หลากหลายเรือนเวลา แตกต่างทั้งสไตล์และราคา
2014-10-19 13:55:10
Advertisement
Pyramid Game

เรื่องของความชอบว่ากันไม่ได้จริงๆ เพราะมันเป็นความหลากหลายของใจคนที่ไม่แปลกที่จะต้องชื่นชอบชื่นชมในสิ่งที่แตกต่างกันไป เฉกเช่นเรื่องของ บางท่านอาจชอบความคลาสสิกของแบรนด์เก่าแก่ ขณะที่บางท่านเน้นหนักหนาในเรื่องของเทคโนโลยีที่เสริมแต่งให้มันเป็นซูเปอร์เรือนเวลาบนข้อมือ รวมไปถึงเรื่องของราคาที่แพงหูฉี่สำหรับหลายๆ คน แต่มันเรื่องขี้ปะติ๋วสำหรับบางท่าน

Longines Column-Wheel Single Push-Piece Chronograph

ประวัติศาสตร์และเกียรติภูมิของสวิตเซอร์แลนด์ที่สืบสานมากว่า 180 ปี เผยโฉมนาฬิกาจับเวลาสำหรับสุภาพบุรุษที่สั่งงานด้วยปุ่มกดเพียงปุ่มเดียว ด้วยแรงบันดาลใจจากรุ่นที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1913 สง่างามสไตล์วินเทจ บรรจุเครื่องจับเวลาซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับ Longines โดยเฉพาะ หน้าปัดสีขาว โชว์ตัวเลขอารบิกสีดำและสีแดงที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เข็มวินาทีเล็กที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา วงทดเวลา 30 นาทีที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา โดดเด่นด้วยเข็มสีฟ้า พร้อมสายหนังจระเข้สีน้ำตาล

Ball BMW Power Reserve

นาฬิกาเรือนนี้มีหน้าปัดที่ดูคล้ายแผงหน้าปัดรถยนต์ ก็ไม่แปลกหรอก เพราะสรรค์สร้างขึ้นโดยมีค่ายรถเยอรมันยักษ์ใหญ่อย่าง BMW เป็นพันธมิตร พร้อมเติมแต่งด้วยเทคโนโลยีที่ปรุงแต่งมาจากพื้นฐานของรถยนต์ อาทิ ระบบ Amortiser สำหรับซึมซับแรงสั่นสะเทือนแบบโช้กอัพรถ หรือหลอดแก๊ส H3 ขนาดจิ๋ว 10 ตัวให้แสงสว่างบนขีดชั่วโมงและเข็มนาฬิกาประหนึ่งไฟหน้ารถเพื่อสะดวกในการดูเวลาทุกสภาพแสง

Oris ProDiver Date

หากจะบอกว่านี่คือนาฬิกาข้อมือที่สวมโดยนักแสดงอย่าง Dwayne Johnson หลายท่านอาจทำหน้างง แต่ถ้าบอกว่านาฬิกาเรือนนี้แหละที่ The Rock สวมในเรื่อง Fast and Furious 6 แฟนๆ ภาพยนตร์คงร้องอ๋อ

อย่าเพิ่งคิดว่ามันถูกสร้างขึ้นมาเฉพาะแขนอันแข็งแกร่งฟิตเปรี๊ยะของสุดยอดนักมวยปล้ำเท่านั้น หนุ่มๆ ทุกท่านสามารถสวมใส่ให้เท่ได้เหมือนกัน พร้อมรับความทนทานแข็งแกร่งจากตัวเรือนไทเทเนียม กันน้ำได้ลึกถึง 1 กิโลเมตร และความสามารถอีกมากมาย

ไทเทเนียม กันน้ำได้ลึกถึง 1 กิโลเมตร และความสามารถอีกมากมาย

  

