"จ๊ะ" ขอทางค่าย เป็นตัวตนชัดเจน ปัดข่าวเกาเหลา ไม่เคยคิดแทนที่ "ใบเตย"
2014-10-01 17:47:02
Advertisement
คลิก!!!

       ที่นี่หมอชิตวันอาทิตย์นี้เป็นเรื่องราวสองเรื่องสองรสของสองครอบครัวแขกรับเชิญ ที่มีเรื่องราวราวการสู้ชีวิตไม่แพ้กัน กับแขกรับเชิญครอบครัวแรก “ชีวิต ลูกตลก ที่ไม่ตลก” ของ ลูก ดี๋ ดอกมะดัน กับ บีม-วรานิษฐ์ จิราโรจน์เจริญ ,เบล-ชยานิษฐ์ จิราโรจน์เจริญ และคุณแม่ สาวลักษณ์ ศรีสวัสดิ์
       
       เนื้อหาในรายการวันนี้ เป็นเรื่องราวมรสุมครั้งใหญ่ในชีวิต ของครอบครัวของลูกและภรรยาของ ดี๋ ดอกมะดัน ในวันที่พวกเค้าเป็นหนี้ที่ตัวเองและครอบครัวไม่ได้ก่อ แต่ต้องแบกรับหนี้เกือบ 10 ล้านจากความใจดีของพ่อที่ช่วยไปค้ำประกันบ้านและรถให้กับเพื่อน จนหนี้ทั้งหมดมาลงที่ครอบครัวเธอ โดนยึดและอายัดทรัพย์สินของครอบครัว จนเกือบไม่มีบ้านให้อยู่ ในระหว่างที่คุณพ่อนอนป่วยอย่างไร้ความหวังจนกระทั่งสูญเสียคุณพ่อไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว พายุหนี้ยังไม่ทันผ่าน ก็ยังต้องมาเจอมรสุมใหญ่อีกครั้งเมื่อเบล น้องเล็กของบ้านป่วยเป็นมะเร็ง แต่สุดท้ายก็สู้รักษากันจนหาย นับว่าเป็นช่วงเวลาสุดโหดของครอบครัว แล้วผู้หญิง 3 คนนี้ผ่านเรื่องราวมาอย่างไร และชีวิตพวกเค้าเรียนรู้อะไรได้บ้าง อยากให้ติดตามชมกันในรายการ
       
       อีกครอบครัวที่ต้องสู้ชีวิตของ “จ๊ะ อาร์สยาม (คันหู)” หรือ “จ๊ะ-นงผณี มหาดไทย” เส้นทางชีวิตเด็กบ้านนอกจนๆ กตัญญูทำงานหาเลี้ยงพ่อแม่ ด้วยการเป็นนักร้อง จนโด่งดังมีกระแสข่าวออกมาว่า จ๊ะ อาร์สยาม (คันหู) อายุแค่ 23 ร้องคันหู แค่ 2 ปี มีเงิน 14 ล้าน ฝากธนาคารไว้ 8 ล้าน เอามาสร้างบ้านให้พ่อให้แม่ 2 ล้าน แถมซื้อรถใหม่อีก 3 คัน / ส่งตัวเองเรียนมาตลอด จนตอนนี้เรียนระดับปริญญาโทแล้ว ซึ่ง เจ้าตัวเล่าว่า
       
