หลายคนที่มีโอกาสติดตาม KUNG FU PANDA สองภาคแรกมาคงจะพอทราบดีว่าสำหรับเรื่องราวของเจ้าโป แพนด้าจอมขี้เกียจนั้นออกจะมีอุปนิสัยเหมือนตัวละคร “โนบิตะ” ในเรื่องโดราเอมอนพอสมควร เพราะตัวละครทั้งคู่ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ค่อยเอาถ่านซักอย่าง แต่ถ้าหากมีความมุ่งมั่นตั้งใจในเรื่องอะไรขึ้นมาก็ตามทั้งคู่ก็จะสามารถทำสำเร็จได้ในที่สุด 

ตั้งแต่ภาคแรกและภาคสองเราจะได้เห็นพัฒนาการของโปทีละเล็กทีละน้อยในการเคี่ยวกรำจากบรรดาปรมาจารย์ให้กลายเป็นสุดยอดฝีมือ แต่ระหว่างทางนั้นเราจะได้เห็นมิตรภาพของโปกับบรรดาเพื่อนๆ ในการทำให้ในที่สุดแล้วชัยชนะของโปกับเหล่าร้ายนั้นไม่ได้มาจากตัวโปแค่เพียงตัวเดียว มันยังพูดถึงความสามัคคีระหว่างหมู่คณะในการทำภารกิจด้วยนั่นเอง

สำหรับเรื่องราวในหนังภาคนี้ โปได้เรียนรู้ว่าจริงๆแล้วพ่อที่แท้จริงของเขาเป็นแพนด้าและได้เดินทางมาตามหาโปเช่นกัน ในขณะเดียวกัน ศัตรูตัวร้ายของหนังภาคนี้ก็คือไค วายร้ายกระทิงที่หมายมั่นจะกลับมาจากปรโลกด้วยการรวบรวมพลังจากปรมาจารย์คนอื่นๆ เพื่อเดินทางกลับมายังโลกมนุษย์เพื่อหมายมั่นจะครองยุทธภพและแน่นอนว่าเมื่อเรื่องนี้รู้มาถึงโปและ 5 พยัคฆ์พวกเขาจึงต้องหาทางหยุดยั้งไคให้ได้

เส้นเรื่องหลักของหนังภาคนี้มีด้วยกัน 2 เส้นเรื่องคือการที่โปได้พบกับพ่อของตัวเองและเขาก็ต้องการที่จะเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อไปพบกับหมู่บ้านแพนด้า ส่วนเส้นเรื่องที่ 2 ก็คือการหาทางหยุดยั้งไคในการครองยุทธภพซึ่งเป้าหมายสุดท้ายของไคก็คือการเดินทางไปยังหมู่บ้านแพนด้าเพื่อดูดเอาวิชาในการเยียวยารักษาอาการบาดเจ็บได้นั่นเอง 

ตลอดเส้นทางของ KUNG FU PANDA 3 แม้ว่าจะยังดำเนินเรื่องราวตามสูตรเดิมนั่นก็คือการแทรกสอดมุกตลกมาเรื่อยๆ ขำบ้างแป้กบ้าง แต่ส่วนมากก็เป็นมุกตลกที่ได้เห็นมาแล้วในหนังแบบ 2 ภาคแรก ดังนั้นความสดใหม่ของเจ้าโปจึงหายไป และความพยายามที่จะ “ตลก” ในหลายครั้งของหนังภาคนี้ก็มีความน่ารำคาญ 

ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่หนังพยายามจะสื่อสารกับคนดูมาตั้งแต่ภาคแรกก็ดูค่อนข้างจะพร่าเลือนไปไม่น้อยกับการจะบอกว่าความพยายามนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการทำอะไรก็ตามให้สำเร็จลุล่วง แต่หนังภาคนี้ก็ดูจะลักไก่และมักง่ายเอามากๆ ในการที่จู่ๆ โปก็มาฝึกหมู่บ้านแพนด้าให้สามารถมีความสามารถในการเอาชนะไคได้อย่างง่ายดาย (แบบภาคบังคับ) ว่าเป็นฝ่ายพระเอกต้องชนะสิจะพ่ายแพ้ไม่ได้ สุดท้ายเราก็เลยดูหนังแบบไม่ต้องเดาอะไรเพราะหนังก็นำเสนอมาในทิศทางที่ว่ายังไงตัวเอกก็ต้องชนะวันยังค่ำ (ไม่ได้สปอยล์แม้แต่นิดเดียวเพราะตัวอย่างหนังก็สปอยล์ทุกอย่างเกือบหมดแล้วเว้นเสียแต่มุกตลก) 

KUNG FU PANDA 3 จึงไม่มีอะไรแปลกใหม่อีกต่อไปกับหนังในแฟรนชายส์นี้ ถ้ามองหาความบันเทิงแบบง่ายๆไม่คิดมาก ก็พอดูได้แบบถูๆไถๆ เหมาะสำหรับคนรักแพนด้าอย่างแท้จริง

@พริตตี้ปลาสลิด

3 คะแนนจาก 5 คะแนน