Rado HyperChrome Gold

มากับคุณสมบัติโมโนบล็อกชิ้นเดียวทั้งตัวเรือน นวัตกรรมชิ้นเก่งของ Rado มอบความทนทานต่อการขีดข่วน น้ำหนักเบา ปรับอุณหภูมิได้ตามร่างกายของผู้สวมใส่ รังสรรค์พิเศษสำหรับบุรุษผู้มีรสนิยม แต่งเติมความหรู ด้วยหน้าปัดทอง18K ขนาดหน้าปัด 45 มม. มีให้เลือกแบบหน้าปัดโรสโกลด์และหน้าปัดเยลโล่โกลด์ ตัวเรือนและสายไฮเทคเซรามิกสีดำ และกระซิบบอกดังๆ ว่า รุ่นนี้เป็น Limited Edition ผลิตมาจำนวนจำกัดแค่ 333 เรือนทั่วโลก เท่านั้น

  

Tissot Heritage Navigator

ออกมาในวาระฉลองครบ 160 ปี ด้วยสไตล์คลาสสิก ดีไซน์ย้อนยุคแบบเนวิเกเตอร์ แรงบันดาลใจจาก รุ่นดั้งเดิมในปี ค.ศ.1953 (ที่เผยโฉมเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของ Tissot) ตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 43 มม. โดดเด่นด้วยความสามารถในการดูเวลาได้ถึง 24 เมืองหลักทั่วโลก กลไกออโตเมติกโครโนมิเตอร์รับรองจาก COSC ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หน้าปัดโค้งทรงโดมทำจากแซฟไฟร์คริสตัล โชว์ตัวเลขอารบิกบอกเวลา สายหนังแท้ พร้อมตัวล็อก สลักหมายเลขประจำเรือนทุกเรือน และสามารถกันน้ำได้ลึก 30 เมตร

        

Storm Mk2 Circuit Special Edition

บ่งบอกความล้ำสมัยตั้งแต่แรกเห็นกับดีไซน์แห่งอนาคต ตัวเรือนทรงเหลี่ยมทำจากหินชนวน กันน้ำได้ลึก 50 เมตร เด่นสะดุดตาชวนให้มองตามแกมสงสัยว่า หน้าตาแบบนี้จะดูเวลาอย่างไรกัน ง่ายๆ เลยแถวซ้ายบอกเวลาเป็นชั่วโมง แถวขวาบอกเวลาเป็นนาที และหากลองส่องดูใกล้ๆ จะเห็นตัวหนังสือบอกค่าเวลาอยู่ ทำความเข้าใจแปบเดียวก็รู้เรื่อง แต่ที่แน่ๆ มันปลอดภัยจากการแอบมองเวลาของคนด้านข้างแน่นอน

    

Qlocktwo W by Biegert & Funk

ผ่านด่านทดสอบแรกของ Storm Mk2 มาแล้ว ด่านต่อไปเป็นอีกนวัตกรรมการบอกเวลา โดยไม่มีตัวเลขและเข็มนาฬิกาอยู่บนหน้าปัดแต่อย่างใด ด้วยการแสดงค่าเป็นคำภาษาอังกฤษ ผ่านตัวอักษรทั้งหมด 110 ตัว ที่เรียงรายไปมาบนหน้าปัดสีดำทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส (คล้ายเกมปริศนาอักษรไขว้) ดัดแปลงมาจากนาฬิกาแขวนผนังอันเลื่องชื่อของ Biegert & Funk ที่ทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ หากต้องการดูเวลา ก็เพียงแค่กดปุ่มที่อยู่ด้านข้างของตัวเรือนสแตนเลสสตีล ตัวหนังสือก็จะปรากฏออกมาบนหน้าปัดทันที

Nixon The Diplomat

หน้าตาดูทะมัดทะแมงมากๆ ไม่บอกก็รู้ว่าเหมาะเหม็งกับขาลุยทั้งหลาย ออกแนวทรงนาฬิกาทหารนิดๆ สะกิดใจวัยรุ่นหน่อยๆ ด้วยเสน่ห์ของตัวเรือนสเตนเลสเสริมให้เข้ากับการแต่งตัวหลากหลายสไตล์ ฟังก์ชัน

 

ที่มา  www.sanook.com

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X