       จ๊ะมีวิธีเก็บเงินยังไงบ้างจากที่ไม่มีอะไรเลยถึงได้ซื้อบ้านซื้อรถได้ขนาดนี้เห็นว่าจ๊ะให้เงินพ่อแม่ทุกๆ เดือนเลยเหรอ ? 
       จ๊ะ : "หนูก็เก็บมาเรื่อยๆ ตั้งแต่สมัยก่อน ร้องกับอิเล็คโทนได้วันละ 500 บาท จนมาวงเทอร์โบก็ได้คืนละ 700 บาท จ๊ะก็ให้แม่เก็บ ตอนนั้นนะหนูเก็บได้ประมาณ 2 แสนเลยนะ ก่อนที่จะมาเป็นจ๊ะคันหู พอเป็นจ๊ะคันหู ก็ได้เพิ่มเป็น 1,500 บาท แล้วก็มาเป็น 3,000-5,000 ตอนนั้นเก็บได้เป็น 1,300,000 เลยนะ เราประหยัดจริงๆ แล้วจ๊ะก็ตั้งใจว่าจะต้องให้ตังค์พ่อกับแม่ทุกเดือน ภาระหนูต่อเดือน รวมทั้งให้พ่อให้แม่ด้วย ถ้าหนูหาได้ 6-7 หมื่นหนูก็อยู่ได้ละ แล้วที่เราไปซื้อที่เราก็มองว่ามันมีแต่ขึ้นกับขึ้นนะ เป็นการลงทุน หนูไม่เคยมีที่เลยนะตั้งแต่ตอนแรก ก็มีคิดว่าบางทีอาจจะทำหอพักให้นักศึกษาเช่า แต่ก็ต้องคิดดูดีๆ ก่อน เพราะมันต้องลงทุนเยอะ
       
       เราทำงานหนักหาเงินได้เองขนาดนี้ เราให้รางวัลอะไรกับตัวเองบ้างไหม อย่างซื้อของที่เราอยากได้บ้างเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ?
       จ๊ะ : "ถามว่าหนูอยากได้อย่างคนอื่นไหม อยากได้มาก ทั้ง ไอโฟน 6 ,ไอแพต แต่เวลาจะซื้ออะไรหนูจะมาคิดก่อนว่าถ้าหนูซื้อไปแล้วเงินในบัญชีหนูจะเหลือเท่าไหร่ จะพอใช้ไปตลอดชีวิตไหม หนูงก จะคิดหมด เพราะหนูคิดว่าอะไรมันก็ไม่แน่นอนนะ"
       
       ตอนนี้ได้ข่าวว่ากำลังเรียนปริญญาโทอยู่ใช่ไหมเรียนคณะอะไรทำไมถึงอยากเรียนปริญญาโท ? 
       จ๊ะ : "หนูไม่ได้เรียนเก่งเลยพี่ แต่ก็มีเพื่อนชวนไปเรียนก่อน เรียนจบปริญาตรีคณะบริหาร ที่ ม.เทคโนโลยีราชมงคล ที่สุพรรณ ที่เราเลือกเรียนที่นี่เพราะใกล้บ้าน แล้วมันก็ไม่แพงด้วย เพราะหนูต้องทำงานส่งตัวเองเรียนไงพี่ เรื่อง ป. โท นี่จริงๆ คือพ่ออยากให้เรียน เขามองว่าในเมื่อมีโอกาสก็น่าจะเรียน อนาคตมันไม่แน่ไม่นอนจะหากินแบบนี้ได้อีกแค่ไหน ตอนนี้เราก็พอมีตังค์แล้ว ก็เรียนที่ ม. รัตนบัณฑิต ที่กรุงเทพ เรียนคณะ เศรษฐศาสตร์ นี่ก็พึ่งเรียนมาได้ 3 เดือน ไม่รู้จะรอดไหมยากมากเขาเน้นให้เราไปทำการศึกษาวิจัยเอง"
       
       จ๊ะมีความฝันหรือมีอะไรที่อยากทำแล้วไม่ได้ทำอีกบ้าง ? 
       จ๊ะ : "หนูพูดตามตรงนะพี่ หนูไม่ได้เป็นคนคิดอะไรมาก ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันก็เกินฝันแล้ว พอเข้าไปในค่ายปุ๊บก็มีข่าวทันที ว่าเราอยากดังจะไปแทนที่ใบเตย ทำให้เกาเหลาไม่ถูกกัน"
       
