|
วันที่ 15 ก.พ. 59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายฮง ยงพโย รัฐมนตรีกระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์อ้างว่า เกาหลีเหนือใช้เงินรายได้ของคนงานที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมร่วมแกซองถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ในโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตัวเอง รวมถึงซื้อข้าวของแพงๆ ให้แก่บุคคลระดับสูงของประเทศ โดยรายได้จากการทำงานที่เป็นเงินสกุลต่างชาติได้ถูกส่งไปยังรัฐบาลเกาหลีเหนือ แทนที่จะถูกมอบให้คนงานโดยตรง ส่วนคนงานชาวเกาหลีเหนือได้รับค่าตอบแทนเป็นเพียงตั๋วเพื่อแลกซื้ออาหารกับข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเท่านั้น
ด้าน สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ รายงานโดยอ้างคำพูดของนายฮงว่า เกาหลีใต้ไม่เคยระงับการดำเนินการในนิคมแกซองก่อนหน้านี้ เพราะนานาชาติรู้ถึงความสำคัญของนิคมนี้ แต่ครั้งนี้เลือกที่จะระงับการดำเนินการ เพราะว่าเกาหลีเหนือจะนำเงินรายได้ จากการดำเนินการในนิคมนี้ไปพัฒนาอาวุธของตัวเอง ดังนั้น เกาหลีใต้จึงจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัยของพลเมืองตนเอง
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลเกาหลีใต้ได้ระงับการดำเนินการในนิคมแกซอง พร้อมทั้งเรียกตัวคนงานออกมาจากนิคม เพื่อตัดช่องทางรายได้ของทางเกาหลีเหนือ เป็นการตอบโต้ของเกาหลีใต้ที่ทางเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธรอบล่าสุด
ขณะที่ เกาหลีเหนือ ระบุว่า การกระทำของเกาหลีใต้เป็นการประกาศสงคราม และได้ตอบโต้ความเคลื่อนไหวของเกาหลีใต้ด้วยการไล่ชาวเกาหลีใต้ทั้งหมดออกจากนิคมแกซอง พร้อมประกาศจะเข้ายึดทรัพย์สินของบริษัทเกาหลีใต้ในนิคมแกซองอีกด้วย นอกจากนี้ ยังยืนกรานที่จะตัดสายฮอตไลน์ ที่เชื่อมการสื่อสารระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
สำหรับนิคมอุตสาหกรรมแกซอง เป็นความร่วมมือกันระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ และเป็นแหล่งสร้างรายได้ที่สำคัญของเกาหลีเหนือ ซึ่งบริษัทเกาหลีใต้ในนิคมนี้จ่ายค่าแรงให้คนงานเกาหลีเหนือจำนวน 54,000 คน ราว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,560 ล้านบาทต่อปี
ที่มา http://www.springnews.co.th/global/273947