8 สิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำ! ถ้าอยากได้ตั๋วเครื่องบินราคาถูก

2016-03-07 20:05:36

<p>Your browser does not support iframes.</p> <p>ขออภัยด้วยค่ะ ไม่สามารถแสดงผลบนเบราเซอร์ของคุณได้ค่ะ</p>
	คลิก!!!

เทศกาลสงกรานต์ใกล้เข้ามาแล้วหลายๆคนคงวางแผนจะไปเที่ยวกันแล้วละสิ และคิดว่าทุกคนที่วางแผนจะไปท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะมีงบจำกัด และก็คงอยากที่จะจองตั๋วเครื่องบินให้ได้ในราคาที่ถูกที่สุด บางคนถึงกับล้มเลิกทริปเพราะราคาตั๋วนั้นแพงเหลือเกิน แค่ซื้อตั๋วไปกลับก็แทบไม่เหลือเงินจะไปใช้ท่องเที่ยวหรือซื้อของแล้ว วันนี้ Jetradar จะมาบอก สิ่งที่คุณต้องทำ ถ้าคุณอยากจะจองตั๋วแล้วเหลือเงินไปทำอย่างอื่นด้วย

1. ซื้อตั๋วให้ถูกเวลา

โดยปกติแล้วเราไม่ควรจองตั๋วล่วงหน้าหรือช้าจนเกินไป ไม่ควรช้าเกินไปอย่างเช่นจองล่วงหน้า 1-2 สัปดาห์ การจองช้าไปนี่แหละที่ทำให้ได้ตั๋วราคาแพงแสนแพงเลยละครับ แต่เราก็ไม่ควรที่จะจองล่วงหน้าจนเกินไปอีก เช่น จองก่อนล่วงหน้าหนึ่งปี นี่ก็ล่วงหน้าเกินไป ดังนั้นตัวเลขที่แนะนำคือประมาณ 49-60 วันล่วงหน้า แต่จริงๆมันก็ขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทางและอีกอย่างหากวันเดินทางตรงกับวันหยุดเทศกาลต่างๆละก็ ตัวเลขพวกนี้ก็คงใช้อ้างอิงไม่ได้ เพราะวันหยุดเทศกาลจะมีคนเดินทางเป็นจำนวนมากซึ่งอาจจะต้องจองก่อนล่วงหน้านานกว่านั้น

2. ตั๋วบางวันก็ถูกกว่าวันอื่น

เลือกวันภายในสัปดาห์ให้ถูก จะทำให้ราคาตั๋วถูกลงไปอีก จากสถิติแล้ว วันที่ถูกที่สุดจะเป็นวันอังคารและวันพุธ ส่วนวันที่แพงที่สุดจะเป็นวันศุกร์และวันอาทิตย์ ส่วนวันอื่นๆ ราคาก็กลางๆครับ

3. เช็คราคาตั๋วอยู่บ่อยๆ

ราคาค่าโดยสารซึ่งเป็นราคาที่ผันผวนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาครับ พูดง่ายๆคืออาจจะถูกเปลี่ยนหลายครั้งในสัปดาห์ ดังนั้นทันทีที่เรารู้ว่าจะเดินทาง ให้เราเข้าไปเช็คราคาค่าโดยสารบ่อยๆ อาจจะสักอาทิตย์ละครั้ง แล้วเมื่อไหร่ที่ได้ราคาที่ต้องการแล้ว ก็จองตั๋วไปเลย เพราะอาจจะไม่ได้เห็นราคานี้อีกแล้ว

4. คำนึงถึงช่วงวันหยุดเทศกาลหรือหน้า high (ช่วงที่คนนิยมไปเที่ยว) ด้วย

เที่ยวบินยิ่งมีคนจองเยอะเท่าไหร่ ราคาตั๋วเครื่องบินก็ยิ่งแพงขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วช่วงที่คนเดินทางหนาแน่นหรือช่วงเทศกาลวันหยุดต่างๆตั๋วเครื่องบินจึงแพงกว่าวันอื่นๆเป็นปกติอยู่แล้ว อยากจะให้ลองศึกษาหาข้อมูลจุดหมายปลายทางที่จะไปให้ดีว่า ช่วงเวลาที่จะเดินทางตรงกับเทศกาลหรือวันอะไรที่คนจำนวนมากนิยมเดินทางไปหรือเปล่า ถ้าหลีกเลี่ยงได้ ก็จะดีครับ

