องอยู่ใต้ความเป็นทีมเวิร์ก ต้องอยู่ภายใต้กรอบของโปรแกรม และการตัดสินและการเลือกของคนดูก็เป็นส่วนหนึ่ง ถ้ามีความพยายามก็จะกลายเป็นโดดเด่นไม่ใช่หรือ เพราะเหตุนี้ความพยายามทั้งหมดจึงออกมาในจอทีวีให้ได้เห็น

ที่ญี่ปุ่นเอง การแต่งชุดเครื่องแบบนักเรียนสั้นสไตล์ 'Bulma'นั้นเกือบจะหายไปแล้ว หรือจะเป็นการฝึกเรื่องการแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าอย่างเช่นเทน้ำใส่นั้น เหมือนเป็นการขายภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่ไม่ควร

สิ่งที่ยังไม่เห็นใน "Idol School (?????)" ครั้งที่แล้ว

ครั้งนี้สร้างความอึดอัดใจมากขึ้นกว่าเดิม รูปแบบของโรงเรียนกลายเป็น "ความหลอกลวง" แม้กระทั่งคำพูดของผู้อำนวยการที่ว่า

"ใครที่ยังมีความบกพร่องอยู่บ้างก็ไม่เป็นไร โรงเรียนนี้จะเป็นการสร้างความพยายาม ไม่ใช่ความสามารถที่พิเศษ หรือ พรสวรรค์เฉพาะตัว เราจะสร้างไอดอลให้เกิดขึ้น"

โปรดิวเซอร์ ชอนกยองนัม(ChoiKyongNam) ตอบคำถามว่า

"รายการนี้ต้องการให้เห็นการเติบโตด้านความสามารถของเด็กๆพวกนี้ เนื้อหาของเรื่องนี้ เหมาะสมที่สุดแล้ว"

อย่างไรก็ตามการประเมินผลและการแข่งขันนั้นจะต้องเกิดขึ้นในโรงเรียนนี้ จะมีการบอกกับนักเรียนตอนล่ะ สองครั้ง ทีมีการให้คะแนน 100% จากคนดู

ในตอนแรกนั้น มีคนที่แพ้เกิดขึ้น "การเต้นและการร้องไม่มีให้เห็น " ชางกวิยริกล่าว

การพูดแบบนี้เหมือนเป็นการหักหลัง เพราะคุณครูผู้ฝึกทุกคนพูดว่า "แค่เล่นให้สนุก และเท่ห์ๆก็พอ" แต่จริงๆมีการที่ประเมิน อย่างเช่น "การเต้นนำ" ที่บอกว่า "ไม่ต้องมีความสามารถให้เห็น แค่เล่นๆสนุกๆก็พอ แต่จริงๆแล้วผู้ที่ถูกเลือก คือผู้ร่วมรายการที่เต้นเก่งมาก และเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษอยู่แล้ว ไม่มีการสอนอย่างจริงจัง แค่ประเมินผล และสุดท้าย คนที่ไม่มีความสามารถก็เป็นเรื่องยากที่จะได้ยืนโดดเด่นอยู่ข้างหน้า

อยู่ดีๆก็มีการประกาศออกมาว่า

"ในอาทิตย์ที่ 4 จากนักเรียน 40คน นักเรียนที่อยู่ในเกณฑ์ตำ่สุดจะคัดออก 8คน"

เมื่อรับนักเรียนใหม่เข้ามา รายการพูดว่า ภายใน 11 อาทิตย์จะสอนและเสริมสร้างความสามารถของแต่ละคนเพิ่มขึ้น แต่จริงๆแล้ว ยังไม่ถึง 1เดือน มีนักเรียน 5คนแล้ว ที่ถูกบอกว่าจะไม่ได้ไปต่อ

ความรู้สึกของการโดนหักหลัง บางทีมันคือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของ "Idol School (?????)"

"แค่พยายามก็พอแล้ว" 'ความพยายาม' นั้นสำคัญที่สุดแล้ว

แต่พอออกมาอยู่ในสังคมของ Idol School แค่มีความพยายามนั้นยังไม่พอ พออยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงเหมือนมีแต่การหักหลังกัน นี่คือสิ่งที่เรารู้สึกใน "Idol School (?????)"

ที่มา http://news.joins.com

แปลโดย http://www.popcornfor2.com