       เรารู้สึกยังไง ? 
       จ๊ะ : "ไม่จริงเลยพี่ พี่เตยเขาดีกับหนูมาก เขาดังระดับซุป'ตาร์ไปแล้ว ได้ค่าตัวเป็นแสนๆ หนูยังเป็นแค่นักร้องบ้านนอกได้แค่หลักหมื่น จริงๆ ถามว่าอยากดังไหม หนูตอบได้เลยว่าอยากดังมาก เอ้ามีใครไม่อยากดัง แต่หนูไม่คิดว่าใครจะไปแทนที่ใครได้หรอกนะ ทุกคนมีตัวตนไม่เหมือนกัน"
       
       นอกจากจะเป็นคนที่ร้องเก่งเต้นเก่งแล้ว จุดเด่นของน้องจ๊ะอีกอย่างก็คือเป็นคนที่เปิดเผยมาก...กกกกกไม่ว่าจะไปศัลยกรรมทำอะไรกับตัวเองมาบ้าง บอกหมด ? 
       จ๊ะ : "คือจ๊ะตั้งใจเลยว่าขอเป็นคนชัดเจน ถึงจะแรงแต่ก็จริงใจ จ๊ะไม่ชอบโกหก อะไรที่จ๊ะทำจ๊ะพูดได้หมด ถ้าไม่กระทบกับคนอื่น อย่างเรื่องศัลยกรรมจ๊ะจะบอกเลย ว่าจ๊ะทำอะไรมาบ้าง คนจะมาบอกว่าหนูหน้าเปลี่ยนเราก็บอกเลยว่าหน้าไม่ได้ทำ จมูกไม่ได้เสริม ตา ปาก คางไม่ได้ทำเรากลัวคนจะจำเราไม่ได้ ก็แค่ไปสักคิ้วมา ฉีดโบท็อก ดัดฟัน เท่านั้นเอง จ๊ะจะไปทำนมก็จะบอกเลย ว่าทำที่ไหนราคาเท่าไหร่ลงในไอจีเลย เพราะเวลาไปงานคนจะชอบมาถามเราเยอะจะได้ไม่ต้องตอบหลายรอบ และที่หนูต้องทำนมเพราะมันเป็นความตั้งใจแต่แรกแล้วเพราะเราไม่มีจริงๆ แบนมากๆ เชื่อไหมเมื่อก่อนใส่เกาะอกไม่ได้เลยเต้นแล้วมันจะหลุดมากองที่เอว เราก็อยากมั่นใจใส่ชุดแล้วสวยเราก็ไม่ได้ทำใหญ่เกินตัวเอาแค่ดูธรรมชาติ ทางค่ายก็มีเรียกเข้าไปคุยนะ แต่จ๊ะขอกับทางค่ายเลยว่าเราจะไม่พูดโกหก เพราะไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามถ้าเราโกหกครั้งนึงแล้วคนเขารู้ เขาก็จะไม่เชื่ออะไรเราอีกเลย เราขอเป็นคนชัดเจนแบบนี้ค่ะ อยากให้คนที่เขาชอบที่เราเป็นเรา ถ้าเขาไม่ชอบก็ไม่เป็นไร อะไรที่ไม่ใช่ตัวเราเราก็จะไม่ทำ อย่างเพลง หรือท่าเต้นจ๊ะก็จะช่วยคิดเอาที่เข้ากับเรา เสื้อผ้าทุกชุดก็จะออกแบบเองแล้วไปปรึกษาพี่เขาอีกทีนึง”
       
       มีเรื่องราวและแง่คิดมากมายจากการเดินผ่านมรสุมชีวิตของทั้งสองครอบครัว ติดตามชมเรื่องราวสู้ชีวิตของสองครอบครัวนี้ได้ในรายการ “ที่นี่หมอชิต” คืนวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคมนี้ ทางช่อง 7

ที่มา  http://www.manager.co.th/

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X