5. เลือกตั๋วจากหลายสายการบิน

สายการบินทั้งในและต่างประเทศมีจำนวนมากมาย ยังไม่รวมถึงพวก Travel Agency ที่รับตั๋วจากสายการบินมาขายต่ออีกทีด้วย แน่นอนว่าราคาตั๋วของแต่ละที่ก็แตกต่างกันไป เราจึงควรเลือกหาตั๋วเครื่องบินจากหลายๆแห่งแล้วมาเปรียบเทียบราคากันอีกทีครับ หรือจะใช้บริการ Meta Search Engine อย่าง Jetradar ซึ่งจะรวบรวมราคาจากทุกสายการบินไว้ในที่เดียว

6. คำนึงเรื่องค่าสัมภาระด้วยครับ

การจะโหลดสัมภาระไป บางสายการบินโดยเฉพาะสายการบิน low cost จะคิดค่าสัมภาระเพิ่มเติม ถ้าน้ำหนักเกินกำหนด เวลาจองตั๋วก็ดูให้ดีๆนะครับว่าสายการบินกำหนดน้ำหนักกระเป๋าให้เท่าไหร่ แล้วถ้าจำเป็นต้องซื้อเพิ่มจริงๆก็ให้เปรียบเทียบดูนะครับว่าที่ไหนราคาถูกกว่ากัน และมีเตือนอีกอย่างหนึ่ง กระเป๋าที่จะถือขึ้นเครื่อง ทางสายการบินไม่ได้อนุญาติทั้งหมดนะครับ จะมีการจำกัดขนาดและน้ำหนักกระเป๋าด้วย และถ้าขนาดหรือน้ำหนักเกินคุณจะไม่มีทางเลือกและต้องโหลดกระเป๋าไปเท่านั้น โดยที่อาจจะต้องเสียค่าสัมภาระเพิ่มเติมอีกด้วย เช็คให้ดีๆก่อนเดินทางนะครับ

7. ตรวจสอบราคาตั๋วไปสถานที่ใกล้เคียง

พูดง่ายๆสมมุติว่าเราจะเดินทางไป ภูเก็ต อาจจะเช็คตั๋วสถานที่ใกล้เคียงอย่างเช่น กระบี่ อาจจะมีตั๋วที่ราคาถูกกว่าไปภูเก็ตก็ได้ เพราะเราก็จะมีทางเลือกในการซื้อตั๋วมากขึ้นอีกเท่าตัวเลย เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศก็ลองใช้ทิปส์นี้ดูนะครับ

8. ลองแยกจองตั๋ว แทนที่การจองครั้งเดียวหลายคน

จองตั๋วแยกกัน อาจจะได้ราคาดีกว่าการจองตั๋วรวมกันหลายคน เนื่องจากที่นั่งราคาถูกส่วนใหญ่แต่ละเที่ยวบินจะกำหนดจำนวนไว้ครับ เช่น ที่โซนนี้ราคา 2,500 ส่วนโซนนี้ราคา 3,500 ดังนั้น สมมุติเหตุการณ์ว่า เราจะจองตั๋วให้ผู้โดยสาร 3 คน แล้วที่นั่งบนเครื่องบินมีที่ราคา 2,500 เหลือ 1 ที่ และมีที่ราคา 3,500 เหลืออยู่อีกจำนวนหนึ่ง ถ้าจองพร้อมกัน 3 คนจะมีโอกาสที่คุณจะได้ตั๋วราคา 3,500 ทั้ง 3 คน เพราะเขามองว่าคุณมากันเป็นกรุ๊ป แต่ถ้าคุณจองแยกทีละคน จะมีคนหนึ่งได้ที่ราคา 2,500 ไปครับ ดังนั้นทุกครั้งที่จองตั๋วมากกว่า 1 คน ก็เริ่มต้นเช็คราคาของทั้งกลุ่มก่อน แล้วก็ลองแบ่งย่อยเหลือกลุ่มเล็กลง จากนั้นเทียบราคากันดูครับ